“ไม่มีกุญแจ” ผู้กองหนุ่มยักไหล่ยิ้มตอบหน้าตาเฉย
“ไม่มีกุญแจ...” ขวัญชนกทวนคำตอบเสียงสูง “ไม่มีก็ไปเอาจากลูกน้องคุณมาสิ”
“ขี้เกียจวิ่งขึ้นไปบน สน. บอกมาเร็วๆ สิ รถของคุณคันไหน เดี๋ยวก็ขับไม่ทันเขาพอดี” ผู้กองแกล้งบ่นเสียงดัง ขวัญชนกกระทืบเท้าด้วยความขัดใจเดินนำหน้าไปยังรถของเธอ
“จะให้ผมขับให้มั้ย” ผู้กองจอมยียวนเอ่ยถามยิ้มๆ
“ไม่ต้อง...ฉันขับเอง” ขวัญชนกไขกุญแจรถ หญิงสาวหันไปยิ้มหวานให้น้องอาร์ตที่ยืนทำตาปริบๆ ฟังพ่อเถียงกับคุณครูหลิน
“น้องอาร์ตขึ้นรถนะคะ ครูหลินจะพาไปหาน้องบลูเสร็จแล้วครูหลินจะพาไปหาคุณหมอด้วย” ขวัญชนกเอ่ยกับน้องอาร์ตด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะ
“ครับ ครูหลิน” น้องอาร์ตรู้หน้าที่เปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่งด้านหลัง ส่วนด้านหน้าปล่อยให้พ่อนั่งคู่กับครูสาว
ร.ต.อ.พันธวุธยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่ครูสาวพูดกับลูกตัวเอง เขารู้สึกว่าครูสาวจะรักเด็กๆ มาก
“จะยืนยิ้มอีกนานมั้ยคะ จะไปหรือเปล่า ถ้าไม่ไป ดิฉันจะไปสองคนกับน้องอาร์ต” ขวัญชนกพูดประชดผู้กองหนุ่มเมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนยิ้มกว้างไม่ยอมขึ้นรถสักที ผู้กองหนุ่มมาดเข้มหุบยิ้มทันทีเมื่อเจอน้ำเสียงดุๆ ตวาดแว้ดมา
“ไปสิครับ” ผู้กองพันเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเอนตัวพิงเบาะรถด้วยท่าสบายๆ จนขวัญชนกหมั่นไส้ ปิดประตูรถกระแทกดัง ปัง!
ขวัญชนกขับรถออกไปจากโรงพักอย่างรวดเร็ว ถ้าหากผู้กองหนุ่มจะหันหลังไปมองที่สน. สักนิดหนึ่งจะได้เห็นว่าตอนนี้ลูกน้องของผู้กองทั้งโรงพัก พากันมายืนอออยู่ตรงประตูหน้าโรงพัก มองผู้บังคับบัญชาตัวเองเถียงกันครูสาวแสนสวย และในมือทุกคนมีกระดาษแผ่นเล็กๆ ทายกันว่าผู้กองจะจีบครูสาวหรือไม่จีบ...
บทที่ 3
ขวัญชนกขับรถมาได้ครึ่งทางก็นึกได้ว่ายังไม่ได้โทรไปแจ้งข่าวน้องบลูให้คุณพ่อทราบ หญิงสาวปล่อยมือจากพวงมาลัยรถ มือบางอีกข้างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าจะกดโทรออกแต่ยังไม่ทันได้กดโทรก็โดนผู้กองหนุ่มตวาดเสียงดังจนขวัญชนกตกใจแทบปล่อยโทรศัพท์หล่นไปกองกับพื้นรถ
“นี่คุณจะทำอะไร” ผู้กองหนุ่มมาดเข้มเด้งตัว นั่งตัวตรงจากท่านอนพิงเบาะเอ่ยถามเสียงดังเมื่อเห็นครูสาวหยิบโทรศัพท์ออกมาจะกดโทร
“อีตาบ้า! ตะโกนเสียงดังออกมาได้ คนเขาตกใจหมด ไม่เห็นหรือยังไง ฉันกำลังจะโทรศัพท์” ขวัญชนกตวาดแว้ดกลับคืนเหมือนกัน
“เห็น...แต่ขับห้ามโทร โทรห้ามขับ ไม่เคยได้ยินเขาประชาสัมพันธ์หรือยังไง แบบนี้ผมจับคุณได้นะ ข้อหาขับแล้วโทร” ผู้กองหนุ่มดึงโทรศัพท์ออกจากมามือบาง ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาแสดงสีหน้าจริงจังเหมือนขณะปฎิบัติหน้าที่อยู่
ขวัญชนกอ้าปากหว๋อ ใบหน้างามเจื่อนไปนิดหนึ่งเมื่อโดนต่อว่าตรงๆ เพราะความรีบตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนเธอเลยไม่ได้ใช้หูฟังขณะที่โทรศัพท์ แต่คนอย่างขวัญชนกหรือจะยอมให้ถูกต่อว่าฝ่ายเดียว
“จับอีกแล้ว ช่างขยันขันแข็งทำหน้าที่เป็นตำรวจที่ดีเหลือเกินน่ะ“ ขวัญชนกพูดประชดเหน็บแนม ดวงตาสีดำกลมโตมองค้อนคนที่นั่งข้างๆ
“อ๋อ...แน่นอนสิครับ ไม่งั้นผมจะได้รับรางวัลตำรวจดีเด่นถึง 4 ปีซ้อนหรือครับ” ผู้กองหนุ่มยิ้มกว้างยืดอกผึ่งผายบอกอย่างภูมิใจ
ขวัญชนกกลอกตาขึ้นบนทำหน้าหนักใจพูดออกมาให้ผู้กองจอมยียวนได้ยินด้วย “ไม่ค่อยจะหลงตัวเองเลย”
“เอาโทรศัพท์มานี้” ขวัญชนกขับรถมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างก็พยายามจะคว้าโทรศัพท์มาคืน
“จะโทรไปหาแฟนหรือยังไง เอาไว้ให้คุณจอดรถก่อนแล้วค่อยโทร” ผู้กองเอ่ยแนะนำเสียงเข้ม
“บ้า! ฉันจะโทรไปหาคุณพ่อบอกท่านว่าเราเจอน้องบลูแล้ว”
“แล้วไป... นึกว่าจะโทรไปหาแฟน” ผู้กองยิ้มพูดเหมือนโล่งอก
“หูฟังบลูทูธอยู่ไหน ทำไมไม่รู้จักเอามาใช้” ผู้กองต่อว่ากลายๆ
“อยู่ในลิ้นชักหน้ารถ หยิบมาให้หน่อย” ครูสาวใช้ผู้กองหน้าตาเฉย หญิงสาวกำลังตั้งใจขับรถจึงไม่กล้าเอื้อมมือไปหยิบหูฟังเดี๋ยวจะโดนต่อว่าอีก
ผู้กองพันหยิบหูฟังบลูทูธออกมาจากลิ้นชักแล้วจับคู่กับมือถือให้เรียบร้อย นายตำรวจหนุ่มดูรูปหญิงสาวที่อยู่หน้าจอโทรศัพท์แล้วก็ยิ้มกว้างอดที่จะแซวครูสาวไม่ได้
“รูปคุณสมัยสาวๆ ก็ดูสวยดี”
“อีตาบ้า! ฉันยังไม่แก่ พูดมาได้ว่าสมัยสาวๆ รูปที่เห็นฉันเพิ่งถ่ายเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเอง” ขวัญชนกค้อนปะหลับปะเหลือกโมโหหน้าแดงก่ำ ผู้กองหนุ่มหัวเราะร่วนด้วยความขำกับคำประชดแสบๆ คันๆ
“เสร็จแล้วจะใส่หูฟังข้างไหนดี” ผู้กองพันเอ่ยถามเมื่อจับคู่ระหว่างหูฟังกับมือถือได้แล้ว
“ข้างซ้ายสิ เอามา เดี๋ยวฉันใส่เอง” ขวัญชนกแบมือขอหูฟัง
“ไม่ต้อง ขับรถไปเถอะ เดี๋ยวผมใส่ให้อีก” ผู้กองหนุ่มปฎิเสธ มือใหญ่เอื้อมมือไปจับผมที่หลุดอยู่ข้างๆ แก้มไปทัดใบหูเสร็จแล้วก็ค่อยๆ ใส่หูฟังแบบคล้องใบหูให้ครูสาว นายตำรวจหนุ่มทำได้อย่างแผ่วเบา ครูสาวเขินอายหน้าแดงก่ำเอ่ยพึมพำขอบคุณเสียงแทบไม่พ้นลำคอ
“ขอบคุณค่ะ”
“เบอร์คุณพ่อคุณเบอร์อะไร เดี๋ยวผมกดโทรให้” ผู้กองหนุ่มอาสาอย่างใจดี
“คุณกดปุ่มโทรด่วนได้เลยค่ะ ปุ่มเลข 2 ฉันตั้งเบอร์ของคุณพ่อไว้” ขวัญชนกละสายตาจากถนมมามองหน้าผู้กองหนุ่มนิดหนึ่ง
“ครับ ได้แล้วครับ” ผู้กองพัน กดปุ่มเลข 2 โทรด่วนให้ครูสาว
ขวัญชนกหันมายิ้มหวานให้ผู้กองระหว่างที่รอคุณพ่อรับสาย ผู้กองพันตาพร่า ใจเต้นรัวเร็ว เขาไม่เคยเจอหญิงสาวคนไหนที่ยิ้มได้สวยและพิมพ์ใจเหมือนครูสาวคนนี้มาก่อน ชายหนุ่มทำเป็นหันไปคุยกับน้องอาร์ตเพื่อปิดบังความรู้สึกของตัวเอง
“น้องอาร์ต หิวข้าวหรือเปล่าครับ” ผู้กองถามลูกชายด้วยความเป็นห่วงมองนาฬิกาข้อมือเห็นว่าเวลา 6โมงเย็นแล้ว
“ไม่ค่อยหิวครับ เมื่อตะกี้น้องอาร์ตกินขนมไป 2ถุงกับนมอีกกล่อง” น้องอาร์ตเกาะเบาะหลังยื่นหน้ามาตอบพ่อ
“น้องอาร์ตถูกใครต่อยมาครับ หนูไปทำคนอื่นก่อนหรือเปล่าครับ” ผู้กองพันเอื้อมมือไปจับแก้มลูกแล้วลูบเบาๆตรงขอบตา
ขวัญชนกแจ้งข่าวกับคุณพ่อเรียบร้อยแล้วเธอเอาหูฟังออกตั้งใจฟังเรื่องที่น้องอาร์ตถูกต่อย
“น้องอาร์ตทะเลาะกับพี่ต้นและถูกพี่ต้นต่อยครับ” น้องอาร์ตเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเบาๆ
“ทะเลากันเรื่องอะไรคะ” ครูหลินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เธอยังไม่ได้ถามเรื่องนี้กับน้องอาร์ตสักทีมัวแต่วุ่นๆ เรื่องของน้องบลู
“ก็พี่ต้นแย่งสมุดวาดเขียนของน้องบลูจะเอาไปทิ้งน้ำ น้องอาร์ตเลยไปแย่งกลับมาคืน พี่ต้นไม่ยอมให้แล้วยังต่อยน้องอาร์ตด้วย น้องบลูเห็นอาร์ตถูกต่อยก็เลยต่อยพี่ต้นบ้าง พอพี่ต้นต่อยน้องบลูคืน อาร์ตก็เลยต่อยพี่ต้นคืนบ้าง พี่ต้นตาเป็นหมีแพนด้าทั้งสองข้างเลย”