ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
“ที่พี่สีดาพูดมา...จริงใช่ไหมคะ?” หญิงสาวนามราชาวดีถามอย่างเก็บอาการตื่นเต้นดีใจเอาไว้ไม่ได้ เมื่อรู้ว่าจะได้ไปทำงานพิเศษที่โรงแรมอีกครั้ง ที่ทำให้ความหวังของเธออยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมมือคว้าแล้ว
ราชาวดีละมือจากการเช็ดถูกระจกร้านหันไปมองเจ้าของร้านที่เธอเคารพรักเสมือนญาติผู้ใหญ่ ผู้ที่คอยให้การช่วยเหลือเธอมาตลอด ถึงขั้นฝากงานให้ แต่ช่วงหลังเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทางโรงแรมจึงเลือกที่จะใช้วิธีการจ้างพนักงานพิเศษเวลาที่มีแขกพิเศษเป็นครั้งคราว เมื่อเธอมีความสามารถด้านการเขียนอ่านและพูดภาษาญี่ปุ่นได้ จึงได้รับโอกาสนั้น
ราชาวดียิ้มจนเห็นไรฟันขาวสะอาดเรียงกันสวยงามและยังได้เห็นเขี้ยวเล็ก ๆ ในปาก ดวงตากลมโตแวววาวเหมือนลูกแก้วยามสะท้อนแสงไฟมอง
“จริงซิจ๊ะ พี่เพิ่งจะวางสายจากเพื่อนเมื่อกี้นี้เอง” สีดาบอกซ้ำ ขณะมองราชาวดีด้วยสายตารักใคร่ระคนเอ็นดู แม้จะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน แต่เธอกลับรักสาวน้อยตรงหน้าราวกับคนในครอบครัว คอยดูแลเอาใจใส่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
เย้! ราชาวดีดีใจจนออกนอกหน้า อยากจะโผเข้าไปกอดสีดา แต่ร่างกายเต็มไปด้วยเศษสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามลำตัว กลัวจะไปทำให้อีกฝ่ายระคายเคือง
“ช่อม่วง”
“ค่ะพี่สีดา” ราชาวดีขานรับเสียงหวานใส มองตอบสีดาทันทีเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อเล่นเธอเต็ม ๆ ที่เมื่อไหร่เรียกแสดงว่าจะต้องมีเรื่องสำคัญให้ต้องล่ะเรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ให้หันมาสนใจฟังเรื่องที่จะถูกกล่าวถึง
“มีอะไรคะพี่สีดา” ราชาวดีเอียงศีรษะเล็กน้อย มองไปที่สีดาสายตาแน่วนิ่ง ตั้งใจฟังเรื่องที่อีกฝ่ายจะพูด
“งานวันนี้สำคัญมากนะ คนที่มาเป็นกลุ่มลูกค้าประจำก็จริง แต่หนึ่งในนั้นก็เป็นนายใหญ่” สีดาละเว้นที่จะไม่บอกราชาวดีว่าอีกฝ่ายยังเป็นหนุ่มรูปงาม แต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว เพราะเป็นถึงหัวหน้าขององค์กรทำงานผิดกฎหมายกลุ่มหนึ่งของญี่ปุ่น
“เพื่อนพี่เขาบอกให้เราดูแลเอาใจใส่อย่างให้ขาดตกบกพร่อง เพราะถ้าหากเกิดปัญหาหรือเขาไม่พอใจขึ้นมา จะทำให้โรงแรมสูญเสียลูกค้าสำคัญไปได้ แล้วที่สำคัญ...” ไม่อยากพูด แต่ถ้าไม่เตือนให้ราชาวดีระวังตัวไว้บ้าง ก็กลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้น
“ระวังตัวด้วยนะช่อ งานนี้ไม่ได้ง่ายอย่างงานอื่นที่เราทำมา”
ราชาวดีออกอาการกังวลเมื่อได้ยินคำพูดจากปากสีดา ความคิดสื่อออกมาทางแววตา ก่อนศีรษะทุยจะผงกรับทัน
“ค่ะพี่สีดา ช่อม่วงจะทำให้ดีที่สุด จะไม่ให้พี่สีดาและเพื่อนผิดหวังค่ะ”
คำรับรองทำให้สีดาคลายความกังวลใจไปเล็กน้อย ด้วยปัญหาใหญ่จริง ๆ อยู่ที่โรงแรม เพราะไม่รู้ว่าราชาวดีจะทำได้อย่างที่พูดหรือเปล่า ด้วยนิสัยของลูกค้าที่บางคนก็เอาแต่ใจและหาเรื่องหาราวเก่ง ก็ได้แต่หวังว่าราชาวดีจะระงับใจได้เหมือนกับทุกครั้งแล้วกัน การทำงานที่นั่นไม่ใช่ไม่เคยมีปัญหา หลายครั้งที่ราชาวดีมาบ่น...
“งานหนักช่อไม่ท้อนะคะพี่สีดา ช่อสู้ได้เสมอ พี่สีดาก็รู้ แต่กับคนที่ปากนอกจากจะไม่สร้างสรรค์แล้วยังจะบั่นทอนและไม่ให้กำลังใจกันอีก ไหนจะลูกค้าที่บางคนไม่ได้เห็นเราเป็นเพียงแค่พนักงานที่สามารถทำอะไรก็ได้ คิดแต่หาเรื่องพาเราขึ้นเตียง คิด ๆ แล้วก็เหนื่อยใจเหมือนกันนะคะ”
แต่สุดท้ายเมื่องานมาและเงินก็ตามมา คนที่บ่นพึมพำว่าไม่แน่ใจว่าจะยังทำต่อหรือไม่กลับตอบรับกลับไปด้วยสีหน้าท่าทางเริงรื่น ดวงตาเปล่งแวววาวราวกับลูกแก้วสะท้อนแสงไฟ โดยไม่หวั่นเกรงอุปสรรคหรือปัญหาใด ๆ ที่จะเกิดขึ้น ทุ่มเททั้งกายและใจทำงานอย่างเต็มที่
“ถึงจะต้องเข้างานทุ่มหนึ่ง แต่เพื่อนพี่บอกว่าให้ไปถึงโรงแรมก่อนหกโมงนะ ทันไหม”
“เอ๊ะ! ทำไมละคะ”
ราชาวดีถามอย่างแปลกใจ หญิงสาวเอียงศีรษะเล็กน้อย พวงแก้มอิ่มเต็มป่องออกเล็กน้อย เธอไม่เคยไปสาย ไปก่อนเวลาทำงานด้วย แต่เพื่อนพี่สีดากลับสั่งมาแบบนี้ ก็เกิดสงสัยอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ ถามไปพี่สีดาก็ไม่รู้ความอยู่ดี ถ้าอยากรู้ก็ต้องไปให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุดต่างหากละ ไหล่กว้างเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนหน้าเสียเมื่อเจอกับสายตาตำหนิ
“ขอโทษค่ะพี่สีดา ช่อจะไม่ทำแล้วจริง ๆ สาบานค่ะ” ราชาวดียกมือขึ้นชูสองนิ้วที่ขมับ แต่ไพล่อีกแขนไปด้านหลัง นิ้วชี้กับนิ้วกลางกลับไขว้กันไว้ ถ้าสิ่งไหนไม่มั่นใจว่าจะทำได้ เธอไม่กล้ารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะหรอก ดังเช่นเรื่องนี้ที่จะต้องมีช่วงเวลาที่คนเราพลั้งเผลอกันบ้าง
“พี่สีดาไม่ต้องห่วงนะคะ ฝีมืออย่างช่อ ทันแน่นอนค่ะ”
หญิงสาวยิ้มสำทับ แต่เพียงแค่เหลือบสายตาไปมองนาฬิกาที่แขวนไว้ข้างผนังห้องแล้วต้องเบิกตากว้าง...นัดก่อนหกโมง ตายแล้วนี่มันใกล้เกือบจะห้าโมงแล้วนะ จะทันไหมนี่...บ้านเธออยู่ไกลจากร้านมากด้วย และอยู่คนละมุมเมืองกับโรงแรมที่จะต้องไปทำงานด้วย
แย่แล้ว! จะไปทันไหมนี่ ราชาวดีเริ่มจะกังวลใจ
“มีอะไรหรือเปล่าช่อ” สีดาถาม ในใจเธอหน่วง ๆ ชอบกล ไม่อยากให้หญิงตรงหน้ารับงานคืนนี้เลย เพราะกลัวเธอจะเป็นอันตราย แต่ก็รู้ดีว่างานพิเศษเหล่านี้เป็นสิ่งที่ราชาวดีรอเสมอ งานที่เงินตอบแทนไม่ได้มากมายสักเท่าไหร่ แต่ถ้าได้บ่อยครั้งบวกกับเงินทิปที่จะได้รับเก็บมาสะสม อีกไม่นานก็จะได้เป็นตั๋วเครื่องบินและค่าเดินทางพอจะไปตามหาพี่สาวที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อนได้
หากราชาวดีกลับไม่ได้ยินคำถามของสีดา ด้วยเธอดีใจที่ความฝันใกล้จะเป็นจริง ดวงตากลมโตแวววาวเป็นประกาย หัวใจเต้นเร็ว ดังก้องทรวงจนต้องรีบยกมือจับไว้ เพราะกลัวว่ามันจะหล่นออกมา การรอยคอยอันยาวนานนับสิบปีกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว อดทนทำงานเก็บเงินอีกไม่ถึงเท่าไหร่ สิ่งที่ฝันไว้ก็จะเป็นจริงแล้ว
‘พี่พรรอหน่อยนะคะ ไม่ว่าพี่จะอยู่ที่ไหนก็ตาม แต่ช่อก็จะไม่ท้อ จะไปตามหาพี่ให้เจอ แล้วเรากลับมาอยู่ด้วยกัน’
ดวงตากลมโตอมโศกทอแสงเป็นประกายผ่านม่านน้ำแพที่เอ่อล้นคลอเบ้า
ทุกวันนี้เธออยู่ด้วยความหวังที่หล่อเลี้ยงหัวใจดวงน้อยให้เข้มแข็ง...หวังจะได้เจอกับพี่สาวที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยมานานนับสิบปี แม้จะรู้ว่ามันริบหรี่เต็มที แต่การวาดฝันว่าจะได้เจอกับคนที่รักก็นำเอาความสุขมาให้
อีกไม่นานเธอจะได้อยู่กับพี่สาวอย่างมีความสุขเช่นเคยมี ได้นอนฟังเสียงนุ่มหวานเย็นใจที่เอื้อนเอ่ยเล่านิทานก่อนนอน แค่ได้ฝันเธอก็มีความสุขแล้ว จึงเพียรพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ฝันนั้นเป็นจริง
“ช่อไปก่อนนะคะพี่สีดา”
ราชาวดีถลาไปด้านหน้าพร้อมมือเล็กเรียวยกขึ้นโบกลา แต่เพราะความรีบเร่งจนลืมซึ่งหน้าที่ประจำที่ต้องทำก่อนเลิกงานคือการเก็บเอาเศษผงเศษหญ้าที่ตัดออกจากลูกค้าไปทิ้ง หญิงสาวรีบคว้ากระเป๋าสะพายที่เก็บไว้ในตู้ใกล้กับประตูห้องครัว แต่เผลอไปเหยียบที่ตักผงซึ่งตอนนี้มีเศษเส้นผมและข้าวของซึ่งจะต้องนำเอาไปทิ้งที่ด้านหลังร้านหกกระจัดกระจาย