“ฮั่ม~ ลั่นลันลา~”
วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ตื่นเช้าเป็นพิเศษ ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องครัวกำลังตระเตรียมแซนด์วิชสุดอร่อยไว้ให้พี่คริสเป็นมื้อเช้า
ฉันเอื้อมมือแกะถุงใส่ขนมปังขาวลงมาแบไว้สี่ชิ้น จากนั้นก็ทำการตัดขอบขนมปังและยัดใส่เข้าปากตัวเอง
พี่คริสชอบขนมปังขาวและไม่ชอบกินขอบของมัน
ฉันหั่นมะเขือเทศเป็นแว่น ๆ จับแต่งวางลงบนขนมปังขาวที่ถูกหั่นครึ่งเป็นสามเหลี่ยมและวางผักสลัดตบแต่งและป้ายด้วยทูน่า
“โอ้โห กระตือรือร้นแต่เช้าเชียวนะวา”
มิราที่เพิ่งออกมาจากห้องนอนแซวขึ้นเมื่อเห็นฉันตื่นแต่เช้าเข้าครัว โดยปรกติแล้วมิราจะเป็นคนอยู่ในครัวคนแรกเพราะต้องเตรียมอาหารให้ฉันและเจเจ
“จะเอาไปประเคนพี่คริส”
“กลัวจัง กลัวพี่คริสกินเข้าไปแล้ววาปไปชาติหน้า”
“ปากเสียแต่เช้าเลยนะมิรา!ขนมปังฉันไม่ทำให้ใครตายจ้ะ!”
ขนมปังเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำและทุกคนสามารถกลืนมันลงท้องได้โดยไม่ได้รับผลข้างเคียงใดใดเพราะทุกอย่างสำเร็จรูปอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผักและทูน่ากระป๋อง
“สรุปทำไมเมื่อวานถึงรู้ว่าพี่คริสจะมา?”
มิราถามเรื่องที่ยังไม่ได้คำตอบ
“รู้จักพลังป้าข้างบ้านป่ะล่ะ! ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าป้าแกรู้ได้ยังไงว่าพี่คริสจะมา”
“ป้าเม้าน่ะเหรอ?”
ป้าเม้าคือป้าที่อยู่ติดบ้านของพี่คริสอีกฝั่ง บ้านพี่คริสอยู่ตรงกลาง บ้านของฉันและป้าเม้าอยู่ติดฝั่งซ้ายและฝั่งขวา
“อือ ป้าแกเก่งจริง ๆ น่ะ อยากรู้เรื่องอะไรตอบไรหมด สุดยอดอะ”
สมแล้วที่ป้าแกชื่อเม้า
เนื่องจากหมู่บ้านของเราใช้จดหมายสื่อสารกันเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้จะเป็นเรื่องยากมากหากจะติดต่อกับคนภายนอกด้วยสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต จุดที่มีสัญญาณพวกนี้อยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านหลายกิโลและจำเป็นต้องถ่อขึ้นไปบนภูเขาบริเวณใกล้กับศาลเจ้า เนื่องจากบริเวณนั้นสัญญาณจากตัวเมืองส่งมาถึงหมู่บ้านพอดิบพอดี แต่สัญญาณก็อ่อนมากและหากวันไหนฟ้าฝนไม่เป็นใจก็เรียกได้ว่าถูกตัดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์
แต่หากมีเหตุจำเป็นจริง ๆ ให้ไปบ้านผู้ใหญ่บ้านจะมีโทรศัพท์ที่รับส่งสัญญาณจากดาวเทียมทำให้ติดต่อกับใครที่ไหนก็ได้
“เสร็จแล้วววว~ น่ากินจริง ๆ กินเข้าไปขอให้รักขอให้หลง หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลย”
“ร่ายมนตร์มันทุกรอบ เคยได้ผลบ้างไหมน่ะ?”
“เดี๋ยวก็ได้ ความพยายามอยู่ที่ไหน…”
“ความพยายามก็กองอยู่ตรงนั้นแหละ!”
“มิรา!!ความสำเร็จอยู่ที่นั่น!!วันนี้ฝากเจเจอีกวันด้วย”
ฉันย่นหน้าใส่มิราที่ชอบขัดคออยู่เรื่อย พูดให้ความหวังกันหน่อยจะตายหรือยังไงก็ไม่รู้!
“เดี๋ยวน้องก็งอแงอีกหรอก!สัญญาว่าจะไปส่งสลับวันกันไม่ใช่หรือไง พี่คริสมาแล้วทิ้งครอบครัวเลยนะไอ้วา”
“งั้นตอนเย็นจะไปรับเจเจเอง เช้านี้ก็ฝากอีกวันนะ”
จากนั้นฉันก็รีบวิ่งไปหาพี่คริสที่บ้านทันทีพร้อมกับแซนด์วิชอันเลิศรส
“พี่คริสสสสส วามาหาแล้ว”
ฉันแหงนหน้ามองพี่คริสที่กำลังมองส่องผ่านหน้าต่างบนบ้านลงมาและพี่คริสก็เปิดหน้าต่างออก
“มาทำไม?”
“คิดถึง”
“ถ้าไม่มีไรก็กลับบ้านไป”
“มี ๆ นี่ค่ะ!เปิดประตูให้วาเข้าไปหน่อยน้าาา~”
ฉันยื่นขนมปังในมือโชว์และเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนออเซาะ ยืนกะพริบตาปริบพยายามทำตัวให้น่ารักมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
รอไม่นานประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมเจ้าของบ้านที่ยังอยู่ในชุดนอนเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขาวยาวสีขาว
“เข้ามา”
“หู๊ยย เซ็กซี่”
ฉันกวาดสายตามองพี่คริสตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าโดยเฉพาะเสื้อกล้ามตัวโคร่งที่กำลังสวมใส่อยู่
“ถ้าจะมากวนก็กลับบ้านไป”
พี่คริสเอื้อมมือไปเปิดประตูบ้านที่ยังปิดไม่สนิท
“หยอกนิดหน่อยเองพี่คริสซีเรียสไปได้”
ฉันรีบจับมือพี่คริสออกจากลูกบิดและดันหลังพี่คริสให้เดินเข้าไปในบ้านจากนั้นจึงทำการปิดประตูลงกลอนขังตัวเองทันที
“พี่คริสยังไม่กินข้าวเช้าใช่ไหมคะ?มากินฝีมือวาดีกว่า ขนมปังขาวตัดขอบสำหรับพี่คริสของวา”
“พี่ของวา?”
“ใช่ พี่คริสของวาคนเดียว นี่ค่ะวาทำแซนด์วิชไส้ทูน่า”
ฉันหยิบขนมปังขึ้นจ่อปากพี่คริสหวังจะป้อน
“อ้ามมมม”
“กินเองได้”
“วาอยากป้อนนี่นา”
“เอามานี่”
พี่คริสพยายามจะคว้าแซนด์วิชที่อยู่มือแต่ฉันเบี่ยงหลบทัน
“เดี๋ยวพี่คริสมือเปื้อน อ้าปากเร็ว ๆ สิคะ”
“ไม่เอาชิ้นนี้ก็ได้”
และพี่คริสก็คว้าแซนด์วิชชิ้นที่วางอยู่ในจานขึ้นและกัดเคี้ยวตุ้ย ๆ
“อ่าว แล้วชิ้นนี้ล่ะ?”
“เราก็กินเองสิ”
ฉันหย่อนก้นลงบนโซฟาที่ถูกคลุมด้วยผ้าขาวป้องกันฝุ่นจากนั้นจึงมองไปรอบตัวบ้านที่ไม่ได้เข้าตั้งแต่พี่คริสย้ายเข้าตัวเมืองเพื่อไปเรียน
ข้าวของเครื่องใช้วางอยู่ในตำแหน่งเดิมเพิ่มเติมคือมีแค่ฝุ่นหนาเกาะเขรอะ
“วาทำอร่อยใช่ไหมคะ?”
ฉันยิ้มหวานถามเพราะเห็นว่าพี่คริสกำลังหยิบชิ้นที่สองเข้าปาก
“งั้น ๆ”
“ชอบฝีมือวาก็บอกเถอะค่ะ เดี๋ยววาทำให้กินทุกมื้อเลย”
“ทุกมื้อที่ว่านี่คือแซนด์วิชอย่างเดียวน่ะเหรอ?”
เธอมองหน้าอย่างกังวลใจ เพราะเด็กตรงหน้าเธอทำได้แต่พวกขนมปังสำเร็จรูปที่ไม่ว่าใครทำก็อร่อยและสามารถกลืนลงท้องได้อย่างไม่ระคายกระเพาะ
“ครัวซองต์ ขนมปังปิ้ง แซนด์วิช พี่คริสอยากกินอะไรวาทำให้”
ฉันพูดยืดอกอย่างภาคภูมิใจ
“อย่างอื่นได้ไหมที่ไม่ใช่ขนมปัง?”
“ย่อมได้ค่ะพี่คริส!แต่พี่คริสแน่ใจนะคะ?”
ฉันหรี่ตาถามยิ้มกริ่มเพราะรู้เกียรติศักดิ์รสมือตัวเองดีว่ากินแล้วเสาะท้อง
“พี่ทำกินเองดีกว่า ยังไม่อยากตาย”
“โห่พี่คริส!เดี๋ยววาจะไปซุ่มซ้อมทำอาหารเอง”
“ได้ พี่จะรอวันนั้นนะ”
“อือ!เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยค่ะ”
สายตาของฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความตั้งใจ แต่จะได้เรื่องไหมนั่นก็อีกเรื่องหนึ่งอะนะ