หมากเกมนี้
ตอนที่1 หมากเกมนี้
นนท์ นนท์นภัทร คนใจร้อนที่ดูใจเย็น เขาเล่นเกมหัวใจกับผู้หญิงคนหนึ่งนานห้าเดือน เธอดูบอบบาง อ่อนแอ แต่ก็ดูเข้มแข็งในคน ๆ เดียว เธอเป็นน้องสาวของคู่อริที่ชอบมากวนใจเขานานนับปี
“จะกลับแล้วเหรอ” หญิงสาวเจ้าของห้องออกมาจากห้องน้ำสภาพหมิ่นเหม่ อิงฟ้า เป็นผู้หญิงคนหนึ่งในชีวิต แต่ไม่ใช่คนสำคัญในชีวิต... สักนิดก็ไม่มี
“นนท์..”
“เธอรู้อยู่แล้ว” เขาตอบกลับเมื่อเธอถามย้ำ
พรึ่บ
อิงฟ้าที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวปิดร่างกายขาวโพลนสวมกอดชายหนุ่มจากทางด้านหลังเมื่อเห็นว่ากระดุมเม็ดสุดท้ายถูกติดเสร็จแล้วเรียบร้อย
“เผื่ออยากนอนด้วยกันสักวันไง”
“ฉันไม่นอนด้วยเธอก็โทรตามไอ้ไม้มาสิ”
“อย่าพูดถึงคนอื่นได้มั้ยล่ะ” หญิงสาวซบใบหน้าลงบนแผ่นหลังของเขาอย่างออดอ้อน แต่มันใช้ไม่ได้กับคนใจแข็งและไร้ความพิศวาสอย่างเขาแน่นอน
“ปล่อย”
“ปล่อยก็ได้ ขับรถดี ๆ นะ” นนท์นภัทรไม่แม้แต่จะหันกลับมองรอยยิ้มแสนหวานจากหญิงสาวเจ้าของห้อง เขาคว้ากระเป๋าเงินกับกุญแจรถที่ชั้นวางทีวีเพียงเท่านั้นแล้วไปจากห้องของเธออย่างเย็นชา
รถซุปเปอร์คาร์ราคาเกินเอื้อม เจ้าของผู้ครอบครองมันคือนักศึกษาวิศวกรรมโยธาปีที่สี่ นนท์นภัทรเป็นทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของกิจการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ แน่นอนว่าการจะมีรถราคาเกือบสามสิบล้านไว้ขับมาเรียนไม่ใช่เรื่องน่าแปลก
ตืดด ตืดด
น้ำขิง
“ฮัลโหล”
“พี่นนท์อยู่ไหนแล้วค้าา” คนโทรมาพูดเสียงยานยืดดังแข่งกับเสียงเพลงจังหวะมันส์ ๆ ที่ดังลอดมารบกวนการได้ยินของเขา
“กำลังขับรถออกไป รถมันติดอาจช้าหน่อย”
“รีบ ๆ มานะค้าา ขิงรอพี่นนท์พากลับห้องน้าา”
หลังจากกดวางสายมุมปากของชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าสมบูรณ์แบบราวกับเทพบุตรกลับบิดยิ้มร้ายกาจราวกับซาตานชั่วช้าเมื่อนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมา น้ำขิงก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งของเขาเท่านั้น
เขาจอดในบ้านที่จัดปาร์ตี้วัดเกิดของใครสักคน สีเขียวเด่นของรถเรียกสายตาบรรดานักดื่มในบ้านให้มองมาที่นนท์นภัทรเป็นตาเดียว
“พี่นนท์!” น้ำขิงโบกมือไม้พัลวัลกวักคนที่เพิ่งลงจากรถอย่างดีใจที่เขายอมมารับเธอจริง ๆ แต่ทว่าคนเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอกลับนิ่งค้างราวกับหยุดหายใจไปชั่วขณะ เธอได้แต่มองตามแผ่นหลังของน้ำขิงที่เดินไปหาผู้ชายคนนั้น ‘พี่นนท์’
“มาค่าา พี่นนท์มาทำความรู้จักเพื่อน ๆ ของน้ำขิง” พิมลดาก้มหน้าลงเมื่อสายตาคมนั้นสาดส่องมาที่เธออย่างจงใจ มือเรียวสอดประสานกันบนหน้าตักแน่นเพราะกำลังสับสน มึนงง และเสียใจในเวลาเดียวกัน
“นี่ใบเฟิร์น เพื่อนน้ำขิงค่ะพี่นนท์”
“...”
