ตอนที่ 6

1341 คำ
“ถ้าฉันไม่ปล่อย แล้วเธอจะทำยังไงละสาวน้อย” เขาอยากจะกดจุมพิตดูดซับความหวานให้ชื่นฉ่ำใจ แต่ก็ทำได้เพียงแค่ซุกไซ้คลอเคลียลำคอระหง ทาบทับฝ่ามือเคลื่อนไปเล็กน้อยจนได้ครอบครองเนินทรวงอวบอิ่ม สอดแทรกปลายนิ้วร้อนผ่าวไปสัมผัสเนื้อแท้จนราชาวดีถึงกับดวงตาเบิกกว้าง ทำอะไรไม่ถูกไปในฉับพลัน “เฮ้ย! ” ชายหนุ่มหน้ามนรีบขยับเข้าหมายจะดึงร่างแม่สาวเสิร์ฟที่ถูกตาถูกใจจากเซกิจิโร่ ทว่า... “พงศ์! ” วัชระร้องห้ามลูกชายเสียงดัง ยื่นมือไปคว้าแขนลูกชายไม่ให้ตรงเข้าไปดึงเอาร่างแม่พนักงานเสิร์ฟสาวจากมือเซกิจิโร่ ไม่อยากให้เพียงแค่เรื่องของผู้หญิงทำงานต๊อกต๋อยเพียงคนเดียว มาทำให้ชายที่เขาหวังจะหนุนทำการค้าเกิดความไม่พอใจ ขอแค่มีเงินมีอำนาจ อยากจะได้ผู้หญิงสักกี่คน จะหน้าตาสวยแค่ไหน เพียงแค่กระดิกนิ้ว ก็วิ่งตามเป็นพรวนแล้ว “ก็ดูมันทำซิพ่อ! ” วัชระพงศ์หันไปจะต่อว่าบิดา แต่เมื่อเห็นใบหน้าเครียดขรึมก็ทำให้เกิดความยำเกรงขึ้นมา แต่ในใจก็ยังอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ แม้คนที่อยู่ตรงหน้าจะไม่ได้สวยเหมือนสาวๆ ที่เขาควง แต่ดูเหมือนกับคนตรงหน้าจะมีในส่วนที่เขาไม่เคยได้รับจากผู้หญิง มันเป็นแรงกระตุ้นให้อยากที่เอาชนะ ห้ำหั่นกับอีกฝ่ายบนเตียงให้หมดแรงกันไปข้างหนึ่ง คิ้วคมเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย มองสองคนพ่อลูกด้วยรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาบนริมฝีปากแต่ไม่ใช่แววตา ทำไมเขาจะไม่เข้าใจว่าวัชระกำลังหวังอะไร การขัดใจเขาในตอนนี้อีกฝ่ายไม่ทำแน่ เพราะมันจะส่งผลไม่ดีต่อธุรกิจที่อีกฝ่ายกำลังขอความช่วยเหลือจากเขาอยู่ แต่เห็นสองพ่อลูกนี่แล้วมันขัดหูขัดตาและขัดใจเขาชะมัด “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เธอเอาอาหารไปเสิร์ฟที่ห้องแล้วกัน รู้ใช่ไหมว่าห้องไหน” นิ้วยาวขยับลูบไล้ผิวเนื้อนวลเนียนนุ่ม ขณะที่อีกมือก็เริ่มขยับเคลื่อนไหวไปถึงบั้นท้ายงามงอน “แล้วรีบ ๆ เข้าล่ะ ฉันไม่อยากรอนาน” ชายหนุ่มแนบริมฝีปากบนลำคอระหงไล่เรื่อยไปถึงติ่งหูเล็ก ขบกัดเบา ๆ จนอีกฝ่ายถึงกับสั่นสะท้านขนกายลุกชัน “ทราบค่ะ คุณ...กรุณาปล่อยดิฉันก่อนนะคะ ดิฉัน...จะรีบไปทำตามคำสั่งคะ” ราชาวดีรับคำเสียงสั่น รู้ดีว่าตัวเองจะไม่ไปตามคำสั่งของอีกฝ่ายแน่นอน ยอมที่จะไม่ได้เงินในคราวนี้ ยอมที่จะให้เพื่อนพี่สีดาด่าว่าไม่มีความรับผิดชอบ ดีกว่าจะต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตผู้หญิง เลือกกลับไปช่วยพี่สีดาทำงานที่ร้านเสริมสวยนานกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ปลอดภัยกับร่างกายและหัวใจตัวเอง “ผมกับลูกขอตัวก่อนนะครับ เซกิจิโร่ซังจะได้พักผ่อนเป็นการส่วนตัว” วัชระเอ่ยขอตัวลาอย่างรู้ดีว่าเขาเป็นส่วนเกิน แต่ก็ไม่ลืมที่เอ่ยให้ความช่วยเหลืออีกฝ่ายเอาไว้ก่อนเป็นการถางทางทำมาหากิน “แล้วเอ่อ...ไม่ทราบว่าพรุ่งนี้เซกิจิโร่ซังมีโปรแกรมจะไปไหนหรือเปล่าครับ ให้ผมกับลูกช่วยไหมครับ” เท่าที่เห็น รู้แล้วว่าจะทำอย่างไรถึงจะทำให้เซกิจิโร่ยอมช่วยเหลือ “ไม่ต้อง” เซกิจิโร่ปฏิเสธ ไม่แม้แต่จะเหลือบสายตามองสองพ่อลูกที่ลุกขึ้นเดินออกจากห้องอาหารวีไอพีอย่างไม่ค่อยจะชอบใจสักเท่าไหร่ ประตูปิดลงพร้อมกับมือใหญ่ที่เคลื่อนไปจับปลายคางมนให้สาวเสิร์ฟร่างเล็กแต่หุ่นกลับไม่เล็กตามกายหันมาหา เขาแนบริมฝีปากเลาะเล็มไปบนพวงแก้มนุ่ม ขยับฝ่ามือขยำนวดปลีขากลมกลึงเรื่อยลงไปขนถึงปลายเท้าที่มีถุงเท้าสีขาว “ปล่อย...ปล่อยฉันนะคุณ! ” ราชาวดีพยายามใช้มือที่เย็นและสั่นปลดแขนแกร่งออกไปจากกาย “อืม...” เซกิจิโร่ร้องคำราม สาวน้อยในอ้อมแขนเขาเหมือนกับดอกไม้ที่เริ่มผลิบานยังไม่เคยต้องมือภมรมาก่อน ถึงได้สั่นสะท้านไหวเหมือนซากุระที่ปลิดปลิวจากต้น ริมฝีปากหนาเลาะเล็มไปตามพวงแก้มเนียนนุ่มบางใสจนแทบจะเห็นเลือดฝาด จุดมุ่งหมายคือเรียวปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อที่น่าสัมผัส แต่อีกฝ่ายกลับเบือนหน้าหนี จุมพิตร้อนผ่าวจึงตกอยู่ข้างขอบปาก “ปล่อยฉัน...นะคุณ ฉันมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟชั่วคราว ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่า ที่คุณจะมาลวนลามได้ง่าย ๆ นะ” ราชาวดีพยายามดึงสติที่กระเจิดกระเจิงกลับมาและร้องห้ามเสียงสั่นพร่า เธอสลับแกะมือใหญ่ออกจากกายและผลักดันใบหน้าคร้ามแกร่งที่นาบพร้อมลมหายใจ เป่ารดแก้มนุ่ม ทำให้สั่นสะท้านพลิ้วไหวเหมือนกิ่งไผ่ใบไม้ไหวลู่ไปตามกระแสลม “ว้าย! ” ราชาวดีร้องเสียงดังลั่นเพราะเพียงแค่แวบเดียวร่างเล็กก็ลอยลงไปนอนราบกับพื้นที่มีเสื่อทาทามิปูรองอยู่โดยมีร่างหนาใหญ่ทาบทับอย่างสนิทแนบชิด จนได้กลิ่นลมหายใจอันสะอาดสะอ้านที่เป่ารดบนพวงแก้ม ถึงแม้จะสั่นไหวกับความใกล้ชิดสนิทเนื้อแนบเนื้อแต่ราชาวดีก็ไม่ปล่อยให้อารมณ์ที่แฝงเร้นอยู่นั้นมีอำนาจเหนือกว่า สองมือเล็กระดมทุบไปบนลำตัวกว้างล่ำสันเต็มแรง “ไม่นะคุณ ปล่อยฉันนะ ปล่อย!” ราชาวดีร้องเสียงหลง ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก น้ำตาคลอหน่วย ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้น่ากลัวขนาดนี้ ถึงตอนแรกเธอคิดอยากจะให้เขาจูบและทำอย่างที่กำลังอยู่นี่ด้วย แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ เซกิจิโร่ไม่สนใจน้ำเสียงตื่นตระหนกที่ดังมาจากเรียวปากอวบอิ่มน่ากดย้ำให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ เขาจ้องเข้าไปในดวงตากลมโต ปลายนิ้วยาวลากไล้ไปตามขอบเสื้อยูคาตะเปิดแยกสาบเสื้อให้ห่างกัน ก่อนจะคลึงเคล้นก้อนเนื้อสล้างนุ่มมืออย่างจาบจ้วงและเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ลำขาแข็งแกร่งกดตรึงถูกไถกับลำขาเสลาที่โผล่พ้นตัวชุดออกมา “เธอนี่สวยจริง ๆ สาวน้อย ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส” สายตาวามวาวเจิดจรัสด้วยเพลิงปรารถนามองผิวสีน้ำผึ้งนวลเนียน ก่อนจะมองเข้าไปในดวงตากลมโตที่เปล่งประกายวาววับกึ่งหวาดกลัวกึ่งอยากรู้ ทำให้เขาอดที่จะยิ้มในสีหน้าแต่ไม่ใช่แววตาไม่ได้ ผู้หญิง...ปากบอกว่าไม่ แต่ร่างกายกลับเชิญชวน รอยยิ้มหยามหยันผุดขึ้นบนมุมหนึ่งของมุมปากสีแดง ใบหน้าคร้ามแกร่งโน้มไปด้านหน้าช้า ๆ หมายจะประทับบนกลีบปากสีชมพูระเรื่อ แต่อีกฝ่ายเมินหลบจุมพิตพลาดเป้าไปถูกพวงแก้มสีพีชสุกแทน ชายหนุ่มหัวเรากลั้วคอ “จะหนีไปไหนละสาวน้อย เดี๋ยวฉันจะทำให้เธอมีความสุขไง เธอก็ต้องการมันไม่ใช่หรือไง” เหมือนได้เจอของเล่นชิ้นหวานที่เซกิจิโร่รู้สึกพอใจ เขาจับปลายคางมนเอาไว้ ขบเม้มกลีบปากหนาจากพวกแก้มนุ่มขึ้นไปบนดวงตากลมโตที่ปิดหนี ไล่ลงมาบนปลายจมูกโด่งเป็นสัน ก่อนจะแนบจุบบนกลีบปากอวบอิ่มของคนที่หุบสนิท แถมยังขบเม้มไม่ให้เขาสอดแทรกปลายลิ้นล่วงล้ำเข้าไปภายในได้ง่าย ๆ แต่มีหรือที่เซกิจิโร่จะยอมแพ้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม