ตอนที่5 ต้นไม้ ใบเฟิร์น
คลิปวิดิโอชายหนุ่มสองคนทะเลาะวิวาทกันหน้าสถานบันเทิงชื่อดังทำเอาพิมลดาแทบปล่อยสมาร์ทโฟนร่วงลงพื้น เหตุเกิดตั้งแต่เมื่อคืนจนตอนนี้เกือบจะหกโมงเย็นน้องสาวอย่างเธอเพิ่งได้รู้ข่าว แถมที่รู้ก็เพราะเพื่อนเอาคลิปนั่นมาให้ดูอีกต่างหาก
“เธอจะไปเยี่ยมพี่ไม้หรือเปล่า” หญิงสาวสบสายตาของขวัญที่ถามคำถามนั้นกับเธอเพียงนิดก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ
“สองคนนั้นไม่ถูกกันเหรอขิง เธอรู้เรื่องนี้มาก่อนหรือเปล่า”
“ก็พอรู้ เรื่องผู้หญิงมั้ง” พิมลดากับของขวัญมองหน้ากันอัตโนมัติ น้ำขิงรู้ว่าเขากับพี่ชายของเพื่อนไม่ถูกกัน แต่ก็นั่นแหละมันไม่เกี่ยวกับเธอนี่นะ
“พี่นนท์เป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ติดเรียนอาจารย์สมพรนะเรายังไม่กลับหรอกอยู่เป็นเพื่อนพี่เขาดีกว่า”
“เขาเจ็บหนักเลยเหรอขิงถึงยังนอนโรงพยาบาลอยู่”
“เปล่าหรอก เราไปเยี่ยมเขาที่ห้องมาน่ะ” หญิงสาวเจ้าของคำตอบเมื่อครู่บิดยิ้มด้วยความเขินอาย ส่วนพิมลดานั้นปั้นยิ้มเมื่อคิดว่าคนบ้าที่ปล้นจูบเธอราวเสือร้ายคงจะไปถึงไหนต่อไหนกับน้ำขิงแล้ว
“เธอโอเคที่เราจะคุยกับพี่นนท์ทั้งที่เขาไม่ถูกกับพี่ไม้น่ะ”
“อะ..โอเคสิขิง ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย อีกอย่างเธอก็น่าจะรู้ว่าเรากับ.. ที่บ้านเป็นยังไง” พิมลดาเสียงเศร้าลงฉับพลันเมื่อพูดถึงสถานการณ์ของครอบครัวเธอ ไม่ใช่สิ สถานการณ์ของเธอกับครอบครัว
.....
คุณพ่อ
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ”
“วันนี้เข้าไปดูพี่ชายของแกให้หน่อย ฉันกับแม่เขายังไม่เสร็จงานที่นี่ เสร็จแล้วโทรรายงานฉันด้วย”
“คุณพ่อคะ พี่เขาคงไม่อยากให้หนูไปวุ่นวาย..”
“ฉันสั่งอะไรก็ทำ” น้ำเสียงทรงพลังเอ่ยกับเธอเพียงเท่านั้นก่อนจะตัดบทด้วยการวางสาย
“แล้วลูกชายของคุณพ่ออยู่ที่ไหนล่ะคะ” พิมลดาตั้งคำถามกับตัวเองถึงเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อแต่เธอก๋ไม่ได้จะพูดคุยกับเขาได้อย่างครอบครัวปกติทั่วไป
สถานบันเทิงที่ค่อนข้างไกลจากคอนโดของเธอคือที่ที่พิพัฒน์ หรือต้นไม้พี่ชายของเธอชอบมาสิงสถิตอยู่เป็นประจำ และมันก็คือเป้าหมายแรกในการมาตามหาเขาในค่ำคืนนี้ กลุ่มโต๊ะที่ใหญ่ที่สุดเด่นหรากลางผับ ผู้คนในกลุ่มนั้นราว ๆ ยี่สิบคนได้แต่ละคนกำลังมึนเมาอย่างทุเรศสายตาของเธอแต่มีคนหนึ่งที่คอของเขาเหมือนจะมีอุปกรณ์อะไรสีขาว ๆ พยุงไว้เมื่อเพ่งมองผ่านสีแสงที่กระพริบวูบวาบอย่างน่าปวดหัวถึงได้รู้ว่านั้นคือพี่ชายของเธอ สองเท้าก้าวเดินไปหาเขาอย่างประวิงเวลาแต่ก็อยากรีบถามแล้วรีบกลับไปนอนอยู่เหมือนกัน
“พี่ไม้”
“มีอะไร”
“คุณพ่อให้ใบมาดูว่าพี่เป็นยังไงบ้าง”
“ยังไม่ตาย เห็นมั้ย” หญิงสาวถูกพี่ชายของเธอตอกกลับอย่างหงุดหงิด เธอพยักหน้ารับรู้และปลีกตัวออกมาเมื่อสิ่งที่ได้รับมอบหมายนั้นก็มีเพียงเท่านี้
“ใบกลับแล้วค่ะ ไม่รบกวนแล้ว”
“เดี๋ยว” เจ้าของเสียงนั้นหาใช่พี่ชายของเธอแต่เป็นคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะกับผู้หญิงแสนสวยบนหน้าตักนั้น เมื่อเธอหันกลับมามองเขาก็ดันผู้หญิงคนนั้นออกไปจากตัว
“สนใจเหรอเฮีย”
