ฉันนั่งมองพี่คริสดึงผ้าขาวที่หุ้มเฟอร์นิเจอร์ออกและพับวางไว้ทีละชิ้น ๆ ใส่ตะกร้าผ้าไม้หวายข้างตัว
“เดี๋ยววาช่วยนะคะ”
ฉันลุกขึ้นหยิบตะกร้าหวายที่พี่คริสโยนผ้าขาวใส่จนเต็มและหิ้วมันไปวางไว้หน้าเครื่องซักผ้า
หมุนเปิดน้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่มและน้ำยาขจัดคราบเทใส่ก่อนยัดผ้าเข้าไป
“พี่คริสคะมีอะไรต้องซักอีกไหม?”
ฉันชะโงกหน้าถาม
“อืม… มีผ้าปูที่นอนบนห้องน่ะที่เป็นสีขาวเหมือนกัน”
“ได้เลยฮับบ!”
ฉันวิ่งขึ้นไปจัดการถลกผ้าปูเตียง ปลอกหมอนและหมอนข้างรวมยัดใส่ในเครื่องที่กำลังเตรียมซักด้วย
“พี่คริส วาว่ายังเหลืออีกชิ้น”
“ไม่มีนะ หมดแล้ว”
“นี่ไงคะ”
ฉันชี้ไปยังเสื้อกล้ามที่พี่คริสกำลังสวม
“ถอดออกมาเร็วค่ะ เดี๋ยววาซักให้”
“ตลก!ไปซักไป!จะเอาผ้าดำไปปนกับผ้าขาวได้ไง”
พี่คริสบ่นพลางกวาดพื้นบ้านไปด้วย
“งั้นแสดงว่ากางเกงขาวนั่นจะถอด?”
“ไปซักไป๊ เดี๋ยวต้องรอตากอีก บอกจะช่วยแต่คิดจะอู้ใช่ไหมเรา”
“เปล่าสักหน่อย”
เดินฉันหน้าบู้บี้ไปกดปุ่มทำงานเครื่องซักผ้าฝาหน้าให้หมุน ๆ
หลังจากซักผ้าเสร็จก็กลับบ้านไปหยิบเครื่องดูดฝุ่นมาช่วยเก็บกวาดเศษที่ยังคงหลงเหลือจากการกวาด
“เครื่องดูดฝุ่นก็มีทำพี่คริสไม่ใช้”
“บ้านพี่ไม่มีนี่ ไม่อยู่ตั้งสองปี”
“วาว่าพี่คริสนั่งพักผ่อนก่อนดีกว่า กลับมาเหนื่อย ๆ ยังพักผ่อนไม่เต็มที่เลย รอวาแป๊บนะคะ”
ฉันรีบเปลี่ยนหัวเครื่องดูดฝุ่นจากดูดพื้นย้ายมาดูดโซฟาตัวยาวก่อน
“พี่คริสนั่งพักตรงนี้นะคะหรือจะนอนเลยก็ได้”
ฉันดึงมือพี่คริสมานิ่ง ๆ ที่โซฟาที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จ ๆ ร้อน ๆ
“ช่วยกันทำจะได้เสร็จเร็ว ๆ พี่มีงานต้องทำต่ออีก”
“ใช่ไงคะ พี่มีงานต้องทำต่อ งั้นงานบ้านวาจัดการให้ พี่นอนพักนิ่ง ๆ เลยนะ วามาปลุกพี่แต่เช้าตอนนี้พี่ก็นอนพัก”
“รู้ตัวหนิว่ามาปลุกพี่แต่เช้า”
“อุ๊ย…” ฉันดันพูดเข้าตัวเองจนได้ “นอนกันดีกว่า”
ฉันจับขาพี่คริสทั้งสองขึ้นวางยืดเหยียดบนโซฟาทั้งสองข้าง จากนั้นจึงขึ้นคร่อมดันตัวพี่คริสเอนลงนอน
“ฝันดีนะคะ”
ฉันโน้มตัวลงหวังจะจุ๊บหน้าผากบอกฝันดีแต่ก็ถูกพี่คริสเอามือยกขึ้นอุดปากเสียก่อน
“พี่ไม่นอน ตาสว่างแล้วเนี่ย”
“งั้นวานอนเอง พี่คริสขยับไปอีกนิดสิคะ”
ฉันทิ้งตัวลงนอนเบียดล็อกพี่คริสให้นอนชิดติดพนักพิง นอนหันหน้าไปทางพี่คริสและเอาทั้งแขนทั้งขากอดเกลียว
“นี่!ลุก”
“หึ ไม่เอา”
ฉันส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอาใบหน้าซุกลำคอคนในอ้อมกอด
“หอมจัง พี่คริสตัวห๊อมหอม”
“ยังไม่อาบน้ำเลย”
“นั่นสิคนอะไรสกปรกแต่หอม”
ฉันกอดพี่คริสแน่นขึ้นอีกนิดหน่อย แหงนใบหน้าเล็กน้อยจ้องหน้าพี่คริสก่อนจะเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“ยังไม่อาบน้ำก็ใช่ว่าจะสกปรก”
“คิคิ ก็นั่นสิ”
“ปล่อยได้ยัง?”
“นอนดีกว่าฝันดีนะคะ” ฉันก็หลับตาลงทั้ง ๆ ที่ยังกอดพี่คริสไว้แน่นและรีบพูดดักทางว่า “ยิ่งดิ้นยิ่งแน่นนะ วาขอชั่วโมงหนึ่ง จะกอดให้หายคิดถึง วาคิดถึงพี่จังเลยค่ะ”
คริสมองเด็กน้อยที่คอยตามติดแจตั้งแต่วันแรกที่เจอจนกระทั่งจนถึงปัจจุบันอย่างเอ็นดู
เธอเอื้อมมือนำปอยผมที่ปรกหน้าทัดข้างหูให้ไอวาอย่างเบามือระวังอีกฝ่ายจะตื่น
คริสหวนคิดถึงวันวานที่พบเจอไอวาครั้งแรกเมื่อตอนอายุสิบขวบ