ตอนนี้ฉันและมิราในขนาดย่อส่วนกำลังยืนเกาะรั้วบ้านดูบ้านหลังข้าง ๆ ที่ร้างมานานกำลังถูกต่อเติมปรับปรุงทาสีใหม่เนรมิตให้กลายเป็นหลังใหม่น่าอยู่ทั้งหลัง
“แม่คะบ้านหลังนี้เขาทำอะไรเหรอคะ?”
ฉันถามผู้เป็นแม่อย่างสงสัย มองดูช่างทาสีนั่งห้อยกลายอากาศลงแปรงอย่างประณีต
“จะมีเพื่อนบ้านย้ายมาอยู่ข้างบ้านเรา หนูสองคนจะมีเพื่อนเล่นเพิ่มอีกคน พี่เขาชื่ออะไรนะ…อ่อพี่เขาชื่อคริส อายุห่างจากไอวาห้าปี ห่างมิราสามปี”
“จริงเหรอคะแม่!หนูจะมีเพื่อนเพิ่มแล้ว ไม่ต้องทนเล่นกับมิราสองคนอีกแล้ว”
ฉันตะโกนลั่นด้วยความดีใจ
“ไอวาเรียกพี่มิราด้วยสิลูก”
ไม่ว่าแม่จะพยายามสอนให้ฉันเรียก ‘พี่’ นำหน้าชื่อของมิราอย่างไรฉันก็ไม่ยอมเรียกจนในที่สุดแม่ก็ต้องถอดใจและปล่อยให้ฉันเรียกพี่สาวด้วยชื่อเพียงอย่างเดียว
“ฉันก็ไม่อยากจะเล่นกับเด็กขี้เอาแต่ใจเหมือนกันนั่นแหละ!”
มิรามองค้อนตาเขียวปั๊ดด้วยความขุ่นเคืองและพูดต่ออีกว่า
“สาธุ!ขอให้พี่คริสไม่อยากเล่นกับวาเหมือนกัน เพี้ยง!!”
มิรายกมือขึ้นไหว้และแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าเพื่อขอร้องอ้อนวอนเทวดาให้ดลบรรดาลเป็นไปตามที่เธอร้องขอ
“นิสัยไม่ดี!มิราต่างหากที่พี่เขาจะไม่เล่นด้วยเพราะเป็นเด็กปากเสีย!!”
ฉันตะคอกใส่มิราพร้อมกับผลักไหล่จนทำให้เธอล้มลงบนพื้นหญ้าหน้าบ้าน
“ไอวาก็นิสัยไม่ดี!ไอ้เด็กชอบใช้กำลัง!!”
มิราลุกขึ้นผลักกลับด้วยกำลังที่แรงกว่าโดนกระทำเมื่อครู่
แต่ฉันก็ไม่ยอมเช่นกัน เราทั้งคู่จึงผลักกันตะรุมบอลตีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
“หยุดทั้งคู่!!”
เสียงสวรรค์ของแม่ตะโกนห้ามการทะเลาะวิวาทและจากเสียงสวรรค์ก็กลายเป็นเสียงที่ตรงข้ามกับสวรรค์ทันที
“แยกเดี๋ยวนี้แล้วตามแม่เข้ามาในบ้าน!”
ฉันและมิราเดินก้มหน้าเดินตามหลังแม่ด้วยสภาพที่ดูไม่จืดทั้งคู่ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้ายับยู่ยี่และเนื้อตัวสกปรกมอมแมมเพราะลงไปคลุกกับพื้นดิน
ทันทีที่ประตูบ้านถูกปิดลงทั้งฉันและมิราก็รับรู้ชะตากรรมของตัวเองทันที
“เพราะแกแหละ”
“เพราะมิรานั่นแหละ”
“แกแหละไอ้วา”
“แกแหละไอ้มิรา”
แม้จะรู้อนาคตของตัวเองทั้งฉันและมิราก็ยังคงไม่หยุดเถียงกัน
“หยุดเถียงกันแล้วรอแม่อยู่ตรงนี้ รอเฉย ๆ ห้ามทะเลาะกันไม่อย่างนั้นคงรู้ใช่ไหมคะ?”
น้ำเสียงของแม่เแม้จะสุภาพแต่ก็เต็มไปด้วยความเย็นยะเยือกเสียวสันหลัง
แต่เพียงแค่แม่หันหลังฉันและมิราก็ถลึงตาใส่กันและเถียงกันด้วยระดับเสียงที่เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่นานแม่ก็กลับมาพร้อมกับก้านมะยมยาวเรียวงามในมือ
“ไอวาหันหลังค่ะ”
ฉันยืนหน้าบูดบึ้งอยู่กับที่โดยไม่ทำตามคำสั่ง
“ทำไมหนูต้องเป็นคนแรก”
“เพราะหนูเป็นคนเริ่มก่อน เข้าใจแล้วใช่ไหมคะ?มาค่ะไอวา”
ฉันค่อย ๆ ขยับปลายเท้าเข้าไปทีละนิดอย่างช้า ๆ เพื่อถ่วงเวลาและทำใจก่อนถูกฟาดก้น
“กอดอกด้วยค่ะไอวา”
ฉันยกมือขึ้นหนีบรักแร้อย่างว่าง่ายพร้อมกับหลับตาลงรอความเจ็บที่กำลังมาเยือน
เพี๊ยะ!เพี๊ยะ!
เสียงหวดกิ่งมะยมดังขึ้นสองครั้งและฉันก็ร้องไห้จ้าสะอึกสะอื้นทันที
เพี๊ยะ!...
ฉันหันไปมองมิราที่เพิ่งโดนทำโทษถัดจากฉันด้วยน้ำตาที่ยังเจ่อนอง
“แม่… อึกคะ ทำไม ทำไมมิราโดนครั้ง อึกฮือ เดียวแต่วะ… วาโดนสองครั้ง”
ฉันสะอื้นและถามไปด้วยจนจับใจความแทบไม่ได้
“เพราะหนูเป็นคนเริ่มค่ะ แม่เลยลงโทษหนูเยอะกว่าพี่มิราหนึ่งที”
แม่อธิบายให้ฉันฟัง ทีแรกฉันก็เข้าใจและยอมรับแต่มิรานี่สิดันหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่และขยับปากไร้เสียงว่า ‘สมน้ำหน้า’
“ไอ้มิรา!!นี่แหน่ะ!”
เธอยั่วโมโหปลุกอารมณ์ขุ่นเคืองที่กำลังจะสงบให้ปะทุขึ้นมาอีกรอบ ฉันจึงพุ่งตัวเข้าไปผลักจนฉันล้มทับและพากันนอนกองกับพื้นทั้งคู่
และสุดท้ายฉันก็ถูกตีเพิ่มอีกหนึ่งครั้ง