เมื่อตะวันเริ่มโผล่ขึ้นทักทายท้องฟ้าฉันก็เด้งตัวลุกขึ้นอาบน้ำแปรงฟันและใช้เวลาเลือกชุดที่จะใส่ไปเดตกับพี่คริสจนตอนนี้บนเตียงนอนมีเสื้อผ้ากองเป็นภูเขาเลากา
ฉันคว้าชุดไปสามถึงสี่ตัวเพื่อไปให้มิราช่วยคัดสรร
“มิราาาา~ มิรา~”
ฉันตะโกนเรียกมิราอยู่ที่หน้าห้องของเธอ
“ตื่นเร็ว มีเรื่องด่วนเรื่องใหญ่มาก ๆ”
และเคาะประตูห้องจนกว่าเจ้าของห้องจะเปิดออกมาทักทาย
“เกิดอะไรขึ้น?”
ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับสีหน้าเป็นกังวลของพี่ใหญ่สุดในบ้าน กังวลว่าจะเกิดเหตุร้ายบางอย่างขึ้นกับคนในครอบครัวแต่แล้วกับเจอน้องสาวที่กำลังยิ้มแฉ่งกับเสื้อผ้าเต็มมือ มิรารู้ได้ทันทีเลยว่าเรื่องใหญ่ที่น้องสาวตัวดีอย่างไอวานั้นหมายถึงอะไร
“คือว่าชุดไหนดี?ฉันใส่ชุดไหนไปเดินเทศกาลกับพี่คริสวันนี้ดี?”
“นัดพี่คริสกี่โมง?”
“เก้าโมงเช้า”
มิราเหลือบมองนาฬิกาก็ทำหน้ายู่ใส่ทันที
“แต่นี่มันหกโมงเช้า!!คนจะนอน!”
มิราที่พยายามปรือตามองได้ปิดเปลือกตาลงและเดินหันหลังกลับจะกระโดดลงเตียงตามเดิมแต่ก็ถูกฉันดึงฝืนไว้ไม่ให้ล้มตัวลงนอน
“เดี๋ยวสิมิรา อย่าเพิ่งไปนอนต่อ ช่วยคิดหน่อยว่าเอาตัวไหนดี ตัวนี้ ตัวนี้หรือตัวนี้?”
ฉันรีบแขวนเสนอชุดทั้งหมดที่ได้ผ่านการคัดเลือกมาแล้วหนึ่งขั้น
“ตัวนี้ดีไหม?สีขาวดูเรียบร้อยกระโปรงยาวเลยเข่า”
“เรียบร้อยเกินไปไม่เหมาะกับแก”
“ชิ!แล้วตัวนี้ละชุดกระโปรงสีฟ้าคอบัวมีดอกไม้ตกแต่งกระจุกกระจิกพอให้น่ารักหวาน ๆ แถมความยาวของกระโปรงก็กำลังพอดีด้วยชายมันเลยเข่าขึ้นมานิดหนึ่ง”
มิราส่ายศีรษะฉันจึงวางลงและหยิบอีกตัวขึ้นมา
“สีเหลืองตัวนี้ก็ไม่!อันนั้นก็ไม่”
“แล้วจะให้ใส่ตัวไหนเล่า?แก้ผ้าไปเดินรึไง ตัวนั้นก็ไม่เอาตัวนี้ก็ไม่ดี”
ฉันยืนค้ำเอวถอนหายใจพรืดใหญ่มองมิราที่ยังคงนั่งตาปรือ
“ตั้งใจหน่อยสิ คนจะไปเดตทั้งที ช่วยเลือกหน่อยมิรา!”
ฉันแขวนเสื้อในมือเก็บเข้าที่ก่อนจะใช้นิ้วถ่างตามิราขึ้นทั้งสองข้าง
“โอ๊ยยยยย!ตื่นแล้วตื่นแล้ว!ปล่อยเดี๋ยวนี้ไอ้วา!”
มิราฟาดมือฉันรัว ๆ เพื่อให้ปล่อยออก
“แกไม่ควรใส่กระโปรง ไปใส่กางเกงตามที่แกใส่ทุกวันโน่น”
“ทำไมอะ ฉันก็อยากหวานแหววบ้างอะไรบ้าง พี่คริสอุตส่าห์กลับมาในรอบสองปีเลยนะ ฉันไม่ได้เจอพี่คริสมาสองปีเลยนะต้องแต่งสวยหน่อยสิ ทำคะแนนหน่อย”
“ก็จะได้ไม่ต้องมาคอยระวังว่ากระโปรงจะลอยขึ้นไปคลุมหัวตอนไหนไงเล่า!แกเรียบร้อยกับเขาเป็นที่ไหนกัน”
ก็จริงตามที่มิราพูดทุกประการเลย ฉันไม่ค่อยชินกับความเรียบร้อยคอยระวังตัวสักเท่าไร
“งั้นเอาตามนั้น ฉันก็ไม่อยากอับอายต่อหน้าพี่คริสเหมือนกัน แต๊งนะมิรา นอนต่อไปไม่กวนแล้ว”
ฉันตบบ่าเธอสองสามทีก่อนรวบเสื้อผ้าผู้หญิงหวานติดมือกลับไปห้องด้วย
เสื้อที่หยิบมาให้มิราช่วยเลือกก็คือชุดทั้งหมดที่ดูเป็นผู้หญิงหวานและมันก็มีแค่นั้นแหละ
ในที่สุดฉันก็ใส่กางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อยืดแสนธรรมดา
“ต้องคล่องตัวอย่างนี้สิ!”
และเมื่อออกจากห้องก็เห็นมิราที่ยังคงอยู่ในชุดนอนกำลังยืนทำกับข้าวกับปลาอยู่
“ไม่นอนต่อเหรอมิรา?วันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ?”
“เออ!ใครใช้ให้มาก่อกวนตั้งแต่เช้า ตอนนี้ตาสว่างแล้วนอนไม่หลับแล้ว แล้วจะอยู่กินข้าวเช้าก่อนมั้ย”
“กิน!ทำเผื่อพี่คริสให้ด้วยนะที่หนึ่ง”
“เออรู้ แล้ววันนี้จะสวีทกับพี่คริสทั้งวันเลยไหมเนี่ย?จะได้ไม่ต้องเตรียมข้าวเย็นสำหรับแก”
“อือ วันนี้ทั้งวันจะใช้เวลากับพี่คริส… แล้วมิราว่าถ้าฉันจะบอกรักพี่คริสวันนี้ดีไหม?”
“แกก็บอกรักพี่คริสทางสายตาทุกวันอยู่แล้วนี่”
“ไม่สิ บอกรักแบบรักอะ”
“รักแบบคนเป็นแฟนกัน?”
“เยสสส~ มิราก็รู้ว่าฉันชอบพี่คริสแค่ไหน”
“อื้ม… แกแน่ใจนะว่าพี่คริสจะโอเคคิดแบบเดียวกันน่ะ”
“แน่สิ ไม่ว่าฉันจะแอบฉวยโอกาสทำอะไรพี่คริสก็ไม่เคยเห็นว่าเลยนะ”
ฉันคิดไปถึงตอนที่กอด หอมแก้มหรือกระทั่งวันก่อนที่เกือบจะได้จูบกับพี่คริส พี่คริสก็ไม่เห็นมีท่าทีที่จะปฏิเสธตรงไหน
ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าะพี่คริสอาจจะรู้สึกแบบเดียวกันกับฉัน
“พี่คริสใจดีจะตาย บางทีอาจจะกลัวแกเสียใจก็ได้”
“มิรา!เอาซะเสียความมั่นใจเลย!”
“เออ ๆ ทำตามที่ใจแกคิดเถอะ แต่ก็ดูจังหวะให้ดีด้วยล่ะ ฉันไม่อยากมาคอยปลอบเด็กร้องไห้ขี้มูกโป่ง”
“ไม่มีทางร้องไห้ขี้มูกโป่งแน่นอน มิราเป็นกำลังใจให้ด้วยนะฉันจะสารภาพรักวันนี้แหละ!”
ในขณะที่ฉันกำลังคุยกับมิราเรื่องพี่คริสด้วยสายตาที่มุ่งมั่นอยู่นั้นประตูบ้านก็ดังขึ้น
“สงสัยพี่คริสมาแล้ว”
ฉันรีบวิ่งแจ้นไปหน้าประตูและเปิดรับคนที่กำลังรอทันที
“พี่คริสสสสส~ ทานข้าวเช้าก่อนไปนะคะ เข้ามาเร็ว น่าจะทำเสร็จแล้ว… ใช่ไหม?”
ฉันลากพี่คริสเข้ามาในบ้านและหันไปถามแม่ครัวของบ้านว่าอาหารเช้าที่กำลังทำนั้นพร้อมกินแล้วหรือยัง
“เรียบร้อย พี่คริสเชิญเลยค่ะ เดี๋ยวมิราเสิร์ฟให้”
“ส่วนวาจะหาน้ำเย็น ๆ มาให้นะคะ”
ฉันหยิบแก้วน้ำใบโปรดสุดหวงแหนขึ้นมาและรินน้ำใสเย็นสะอาด
“นี่ค่ะพี่คริส น้ำเย็นอร่อย ๆหวาน ๆ มาแล้ว”
“น้ำเปล่ามันหวานตรงไหน?”
พี่คริสรับแก้วมาไว้ในมือก่อนหมุนสำรวจสงสัยว่าใส่ไซรัปหรือสารให้ความหวานลงไปหรือเปล่า
“หวานตรงทีวาเป็นคนรินให้พี่คริสไงคะ”
“นั่นแก้วน้ำสุดหวงมันด้วยนะคะพี่คริส ไอวามันใช้แก้วนั้นเดือนละครั้งเห็นจะได้มั้งคะพี่คริส ไม่สิน่าจะปีละครั้งมากกว่า”
“มิราก็พูดเกินไป! พี่คริสเราทานข้าวกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยววันนี้วาจะพาพี่คริสไปศาลเจ้าด้วย”
“เปิดแล้วเหรอ?”
“ช่ายยย เปิดเมื่อปีที่แล้วเองค่ะหลังจากปิดมานาน”
ศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้านได้เปิดให้ทุกคนเข้าชมและสักการะอีกครั้งหลังจากปิดมาไม่ต่ำกว่าห้าปี
ทุกครั้งที่มีเทศกาลนักท่องเที่ยวจึงทำได้เพียงยกมือไหว้ขอพรด้านนอกเท่านั้น