“พี่ไม้...” พิมลดาเรียกพี่ชายด้วยความผิดหวังเพราะเหมือนว่าเขาจะไม่เป็นห่วงเธอเลย
“คนนี้เหรอ ใบเฟิร์นน้องสาวมึงไอ้ไม้”
“ใช่เฮีย สนใจมั้ยล่ะ” ไม่ทนฟังคำพูดอื่นจากพี่ชายอีกพิมลดารีบหนีก่อนที่ภัยจะมาถึงตัว เธอรีบวิ่งออกมาจากสถานที่นั้นก่อนจะขังตัวเองไว้ในรถที่ตกรุ่นไปหลายปี หยาดน้ำที่ก่อตัวขึ้นเพราะเสียความรู้สึกไหลหยดเปื้อนแก้มเนียนทั้งสอง หญิงสาวยกมือขึ้นปาดเช็ดมันอย่างไม่ใส่ใจแล้วรีบโทรหาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของเธอ
“พี่ไม้ไม่เป็นอะไรมากค่ะ วันนี้มานั่งกินเหล้าที่ผับได้แล้ว”
“อืม แค่นี้แหละฉันกำลังยุ่ง” เป็นอีกครั้งที่ได้พูดคุยเพียงไม่กี่คำต้องวางสาย ก่อนจะนึกถึงคน ๆ หนึ่งที่เคยได้คุยกันครั้งละเป็นชั่วโมง เขาเป็นคนเดียวที่ทำกับเธอแบบนั้น... แต่ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว
“นึกว่าจะไม่มาเอาของคืนซะแล้ว”
“เอาคืนมาเลยค่ะ ถึงมันจะไม่ได้มีราคาแต่มันก็คือสมบัติของของใบ”
“เบอร์โทร แลกกับกระดานกับภาพที่ยังลงสีไม่เสร็จ”
“จะเอาเบอร์โทรใบไปทำไมคะ”
“อยากรู้จัก เบื่อที่ต้องมาแอบมองแล้ว” หญิงสาวเผลอไผลมองหน้าคนตัวสูงที่มีรอยยิ้มประดับใบหน้าแทบตลอดเวลา หน้าตาจัดว่าหล่อไร้ที่ติ รูปร่างก็ราวกับนายแบบเหตุผลอะไรเขาถึงมาเจอเธอในมุมเล็ก ๆ แบบนี้ได้
“ห้ามก่อกวนนะคะ” และวันนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอรู้จักผู้ชายที่ชื่อนนท์นภัทร... แต่มันก็เพียงเศษเสี้ยวที่เขาให้เธอได้รู้จักเท่านั้น
ซ่า...
หยาดฝนตกกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา โชคดีที่หญิงสาวขับรถมาถึงคอนโดระดับกลางของเธอได้อย่างปลอดภัยตลอดเส้นทางเธอภาวนาของแม่แดงของเธออย่างอแง งานเข้าแน่ ๆ หากรถพังตอนพายุฝนถาโถมลงมาขนาดนี้คงลำบากสุด ๆ ไปเลย
“ใบ! ไปไหนมาน่ะ” พิมลดาหันหาทิศทางของเสียงเรียกคุ้นหูก็พบว่าน้ำขิงตะโกนเรียกเธอจากที่จอดรถแถวหลังนั่นเอง หญิงสาวลูบแขนตัวเองเมื่อกำลังสู้กับความหนาวเย็นและยังยืนอยู่ข้างรถตัวเองปล่อยให้เพื่อนที่ลงมาจากรถสีเขียวเอกลักณษ์เด่นชัดที่บอกว่าเจ้าของรถคันนั้นคือใคร
“น้ำขิง กำลังจะออกไปข้างนอกเหรอ”
“เปล่า เราไปเยี่ยมพี่นนท์ที่ห้องแล้วเขามาส่งน่ะสิ ฝนตกแรงเราเลยชวนพี่เขาไปบนห้อง”
“อ่อ ฝนตกแรงจริง ๆ นั่นแหละเนอะ” พิมลดาก้มหน้าพูดจงใจหลบหน้าคนตัวสูงที่ยืนอยู่หลังเพื่อนเธอ แต่เขานั้นกลับจ้องเธอราวกับเสือที่จ้องเหยื่อเอาไว้
“ไปสิ ขึ้นห้องพร้อมกัน” น้ำขิงเกี่ยวแขนเพื่อนเข้าไปในลิฟต์โดยไม่ลืมจูงมือนนท์นภัทรให้ตามเข้ามาด้วย ชายหนุ่มยืนฟังสองสาวคุยกันที่ด้านหลังของพวกเธอแต่พิมลดากลับรู้สึกว่าเธอกำลังถูกจ้องมอง ‘อาจจะคิดมากไปเองก็ได้’
“ยังไม่ตอบเราเลยนะว่าหนีไปไหนมา”
“พ่อเราให้ไปดูพี่ไม้น่ะ ว่าเป็นยังไงบ้าง” คำตอบที่ได้ทำให้น้ำขิงชำเลืองมองคนที่เธอชวนมาขึ้นห้อง เพราะสาเหตุที่พี่ชายของเพื่อนเจ็บก็เพราะผู้ชายที่เธอกำลังดูใจ
ติ๊ง
ช่วงเวลาที่น่าอึดอัดสิ้นสุดลง พิมลดารีบก้าวเท้าออกจากลิฟต์ไม่รอเพื่อนที่หันไปเกี่ยวแขนนนท์นภัทรให้เดินออกมาพร้อมกัน
“อย่าถือสาใบเฟิร์นมันเลยนะคะ พี่ชายเจ็บทั้งคนเลยอาจจะตึง ๆ กับพี่นนท์หน่อย”