บทที่ห้า(1)

1186 คำ
เมื่อตะวันเริ่มโผล่ขึ้นทักทายท้องฟ้าฉันก็เด้งตัวลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟันและใช้เวลาเลือกชุดที่จะใส่ไปเดตกับพี่คริสจนตอนนี้บนเตียงนอนมีเสื้อผ้ากองเป็นภูเขาเลากา ฉันคว้าชุดไปสามถึงสี่ตัวเพื่อไปให้มิราช่วยคัดสรร “มิราาาา~ มิรา~” ฉันตะโกนเรียกมิราอยู่ที่หน้าห้องของเธอ “ตื่นเร็ว มีเรื่องด่วนเรื่องใหญ่มาก ๆ” และเคาะประตูห้องจนกว่าเจ้าของห้องจะเปิดออกมาทักทาย “เกิดอะไรขึ้น?” ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับสีหน้าเป็นกังวลของพี่ใหญ่สุดในบ้าน กังวลว่าจะเกิดเหตุร้ายบางอย่างขึ้นกับคนในครอบครัวแต่แล้วกับเจอน้องสาวที่กำลังยิ้มแฉ่งกับเสื้อผ้าเต็มมือ มิรารู้ได้ทันทีเลยว่าเรื่องใหญ่ที่น้องสาวตัวดีอย่างไอวานั้นหมายถึงอะไร “คือว่าชุดไหนดี?ฉันใส่ชุดไหนไปเดินเทศกาลกับพี่คริสวันนี้ดี?” “นัดพี่คริสกี่โมง?” “เก้าโมงเช้า” มิราเหลือบมองนาฬิกาก็ทำหน้ายู่ใส่ทันที “แต่นี่มันหกโมงเช้า!!คนจะนอน!” มิราที่พยายามปรือตามองได้ปิดเปลือกตาลงและเดินหันหลังกลับจะกระโดดลงเตียงตามเดิมแต่ก็ถูกฉันดึงฝืนไว้ไม่ให้ล้มตัวลงนอน “เดี๋ยวสิมิรา อย่าเพิ่งไปนอนต่อ ช่วยคิดหน่อยว่าเอาตัวไหนดี ตัวนี้ ตัวนี้หรือตัวนี้?” ฉันรีบแขวนเสนอชุดทั้งหมดที่ได้ผ่านการคัดเลือกมาแล้วหนึ่งขั้น “ตัวนี้ดีไหม?สีขาวดูเรียบร้อยกระโปรงยาวเลยเข่า” “เรียบร้อยเกินไปไม่เหมาะกับแก” “ชิ!แล้วตัวนี้ละชุดกระโปรงสีฟ้าคอบัวมีดอกไม้ตกแต่งกระจุกกระจิกพอให้น่ารักหวาน ๆ แถมความยาวของกระโปรงก็กำลังพอดีด้วยชายมันเลยเข่าขึ้นมานิดหนึ่ง” มิราส่ายศีรษะฉันจึงวางลงและหยิบอีกตัวขึ้นมา “สีเหลืองตัวนี้ก็ไม่!อันนั้นก็ไม่” “แล้วจะให้ใส่ตัวไหนเล่า?แก้ผ้าไปเดินรึไง ตัวนั้นก็ไม่เอาตัวนี้ก็ไม่ดี” ฉันยืนค้ำเอวถอนหายใจพรืดใหญ่มองมิราที่ยังคงนั่งตาปรือ “ตั้งใจหน่อยสิ คนจะไปเดตทั้งที ช่วยเลือกหน่อยมิรา!” ฉันแขวนเสื้อในมือเก็บเข้าที่ก่อนจะใช้นิ้วถ่างตามิราขึ้นทั้งสองข้าง “โอ๊ยยยยย!ตื่นแล้วตื่นแล้ว!ปล่อยเดี๋ยวนี้ไอ้วา!” มิราฟาดมือฉันรัว ๆ เพื่อให้ปล่อยออก “แกไม่ควรใส่กระโปรง ไปใส่กางเกงตามที่แกใส่ทุกวันโน่น” “ทำไมอะ ฉันก็อยากหวานแหววบ้างอะไรบ้าง พี่คริสอุตส่าห์กลับมาในรอบสองปีเลยนะ ฉันไม่ได้เจอพี่คริสมาสองปีเลยนะต้องแต่งสวยหน่อยสิ ทำคะแนนหน่อย” “ก็จะได้ไม่ต้องมาคอยระวังว่ากระโปรงจะลอยขึ้นไปคลุมหัวตอนไหนไงเล่า!แกเรียบร้อยกับเขาเป็นที่ไหนกัน” ก็จริงตามที่มิราพูดทุกประการเลย ฉันไม่ค่อยชินกับความเรียบร้อยคอยระวังตัวสักเท่าไร “งั้นเอาตามนั้น ฉันก็ไม่อยากอับอายต่อหน้าพี่คริสเหมือนกัน แต๊งนะมิรา นอนต่อไปไม่กวนแล้ว” ฉันตบบ่าเธอสองสามทีก่อนรวบเสื้อผ้าผู้หญิงหวานติดมือกลับไปห้องด้วย เสื้อที่หยิบมาให้มิราช่วยเลือกก็คือชุดทั้งหมดที่ดูเป็นผู้หญิงหวานและมันก็มีแค่นั้นแหละ ในที่สุดฉันก็ใส่กางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อยืดแสนธรรมดา “ต้องคล่องตัวอย่างนี้สิ!” และเมื่อออกจากห้องก็เห็นมิราที่ยังคงอยู่ในชุดนอนกำลังยืนทำกับข้าวกับปลาอยู่ “ไม่นอนต่อเหรอมิรา?วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ?” “เออ!ใครใช้ให้มาก่อกวนตั้งแต่เช้า ตอนนี้ตาสว่างแล้วนอนไม่หลับแล้ว แล้วจะอยู่กินข้าวเช้าก่อนมั้ย” “กิน!ทำเผื่อพี่คริสให้ด้วยนะที่หนึ่ง” “เออรู้ แล้ววันนี้จะสวีทกับพี่คริสทั้งวันเลยไหมเนี่ย?จะได้ไม่ต้องเตรียมข้าวเย็นสำหรับแก” “อือ วันนี้ทั้งวันจะใช้เวลากับพี่คริส… แล้วมิราว่าถ้าฉันจะบอกรักพี่คริสวันนี้ดีไหม?” “แกก็บอกรักพี่คริสทางสายตาทุกวันอยู่แล้วนี่” “ไม่สิ บอกรักแบบรักอะ” “รักแบบคนเป็นแฟนกัน?” “เยสสส~ มิราก็รู้ว่าฉันชอบพี่คริสแค่ไหน” “อื้ม… แกแน่ใจนะว่าพี่คริสจะโอเคคิดแบบเดียวกันน่ะ” “แน่สิ ไม่ว่าฉันจะแอบฉวยโอกาสทำอะไรพี่คริสก็ไม่เคยเห็นว่าเลยนะ” ฉันคิดไปถึงตอนที่กอด หอมแก้มหรือกระทั่งวันก่อนที่เกือบจะได้จูบกับพี่คริส พี่คริสก็ไม่เห็นมีท่าทีที่จะปฏิเสธตรงไหน ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าะพี่คริสอาจจะรู้สึกแบบเดียวกันกับฉัน “พี่คริสใจดีจะตาย บางทีอาจจะกลัวแกเสียใจก็ได้” “มิรา!เอาซะเสียความมั่นใจเลย!” “เออ ๆ ทำตามที่ใจแกคิดเถอะ แต่ก็ดูจังหวะให้ดีด้วยล่ะ ฉันไม่อยากมาคอยปลอบเด็กร้องไห้ขี้มูกโป่ง” “ไม่มีทางร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่นอน มิราเป็นกำลังใจให้ด้วยนะฉันจะสารภาพรักวันนี้แหละ!” ในขณะที่ฉันกำลังคุยกับมิราเรื่องพี่คริสด้วยสายตาที่มุ่งมั่นอยู่นั้นประตูบ้านก็ดังขึ้น “สงสัยพี่คริสมาแล้ว” ฉันรีบวิ่งแจ้นไปหน้าประตูและเปิดรับคนที่กำลังรอทันที “พี่คริสสสสส~ ทานข้าวเช้าก่อนไปนะคะ เข้ามาเร็ว น่าจะทำเสร็จแล้ว… ใช่ไหม?” ฉันลากพี่คริสเข้ามาในบ้านและหันไปถามแม่ครัวของบ้านว่าอาหารเช้าที่กำลังทำนั้นพร้อมกินแล้วหรือยัง “เรียบร้อย พี่คริสเชิญเลยค่ะ เดี๋ยวมิราเสิร์ฟให้” “ส่วนวาจะหาน้ำเย็น ๆ มาให้นะคะ” ฉันหยิบแก้วน้ำใบโปรดสุดหวงแหนขึ้นมาและรินน้ำใสเย็นสะอาด “นี่ค่ะพี่คริส น้ำเย็นอร่อย ๆหวาน ๆ มาแล้ว” “น้ำเปล่ามันหวานตรงไหน?” พี่คริสรับแก้วมาไว้ในมือก่อนหมุนสำรวจสงสัยว่าใส่ไซรัปหรือสารให้ความหวานลงไปหรือเปล่า “หวานตรงทีวาเป็นคนรินให้พี่คริสไงคะ” “นั่นแก้วน้ำสุดหวงมันด้วยนะคะพี่คริส ไอวามันใช้แก้วนั้นเดือนละครั้งเห็นจะได้มั้งคะพี่คริส ไม่สิน่าจะปีละครั้งมากกว่า” “มิราก็พูดเกินไป! พี่คริสเราทานข้าวกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยววันนี้วาจะพาพี่คริสไปศาลเจ้าด้วย” “เปิดแล้วเหรอ?” “ช่ายยย เปิดเมื่อปีที่แล้วเองค่ะหลังจากปิดมานาน” ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านได้เปิดให้ทุกคนเข้าชมและสักการะอีกครั้งหลังจากปิดมาไม่ต่ำกว่าห้าปี ทุกครั้งที่มีเทศกาลนักท่องเที่ยวจึงทำได้เพียงยกมือไหว้ขอพรด้านนอกเท่านั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม