ตอนที่ 8

1369 คำ
“มาต่อให้มันถึงสวรรค์” ไม่! “ไม่! ” ไม่ใช่เพียงแค่คิดแต่ราชาวดีกลับตะโกนด้วยน้ำเสียงที่เธอคิดว่ามันดังที่สุดแล้วแต่กลับเป็นเพียงแค่สายลมแผ่วเบาออกจากปากไปถึงหูอีกฝ่ายเท่านั้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างเกือบจะเท่าไข่ห่าน ริมฝีปากขบกัดเข้าหากันเมื่อรู้ว่าได้พูดอะไรออกไป ไม่...ศีรษะทุยสะบัดแรง ๆ เป็นตายยังไงก็จะไม่ทำตามความต้องการอีกฝ่ายแน่นอน แต่เสียงหัวเราะ...นุ่มทุ้มที่ดังมาจากปากหนากลับสั่นคลอนความมั่นใจของเธอเสียจนหมดสิ้น “ไม่หรือช่อม่วง...ไม่ปฏิเสธและอย่าช้าใช่ไหมสาวน้อย” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นยังคงพยายามขัดขืนฝืนข่มอารมณ์ความต้องการเอาไว้ไม่ยอมปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการปลุกเร้าของเขาโดยง่าย “เรามาดูกันสาวน้อย ยังไงคืนนี้ฉันก็จะต้องได้เธอ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ปลายนิ้วยาวเคลื่อนไหวไปบนเรือนกายกลมกลึงเนียนนุ่มเหมือนกับใยไหมก่อนหยุดทาบบนเนินเนื้ออิสตรีที่ตอนนี้มีเพียงแพนตี้น้อยปกปิด กดคลึงลากไล้จนกายสาวสั่นสะท้านไหวเหมือนต้นสนที่ขึ้นอยู่ริมทะเลแล้วโดนพายุจนฉ่ำน้ำ เซกิจิโร่รู้สึกร่างกายร้อนผ่าว อยากที่จะสอดประสานกายเป็นหนึ่งเดียวกับราชาวดีเต็มทีแล้ว แต่รู้ว่าแม่สาวน้อยใต้ร่างยังไม่เคย เขาเลยอยากที่จะมอบสัมพันธ์หวาน ๆ ที่ชวนให้อีกฝ่ายจดจำไปนานแสนนาน “เอาเป็นว่าตอนนี้ เธอจัดการเอาอาหารที่บอกมาไปให้ฉันที่ห้องอย่างเร็วที่สุดก่อนดีไหมสาวน้อย แต่นะ...” เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายจะต้องไม่ทำตามคำสั่งเขาง่าย ๆ “ถ้าหากคิดหนีเธอนะช่อม่วง รับรองได้ว่าไอ้หน้าใส ๆ ของเธอจะต้องมีบาดแผลจนลืมไม่ลงทีเดียวสาวน้อย” เซกิจิโร่ข่มขู่ ริมฝีปากหนาทาบทับไปบนกลีบปากอวบอิ่มดูดกลืนความหวานนุ่มจนชุ่มฉ่ำใจ ก่อนจะยอมปล่อยกายเล็กแต่ดวงตายังจับจ้องมองกายกลมกลึงไม่คลาดสายตา จะบอกว่าไม่หิวก็ไม่ใช่ เพราะเขาเดินทางไปจัดการกับคนทรยศที่สหรัฐต่อท้ายด้วยออสเตรเลียก่อนจะมาที่ประเทศไทยแห่งนี้ หลายวันและหลายชั่วโมงที่ผ่านมาเวลาให้นอนก็ไม่มีเลย เวลาอาหารมีให้บ้างแต่เขากลับกินอะไรไม่ลงเองต่างหาก เพียงชายร่างใหญ่ขยับห่างไป ราชาวดีก็ถลาลุกไปซุกตัวอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง มือสั่นเทาจับทึ้งดึงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางด้วยความกลัวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ริมฝีปากอวบอิ่มสั่นระริกจนขบกัดเอาไว้ ใบหน้านวลปลั่งซีดสลับแดง อาย โกรธ เจ็บปวดและขลาดกลัวเกาะกุมใจ ดวงตากลมโตแดงก่ำฉ่ำน้ำ ก่อนจะเอ่อล้นไหลลงมาอาบสองแก้มอย่างที่ไม่สามารถหักห้ามได้ “คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่านะ” “แล้วไง” เซกิจิโร่ถามกลับอย่างยียวน กวาดสายตามองไล่ไปตามลำตัวเล็กแต่กลมกลึงและน่าจับต้อง “ใช่หรือไม่ใช่...ฉันตัดสินเอง ตอนนี้ฉันว่า เธอรีบไปจัดการตามที่ฉันสั่งดีกว่า ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่กินอาหาร แต่จะกินเธอเป็นอาหารแทน! ” ไม่ทันจะสิ้นเสียงพูดจากปากหนา ราชาวดีก็รีบกระวีกระวาดลุกขึ้นถลาวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็วเหมือนกับลูกกระสุนที่ออกจากกระบอก สองมือยกขึ้นปิดใบหู เพราะไม่อยากได้ยินหัวเราะที่ดังลอยตามลมมา ราชาวดียกมือที่สั่นเทาขึ้นจับปาก ในดวงตาฉ่ำน้ำมองไปทั่วทางบริเวณทางเดินอย่างเลิกลักและระมัดระวังตัวจนเป็นตื่นตระหนก แม้จะมีความรับผิดชอบในงาน แต่ถ้าต้องเสี่ยงกับความไม่ปลอดภัยของตัวเอง เธอคิดว่าควรจะรีบหนีไปให้เร็วที่สุด ไม่เข้าใจทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้ทำอย่างนี้กับเธอ…ทำไมเขาถึงทำอย่างนี้กับเธอด้วย? แม้การทำอย่างนี้มันไม่เป็นการดีกับเพื่อนของพี่สีดา แต่เธออยู่ไม่ได้ อยู่ที่นานขึ้นอีกเพียงแค่วินาทีเดียวก็ไม่ได้ มือเล็กเย็นเฉียบเหมือนน้ำแข็งและสั่นรีบคว้ากุญแจที่เก็บซ่อนเอาไว้ผิด ๆ ถูก ๆ คิดว่ากว่าที่เธอจะคว้ากุญแจออกมาไขล็อกเกอร์ได้ก็คงจะผ่านไปหลายนาทีเลยทีเดียว หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกจากปอดขณะรีบคว้าเอาเสื้อผ้า แล้วถลาวิ่งไปที่ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็วไว ราชาวดียกมือขึ้นปัดปลายผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่เข้าทาง เธอปาดเช็ดริมฝีปากและส่วนต่าง ๆ ที่ถูกจับต้องอย่างอุกอาจ แต่ทำอย่างไรก็ลบล้างความร้อนผ่าวที่ทาบทับอยู่บนผิวกายไม่ได้อยู่ดี ยิ่งเช็ดดูเหมือนว่ามันจะยิ่งซอกซึมเข้าในหัวใจและความรู้สึกมากยิ่งขึ้น น้ำตาราชาวดีเอ่อไหล แม้จะยกมือขึ้นปาดซับแต่ยิ่งกดซับมากเท่าไหร่มันกลับยิ่งเอ่อไหลมากยิ่งขึ้น ร่างเล็กบอบบางสั่นสะท้านไหวด้วยแรงสะอื้นทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้อง ทำไมเธอถึงต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย เธอเพียงแค่อยากทำงานเก็บเงินไปหาพี่สาว แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นต้องทำอย่างนี้กับเธอด้วย ไม่...เราจะมามัวพิรี้พิไรอยู่อย่างนี้ไม่ได้ เราต้องรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ก่อนที่ไอ้ผู้ชายคนนั้นจะรู้ว่าเธอไม่ได้ทำตามค่ำสั่งและหันมาตามล่าเธอเพื่อพาขึ้นเตียง เธอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นทำได้ คนมักมากอย่างนั้นย่อมที่จะทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ซึ่งความต้องการ เมื่อตัดสินใจได้แล้ว ราชาวดีก็รีบลุกขึ้น พร้อมกดซับน้ำตาบนใบหน้า ร่างเล็กบอบบางเดินไปที่อ่างล้างหน้า เปิดรองรับน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตาให้สดใส ก่อนนำผ้าของทางโรงแรมไปไว้ที่เดิม แล้วแอบเดินหลบเลี่ยงไม่ให้ใครเห็นจนพ้นส่วนของพนักงาน ลมร้อน ๆ เป่าพ่นออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มเมื่อคิดว่าตัวเองรอดแล้ว ชายหนุ่มร่างหนายืนเอนอิงตัวกับขอบผนังสีน้ำเหลือง ดวงตาจับจ้องที่ร่างเล็กบอบบางอย่างไม่มีคลาดคลา มือข้างหนึ่งสอดไขว้ระหว่างอก ศอกคมอีกข้างวางทับปลายมือตวัดปากกาเล่นอย่างสบายอารมณ์ คิดไว้อยู่แล้วราชาวดีคงจะไม่ยอมทำตามความต้องการเขาง่าย ๆ ดีที่สั่งให้ลูกน้องคอยเฝ้าจับตามอง เลยสามารถดักเอาตัวไว้ได้ทันการ ก่อนที่จะปล่อยให้หญิงสาวหลุดรอดมือไปในค่ำคืนนี้ รู้ว่าการจะหาตัวราชาวดีไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับเขา แต่ก็ไม่อยากที่จะต้องรอนี่น่า อยากได้เธอมาช่วยผ่อนคลายอารมณ์หงุดหงิดกับแม่ดอกบุษบาแรกแย้มให้ชุ่มฉ่ำกายในคืนนี้เสียเลย “จะไปไหนละช่อม่วง ไม่อยู่คุยกันก่อนหรือสาวน้อย” ราชาวดีสะดุ้งเฮือกกับเสียงนุ่มทุ้มและแข็งกระด้างที่ดังมาจากด้านหลังกาย รับรู้โดยสัญชาตญาณว่าคนที่ร้องทักเป็นใคร หญิงสาวรีบเดินไปด้านหน้าอย่างรีบเร่งกลับหยุดชะงักเมื่อเห็นมีคนดักทางไว้ เธอหมุนตัวไปอีกด้าน แต่ก็เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว แขนเรียวถูกจับและกระชากไปด้านหลังพร้อมเสียงหวีดร้องอย่างตื่นตระหนก “ว้าย! ปล่อยฉันนะไอ้บ้า ไอ้คนลามก” หญิงสาวยกมือขึ้นหมายจะตบตีอีกฝ่ายและฝืนตัวเองเอาไว้ไม่ยอมถลาไปตามแรงลาก แต่สุดท้ายมดตัวเล็กก็ต้านแรงช้างสารไม่ได้ กายอรชรเลยถลาไปแนบชิดกายใหญ่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม