บทที่สาม(1)

1099 คำ
“ฮั่ม~ ลั่นลันลา~” วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ตื่นเช้าเป็นพิเศษ ตอนนี้ฉันอยู่ในห้องครัวกำลังตระเตรียมแซนด์วิชสุดอร่อยไว้ให้พี่คริสเป็นมื้อเช้า ฉันเอื้อมมือแกะถุงใส่ขนมปังขาวลงมาแบไว้สี่ชิ้น จากนั้นก็ทำการตัดขอบขนมปังและยัดใส่เข้าปากตัวเอง พี่คริสชอบขนมปังขาวและไม่ชอบกินขอบของมัน ฉันหั่นมะเขือเทศเป็นแว่น ๆ จับแต่งวางลงบนขนมปังขาวที่ถูกหั่นครึ่งเป็นสามเหลี่ยมและวางผักสลัดตบแต่งและป้ายด้วยทูน่า “โอ้โห กระตือรือร้นแต่เช้าเชียวนะวา” มิราที่เพิ่งออกมาจากห้องนอนแซวขึ้นเมื่อเห็นฉันตื่นแต่เช้าเข้าครัว โดยปรกติแล้วมิราจะเป็นคนอยู่ในครัวคนแรกเพราะต้องเตรียมอาหารให้ฉันและเจเจ “จะเอาไปประเคนพี่คริส” “กลัวจัง กลัวพี่คริสกินเข้าไปแล้ววาปไปชาติหน้า” “ปากเสียแต่เช้าเลยนะมิรา!ขนมปังฉันไม่ทำให้ใครตายจ้ะ!” ขนมปังเป็นสิ่งเดียวที่ฉันทำและทุกคนสามารถกลืนมันลงท้องได้โดยไม่ได้รับผลข้างเคียงใดใดเพราะทุกอย่างสำเร็จรูปอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผักและทูน่ากระป๋อง “สรุปทำไมเมื่อวานถึงรู้ว่าพี่คริสจะมา?” มิราถามเรื่องที่ยังไม่ได้คำตอบ “รู้จักพลังป้าข้างบ้านป่ะล่ะ! ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าป้าแกรู้ได้ยังไงว่าพี่คริสจะมา” “ป้าเม้าน่ะเหรอ?” ป้าเม้าคือป้าที่อยู่ติดบ้านของพี่คริสอีกฝั่ง บ้านพี่คริสอยู่ตรงกลาง บ้านของฉันและป้าเม้าอยู่ติดฝั่งซ้ายและฝั่งขวา “อือ ป้าแกเก่งจริง ๆ น่ะ อยากรู้เรื่องอะไรตอบไรหมด สุดยอดอะ” สมแล้วที่ป้าแกชื่อเม้า เนื่องจากหมู่บ้านของเราใช้จดหมายสื่อสารกันเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้จะเป็นเรื่องยากมากหากจะติดต่อกับคนภายนอกด้วยสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต จุดที่มีสัญญาณพวกนี้อยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านหลายกิโลและจำเป็นต้องถ่อขึ้นไปบนภูเขาบริเวณใกล้กับศาลเจ้า เนื่องจากบริเวณนั้นสัญญาณจากตัวเมืองส่งมาถึงหมู่บ้านพอดิบพอดี แต่สัญญาณก็อ่อนมากและหากวันไหนฟ้าฝนไม่เป็นใจก็เรียกได้ว่าถูกตัดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ แต่หากมีเหตุจำเป็นจริง ๆ ให้ไปบ้านผู้ใหญ่บ้านจะมีโทรศัพท์ที่รับส่งสัญญาณจากดาวเทียมทำให้ติดต่อกับใครที่ไหนก็ได้ “เสร็จแล้วววว~ น่ากินจริง ๆ กินเข้าไปขอให้รักขอให้หลง หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลย” “ร่ายมนตร์มันทุกรอบ เคยได้ผลบ้างไหมน่ะ?” “เดี๋ยวก็ได้ ความพยายามอยู่ที่ไหน…” “ความพยายามก็กองอยู่ตรงนั้นแหละ!” “มิรา!!ความสำเร็จอยู่ที่นั่น!!วันนี้ฝากเจเจอีกวันด้วย” ฉันย่นหน้าใส่มิราที่ชอบขัดคออยู่เรื่อย พูดให้ความหวังกันหน่อยจะตายหรือยังไงก็ไม่รู้! “เดี๋ยวน้องก็งอแงอีกหรอก!สัญญาว่าจะไปส่งสลับวันกันไม่ใช่หรือไง พี่คริสมาแล้วทิ้งครอบครัวเลยนะไอ้วา” “งั้นตอนเย็นจะไปรับเจเจเอง เช้านี้ก็ฝากอีกวันนะ” จากนั้นฉันก็รีบวิ่งไปหาพี่คริสที่บ้านทันทีพร้อมกับแซนด์วิชอันเลิศรส “พี่คริสสสสส วามาหาแล้ว” ฉันแหงนหน้ามองพี่คริสที่กำลังมองส่องผ่านหน้าต่างบนบ้านลงมาและพี่คริสก็เปิดหน้าต่างออก “มาทำไม?” “คิดถึง” “ถ้าไม่มีไรก็กลับบ้านไป” “มี ๆ นี่ค่ะ!เปิดประตูให้วาเข้าไปหน่อยน้าาา~” ฉันยื่นขนมปังในมือโชว์และเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนออเซาะ ยืนกะพริบตาปริบพยายามทำตัวให้น่ารักมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอไม่นานประตูบ้านก็เปิดออกพร้อมเจ้าของบ้านที่ยังอยู่ในชุดนอนเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงขาวยาวสีขาว “เข้ามา” “หู๊ยย เซ็กซี่” ฉันกวาดสายตามองพี่คริสตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าโดยเฉพาะเสื้อกล้ามตัวโคร่งที่กำลังสวมใส่อยู่ “ถ้าจะมากวนก็กลับบ้านไป” พี่คริสเอื้อมมือไปเปิดประตูบ้านที่ยังปิดไม่สนิท “หยอกนิดหน่อยเองพี่คริสซีเรียสไปได้” ฉันรีบจับมือพี่คริสออกจากลูกบิดและดันหลังพี่คริสให้เดินเข้าไปในบ้านจากนั้นจึงทำการปิดประตูลงกลอนขังตัวเองทันที “พี่คริสยังไม่กินข้าวเช้าใช่ไหมคะ?มากินฝีมือวาดีกว่า ขนมปังขาวตัดขอบสำหรับพี่คริสของวา” “พี่ของวา?” “ใช่ พี่คริสของวาคนเดียว นี่ค่ะวาทำแซนด์วิชไส้ทูน่า” ฉันหยิบขนมปังขึ้นจ่อปากพี่คริสหวังจะป้อน “อ้ามมมม” “กินเองได้” “วาอยากป้อนนี่นา” “เอามานี่” พี่คริสพยายามจะคว้าแซนด์วิชที่อยู่มือแต่ฉันเบี่ยงหลบทัน “เดี๋ยวพี่คริสมือเปื้อน อ้าปากเร็ว ๆ สิคะ” “ไม่เอาชิ้นนี้ก็ได้” และพี่คริสก็คว้าแซนด์วิชชิ้นที่วางอยู่ในจานขึ้นและกัดเคี้ยวตุ้ย ๆ “อ่าว แล้วชิ้นนี้ล่ะ?” “เราก็กินเองสิ” ฉันหย่อนก้นลงบนโซฟาที่ถูกคลุมด้วยผ้าขาวป้องกันฝุ่นจากนั้นจึงมองไปรอบตัวบ้านที่ไม่ได้เข้าตั้งแต่พี่คริสย้ายเข้าตัวเมืองเพื่อไปเรียน ข้าวของเครื่องใช้วางอยู่ในตำแหน่งเดิมเพิ่มเติมคือมีแค่ฝุ่นหนาเกาะเขรอะ “วาทำอร่อยใช่ไหมคะ?” ฉันยิ้มหวานถามเพราะเห็นว่าพี่คริสกำลังหยิบชิ้นที่สองเข้าปาก “งั้น ๆ” “ชอบฝีมือวาก็บอกเถอะค่ะ เดี๋ยววาทำให้กินทุกมื้อเลย” “ทุกมื้อที่ว่านี่คือแซนด์วิชอย่างเดียวน่ะเหรอ?” เธอมองหน้าอย่างกังวลใจ เพราะเด็กตรงหน้าเธอทำได้แต่พวกขนมปังสำเร็จรูปที่ไม่ว่าใครทำก็อร่อยและสามารถกลืนลงท้องได้อย่างไม่ระคายกระเพาะ “ครัวซองต์ ขนมปังปิ้ง แซนด์วิช พี่คริสอยากกินอะไรวาทำให้” ฉันพูดยืดอกอย่างภาคภูมิใจ “อย่างอื่นได้ไหมที่ไม่ใช่ขนมปัง?” “ย่อมได้ค่ะพี่คริส!แต่พี่คริสแน่ใจนะคะ?” ฉันหรี่ตาถามยิ้มกริ่มเพราะรู้เกียรติศักดิ์รสมือตัวเองดีว่ากินแล้วเสาะท้อง “พี่ทำกินเองดีกว่า ยังไม่อยากตาย” “โห่พี่คริส!เดี๋ยววาจะไปซุ่มซ้อมทำอาหารเอง” “ได้ พี่จะรอวันนั้นนะ” “อือ!เตรียมตัวเตรียมใจได้เลยค่ะ” สายตาของฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความตั้งใจ แต่จะได้เรื่องไหมนั่นก็อีกเรื่องหนึ่งอะนะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม