ชายหนุ่มละมือจากปลายคาง ลากไล้ไปตามลำคอระหงอย่างแผ่วเบาด้วยรู้ว่าสาวน้อยใต้ร่างกำลังขลาดกลัวกับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไปตามกระแสเลือด สาบเสือชุดยูคาตะแยกออกจากห่าง เขาใช้ปลายนิ้วร้อนเหมือนกับถ่านไฟลากไล้ไปตามขอบเสื้อชั้นในแผ่วเบา เสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นรัวเร็วสะท้อนขึ้นจนเขาสัมผัสได้
“อือ...ยะ...อย่านะคุณ” ราชาวดีพยายามร้องห้ามปรามและเบือนหน้าหนี เธอขยับกายหนีแต่ก็ดูเหมือนว่าจะติดขัดไปทุกอย่าง มือที่ระดมทุมไปบนแผ่นอกกว้างถูกคนใจร้ายจับรั้งไปตรึงไว้เหนือศีรษะแทน
“หือ...อย่าช้าใช่ไหมสาวน้อย” เซกิจิโร่แปลความหมายห้ามปรามเป็นเข้าตัวเอง “ได้ซิ เดี๋ยวจัดการให้”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง จะหลบหนีวงหน้าคร้ามแกร่งที่โน้มลงมาก็ไม่พ้น ปากอุ่นแนบบนปลายจมูกโด่งเรื่อยลงไปถึงกลีบปากอวบอิ่ม กดทับบดคลึงขบเม้มอย่างเชื่องช้า ฝ่ามือใหญ่คลึงเคล้นเนินเนื้อนุ่มและเต่งตึงอย่างอ่อนโยน สอดขาแยกปลีขาเรียวยาวให้ค่อยๆ ห่างออก
โอ้ย...ใครก็ได้ช่วยที ทำไมการที่ถูกผู้ชายใกล้ชิดและจูบถึงทำให้หมดเรี่ยวแรงแบบนี้
ราชาวดีตัวสั่นระริก วาบหวิวปั่นป่วนจนไม่รู้ว่าจะอยู่อย่างไรดี เมื่อถูกโจมตีอย่างช่ำชองและไม่มียั้ง ในท้องน้อยป่วนปั่นเหมือนกับมีลูกไฟขนาดย่อมไหลวิ่งเวียนวนอยู่และแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างอย่างรวดเร็ว ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งบดเบียดเข้าหาไออุ่นร้อนที่แผ่กระจายมาจากอีกร่าง สองขาเรียวยาวถูไถไปกับพื้นเสื่อทาทามิด้วยความรัญจวนใจ
“เผยปากหน่อยซิสาวน้อย” ชายหนุ่มเว้าวอน ริมฝีปากหนาเลาะเล็มกลีบปากอวบอิ่ม
กลีบปากนุ่มเผยแย้มทีละน้อยให้ปลายลิ้นสากระคายสอดแทรกเข้าไปกระหวัดกวัดเกี่ยวกับปลายลิ้นเล็กอย่างไม่แน่ใจว่าควรที่จะถอยหนีและขับไล่หรือว่าจะตอบรับดี แต่สุดท้ายความวาบหวามรัญจวนใจก็มีอำนาจเหนือกว่า ทำให้สาวน้อยที่เพิ่งจะลิ้มรสจุมพิตหวานในครั้งแรกยอมแพ้ ยื่นปลายลิ้นออกมาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นสากระคาย
“อืม...” ดวงตากลมโตหลับพริ้ม เคลิบเคลิ้มไปกับความนุ่มหวานหอมราวกับได้ลองลิ้มรสผลไม้แสนหวานรสเลิศ ความหวานติดตรึงอยู่ที่ปลายลิ้นจนมิอาจจะสลัดออกได้
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีอาการขัดขืน เซกิจิโร่ก็ปล่อยแขนเรียวให้เป็นอิสระ หลังมือหนาลากไล้จากหน้าผากกว้าง แก้มนุ่มก่อนจะหยุดที่บ่ากว้าง ดวงตาคมมองคนใต้ร่างพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปากด้านหนึ่ง ศอกแหลม ๆ เท้าบนเสื้อนุ่มพร้อมดึงเอาสาบเสื้อชุดยูคาตะให้ไหลหลุดออกมาพร้อมเกี่ยวเอาสายเสื้อชั้นในตามติดมาด้วยจนได้เห็นทรวงสล้างชูช่อไสวเหมือนกับดอกไม้บานแย้มรับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า
สวย...บอกได้คำเดียวเลยว่ากายสาวน้อยตรงหน้าสวยจนแทบจะละสายตาไม่ได้ สองเต้าอวบอิ่มสล้างสีน้ำผึ้งตัดกับปลายยอดสีทับทิมทำเอาเขาถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ รีบทาบฝ่ามือลงบนทรวงสล้างเต่งตึงที่บานเบ่งรับสัมผัสในทันที
“อ๊ะ...” ราชาวดีหลุดเสียงร้องออกมา เพราะเสียววูบไล่จากศีรษะจรดปลายเท้า ลำตัวกลมกลึงแอ่นโค้งลอยไม่ติดพื้น ปลายยอดถันสีเข้มแข็งตัวเป็นไตชูชันขึ้นในทันที
เซกิจิโร่ขยับฝ่ามือกดคลึงบนก้อนเนื้ออวบอิ่ม ปลายนิ้วสากระคายลากไล้ป่ายปัดคลึงไคล้บีบนวดปลายยอดสีทับทิมอย่างอ่อนโยน เสียงร้องครางแหบพร่าก็ดังมาจากกลีบปากอวบอิ่มซึ่งเห่อแดงด้วยแรงบดขยี้ ชายหนุ่มแนบริมฝีปากไปบนพวงแก้มนุ่ม ลากไล้ไปขบกัดติ่งหูนุ่ม สอดแทรกปลายลิ้นสากระคายในช่องหูเล็ก
“เธอชื่ออะไร”
สติที่ยังหลงเหลืออยู่อีกน้อยนิดบอกว่าไม่อยากจะบอกชื่อให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แต่มือที่ขยับเคลื่อนไปทั่วทั้งเรือนกาย ทุกสัมผัสเน้นหนักดึงเอาสติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดให้หลุดลอยออกจากกาย น้ำเสียงใสและแหบพร่าดังจากกลีบปากสีชมพูที่บวมเป่ง
“ชะ...ชื่อ..ชื่อราชาวดี”
“เอาชื่อเล่นซิ ยาวแบบนี้จะเรียกยังไงละ”
ริมฝีปากหนาขยับเคลื่อนไล้ซุกไซ้ซอกคอระหง แนบจุมพิตร้อนระอุราวกับเปลวเพลิงบนหน้าอกอวบอิ่ม ทรวงสล้างไหวกระเพื่อมเย้ายวนใจให้เขารีบจัดการ เซกิจิโร่ขบเม้มผิวเนื้อสีน้ำผึ้งที่ตอบสนองทุกการสัมผัส จนเขาถึงกับร้อนผ่าวเปล่งเสียงคำรามลั่น
ชายหนุ่มเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าแดงปลั่งขณะริมฝีปากหยอกเย้ากับทรวงอกอวบอิ่ม ครอบครองปลายยอดทรวงสีชมพูเข้ม ขบกัดดุนดันสลับใช้ปลายลิ้นสากระคายลากไล้ป่ายปัดตวัดปลายยอดสีเข้มที่ชูช่อไหวระริกสู้ลิ้น มือก็ลากไล้ขยำนวดคลึงเคล้นลำตัวกลมกลึงไล่ลงไปตามสีข้าง เรื่อยลงไปถึงเอวเล็กคอดกิ่วจนถึงบั้นท้ายกลมกลึงหนั่นแน่น วาดลากไล้ไปถึงปลีขาเรียวยาว
“อือ...ไม่นะ...อย่า...” ไม่รู้จะยินยอมหรือร้องห้ามดี ด้วยเธอถูกความเสียวซ่านป่วนปั่นก่อกวนไปทั้งเรือนกาย กล้ามเนื้อหน้าท้องเต่งตึงไหวกระเพื่อมตามสัมผัสที่ลามเลียไปจนเกือบจะถึงจุดลี้ลับของกายสาว ศีรษะทุยขยับส่ายไปมาเพราะเพลิงไฟที่ลามเลียไปทั่วทุกส่วน กายกลมกลึงแอ่นโค้งส่งป้อนเนินเนื้อนุ่มสล้างให้กับปากหนาได้กัดกลืนกินอย่างถนัดถนี่
“เธอชื่ออะไร” เซกิจิโร่ถามพลางขยำนวดปลีน่องกลมกลึง ลากไล้ปลายนิ้วไล้เวียนวนบนต้นขาเนียนนุ่ม ขยับกรีดไปจนเกือบจะถึงกลีบกายบอบบางและอ่อนไหว ริมฝีปากหนาอ้างับยอดอกอิ่มสลับปลายลิ้นสากระคายตวัดไล้เลียดูดดื่มความหวานหอมอย่างหลงใหลและเพลิดเพลิน
ราชาวดีขบกัดฟัน พยายามที่จะขัดขืนอย่างสุดความสามารถ แต่เมื่อปลายนิ้วยาวร้อนระอุเหมือนกับถ่านไฟเคลื่อนไหวคลึงเคล้นบนกลีบดอกไม้บริสุทธิ์ก็ทำให้เธอจำใจยอมแพ้ จำต้องยอมบอกไปเสียงเบาหวิวและแหบพร่า
“ชะ...ช่อ...ช่อม่วง”
สองมือเรียวจิกปลายเล็บไปบนกล้ามเนื้อแข็งแกร่งเต็มแรง เมื่อกลีบกายลี้ลับถูกบุกรุก แม้จะเพียงแค่ภายนอกก็ทำให้เธอถึงกับวาบหวิวปั่นป่วน สะโพกกลมกลึงขยับหนี แต่ถูกร่างหนาตรึงเอาไว้จนกระดิกไม่ได้ ขบกัดริมฝีปากจนฮ้อเลือดสลับเปล่งเสียงร้องครางผะแผ่ว สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มแรง ลำขาสั่นระริกพอ ๆ กับกลีบกุหลาบบอบบางที่ถูกแย้มกลีบให้คลี่บานก่อนถึงเวลาอันควร
โอ...กลีบกุหลาบสาวนุ่มชื้นและตอบรับดีเหลือเกิน เซกิจิโร่ร้องครางในลำคอ กายเขาเต้นตุบ ๆ เมื่อถูกกุหลาบสาวดูดกลืนปลายนิ้วจนต้องรีบเคลื่อนตัวออกก่อนที่เขาจะทนไม่ไหว กระชากเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและหญิงสาวออกตรงนี้แล้วเริงรักจนลืมวันและเวลา
“กินอาหารก่อนดีกว่าไหมช่อม่วง แล้วเราค่อยมา...” ริมฝีปากหนาขยับเคลื่อนขึ้นไปตามลำคอระหงทาบทับบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มให้เปิดแยกสอดแทรกปลายลิ้นไปในโพรงปากนุ่ม เกี่ยวปลายลิ้นพลิกพลิ้วเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กๆ บดเบียดกายใหญ่อุ่นร้อนกับเรือนกายกลมกลึงอวบอิ่มด้วยส่วนเว้าส่วนโค้ง