“ใบ นี่พี่นนท์” พิมลดาเงยหน้าขึ้นอีกครั้งโดยไม่รู้ว่านัยน์ตาของตัวเองแดงขนาดไหนแล้ว เธอมองคนสนิทของน้ำขิงหน้าเศร้าก่อนจะยกมือขึ้นไหว้เขาด้วยใจที่สั่นคลอน
“สวัสดีค่ะ”
“ไอ้ใบ! พี่นนท์เขาแก่กว่าเราแค่ปีเดียวเอง”
“...” พิมลดาปิดปากเงียบผิดกับก่อนหน้านี้ที่ความสดใสของเธอยังคงอยู่ มันหายไปเพียงชั่วพริบตาเดียวเพียงเพราะเพิ่งรู้ว่าเขาก็เป็นคนที่เพื่อนเธอคุยอยู่ ‘แล้วเธอล่ะ’
“นี่ของขวัญพี่ค่ะพี่นนท์ เจ้าของงานวันเกิดในค่ำคืนนี้”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
“ตามสบายเลยนะคะพี่นนท์ แฟนยัยขิงก็เหมือนแฟนพวกเรา” ของขวัญพูดติดตลกแต่คนเมานิด ๆ หน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย
“แฟนเฟินอะไรเล่า แค่คุยกันเฉย ๆ เอง”
“ช่วงนี้เพื่อนขวัญมันมีอาการแปลก ๆ ตอนคุยแชท ไม่รู้ว่าเป็นพี่นนท์หรือเปล่านะคะ”
“ขวัญอ่ะ เราก็คุยกับพี่นนท์คนเดียวนั่นแหละ” พิมลดามองเพื่อนที่เกาะแขนเขาไม่ปล่อยด้วยแววตาหม่นเศร้า ทุกอย่างตรงหน้ามันกระทันหันเกินไปจนเธอคิดว่าควรไปจากตรงนี้ก่อนเสียจะดีกว่า
“ใบ จะไปไหน”
“ขะ..ขอไปเข้าห้องน้ำสักแป๊บ เดี๋ยวมา”
“อ่อ อย่าไปนานล่ะขิงมันเมาละนะ” เจ้าของงานวันเกิดเปรยกับพิมลดาที่ต้องกลับพร้อมกับน้ำขิงเพราะอยู่คอนโดเดียวกัน
“คือ.. ถ้าขิงจะกลับก่อนกลับได้เลยนะ เดี๋ยวเรากลับแท็กซี่ได้”
“ไม่เอา.. เรามาด้วยกันจะปล่อยแกกลับแท็กซี่ได้ยังไง..” พิมลดาแค่นยิ้มที่น้ำขิงยังมีแก่ใจเป็นห่วงเธอ แต่เธอเลือกจะไม่อยู่อธิบายอะไรอีกรีบพาใจที่สั่นหวิวออกไปจากตรงนี้ก่อน
หญิงสาวหวังให้น้ำเย็น ๆ ที่ชำระล้างใบหน้าของเธอในตอนนี้ช่วยขับไล่ความหม่นเศร้าออกไปจากสมองอาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลที่ดื่มไปก่อนหน้าด้วยล่ะมั้งถึงได้ดึงความรู้สึกเธอดิ่งลงต่ำมากขนาดนี้
ห้าเดือนที่แล้ว
สวนสาธารณะใกล้มหาวิทยาลัย
“สวยมากเลยครับ”
“คะ? หมายถึงรูปนี้เหรอคะ” หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงจนแทบได้ยินเสียงของมันอย่างชัดเจน เขาเป็นคนแปลกหน้าคนแรกที่ชมรูปวาดของเธอว่าสวย
“ถ้าไม่ยืนมองมาเกือบสองชั่วโมง พี่คงไม่เชื่อว่าน้องวาดมันเอง”
“นี่คุณยืนดูตั้งแต่เริ่มเลยเหรอคะ”
“ครับ น่ารักดี” พิมลดาทำตัวไม่ถูกที่เขาพูดจากำกวมไม่รู้ว่าน่ารักนั้นเขาหมายถึงอะไร
“ใบวาดเสร็จพอดี คุณจะรับไว้หรือเปล่าคะถ้าใบให้”
“ชื่อใบเหรอ น่ารักจัง”
“เปล่าค่ะ ชื่อใบเฟิร์นแต่เพื่อน ๆ เรียกว่าใบ” หญิงสาวแก้อาการเคอะเขินด้วยการดึงกระดาษที่วาดดอกทิวลิปสีดำด้วยดินสอสีส่งมันให้เขา เมื่อรูปวาดชิ้นล่าสุดตกไปอยู่ในมือของคนตัวสูงเธอก็กระวีกระวาดเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดวิ่งหนีเขาไป