เริ่มแผนการ

1222 คำ
            โรงพยาบาล คุณพีรพลลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆเตียงของฉันท่าทางของเขาทำเหมือนว่าสนิทกับยันมินมาก ทั้งที่เขาเป็นเพื่อนกับคุณอัสดา หรือว่าจริงๆแล้วยัยมินเองก็สนิทกับคุณพีรพลเหมือนกัน “พี่คิดว่ามินจะไม่กลับมากรุงเทพฯแล้วซะอีก ไม่น่าเชื่อเลยว่ามินจะกลับมาจริงๆ..” “ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด..?” “ดีแล้วละที่มินไม่เข้าใจ เพราะวันนี้มินจะได้เจอญาแล้ว ถ้าญาเห็นว่มินความจำเสื่อมญาจะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่งกับมินอีก..” “ใครคือญา..แล้วเธอจะมาทำอะไรฉัน..?” คุณพีรพลมองหน้าฉันนิ่งๆแล้วยื่นมือมาจับมือฉันไปกุมไว้ “ไม่ต้องห่วงนะถ้าญาทำอะไรมิน พี่จะปกป้องมินเอง..” ฉันมองมือเขาที่กำลังกุมมือฉันอยู่ด้วยความสงสัย นี่ยัยมินเกี่ยวข้องอะไรกับคุณพีรพล “แกไม่เห็นบอกฉันว่าแกจะมาเยี่ยมเมียฉันวันนี้..?” เรา 2 คนหันไปมองพร้อมกัน เพราะคนที่เดินเข้ามาในห้องเป็นคุณอัสดา คุณพีรพลรีบปล่อยมือฉันแล้วลุกขึ้นยืนทันที “เอ่อ..ฉันแวะมาเยี่ยมแม่ของเพื่อนที่มารักษาตัวที่โรงพยาบาลนี้พอดีนะ ก็เลยนึกได้ว่ามินก็อยู่นี่เลยมาเยี่ยมนะ..” “หรอ..” คุณอัสดาเดินเข้ามายืนอีกฝั่งของเตียงแล้วจ้องหน้าคุณพีรพลนิ่ง “วันนี้มินจะออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่ไหม..?” “อื้ม..” “ฉันว่าจะแวะไปหาญาที่บ้านพอดี เดี๋ยวเอาไว้เจอกันที่บ้านแล้วกันนะ..” “อื้ม..” เขาตอบแค่นั้นแต่ก็ยังจ้องหน้าคุณพีรพลนิ่ง จนฉันรู้สึกแปลกๆกับสายตาของพวกเขาที่มองกัน จนเมื่อคุณพีรพลกลับไปแล้วเขาจึงเดินไปนั่งลงที่โซฟาชิดผนังแล้วคิดอะไรอยู่คนเดียว ฉันจึงต้องนอนลงช้าๆแล้วหันหน้าตะแคงไปอีกฝั่งแอบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความไปหายัยจี๊ดเพื่อบอกมันว่าไม่ต้องมาแล้ว “ดวงมาแล้วค่ะคุณมิน..” ดวงเดินเข้ามาในห้องพร้อมของเต็มมือที่ฉันจดไปให้ “ไปไหนมา..?” “คุณอัสดา..” “ฉันให้อยู่เฝ้าคุณมิน แล้วเธอไปไหนมา..?” “ดวงไปซื้อของมาให้คุณมินค่ะ..” “ของอะไร..?” “นี่ไงคะ..” ดวงยื่นกระดาษที่ฉันจดให้ให้คุณอัสดาตรงหน้า เขารับมาดูแล้วจ้องของในมือของดวงนิ่งๆ แล้วยื่นกระดาษกลับไปให้ดวง “เอาของทุกอย่างขึ้นรถไปให้หมด..” “ค่ะคุณอัส..” ดวงรับคำแล้วก็ขนของทุกอย่างของฉันออกจากห้องเพื่อหิ้วไปที่รถ ภายในห้องจึงเหลือแค่ฉันและเขา 2 คน “ใช้ให้ดวงออกไปซื้อของเพื่อที่จะได้มีเวลาอยู่กับไอ้พี 2 คนซินะ..?” “คุณพูดอะไรของคุณ ฉันไม่เข้าใจ..?” “นี่สรุปที่มินความจำเสื่อมมินแกล้งจำพี่ไม่ได้แค่คนเดียวใช่ไหม..?” “อะไรของคุณ..?” “จริงๆแล้วมินไม่ได้ความจำเสื่อมหรอก มินแค่อยากลืมพี่มากกว่า เพราะพอไอ้พีเข้ามาหามินมินกลับจำมันได้..” “ฉันจำเขาไม่ได้ ฉันจำใครไม่ได้ทั้งนั้นอะ..” “แล้วทำไมถึงยอมให้มันจับมือมินแบบนั้น หรือว่าความจำลึกๆของมินก็ยังรู้สึกดีกับมันอยู่.?” ฉันจ้องหน้าเขานิ่งๆอย่างสงสัย นี่มันอะไรกันเขากำลังหึงเพื่อนตัวเองอยู่หรอเนี้ย “มินเป็นเมียพี่นะรู้ตัวเองไว้ด้วย..?” “ฉันไม่ใช่เมียคุณ เพราะฉันจำคุณไม่ได้..” เขาเดินเข้ามาใกล้ตัวฉันแล้วนั่งลงจับตัวฉันให้หันมาจ้องหน้าเขาตรงๆ “ก็เพราะว่ามินความจำเสื่อมไง แต่ยังไงมินก็คือเมียพี่..” “ตอนนี้ฉันจำใครไม่ได้สักคน ทุกคนก็คือคนแปลกหน้าสำหรับฉันรวมทั้งตัวคุณด้วย ไม่ว่าคุณจะบอกว่าเราแต่งงานกันแล้วยังไงฉันก็ยังเห็นคุณเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี..” “งั้นพี่จะทำให้มินจำเรื่องทุกอย่างให้ได้เอง..” “...” “เรื่องที่มินเคยทำผิดกับพี่พี่จะให้อภัยทุกอย่างแล้วพี่ก็จะลืมมันไปซะ..?” ฉันจ้องหน้าเขาด้วยความแปลกใจ เรื่องที่เขาพูดมันฟังดูแปลกๆพิกล ที่เขาบอกว่ายัยมินทำผิดคือเรื่องอะไรกัน   ... บ้านโอมรยะนันท์ “มาแล้วหรอ..?” ฉันลงมาจากรถแล้วเดินเข้ามาในบ้านโดยมีผู้หญิง 2 คนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นพร้อมกับคุณพีรพล ที่นั่งอยู่ข้างๆผู้หญิงที่หน้าตาสวยคนหนึ่ง น่าจะเด็กกว่าฉันนะแต่ดูเชิดเชียว น่าจะเป็นคู่หมั้นคุณพีรพลที่ชื่อญานินแน่เลย “นั่งลงซิ..” ฉันหันไปมองที่เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งน่าจะอายุประมาณ 45-50 ได้ แต่เธอยังดูสาวดูสวยอยู่เลย ผู้หญิงคนนี้ก็คงเป็นแม่เลี้ยงของเขาซินะ “มิน..สวัสดีคุณแม่ซิ..” “สวัสดีค่ะ..คุณแม่” ฉันยกมือไหว้แม่เลี้ยงของเขาแล้วหันไปหาลูกสาวเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ “นี่ญานินน้องสาวพี่เอง..” “สวัสดีค่ะ..คุณญานิน” เธอทำเป็นไม่สนใจมองฉันจนคุณพีรพลยื่นมือมาแตะแขนเธอ เธอจึงหันมามองหน้าฉัน “หายดีแล้วหรอ..?” “ก็ดีขึ้นมากแล้วค่ะ..แต่ว่ามินจำอะไรไม่ได้เลยนะคะ..” “รถน่าจะชนแรงกว่านี้นะ จะได้ไม่เป็นแค่ความจำเสื่อมแต่จริงๆน่าจะตายไปเลย จะได้ไม่ต้องทรมาน..” “ญานิน...” คุณอัสดาพูดเสียงปรามเธอจนเธอหน้าบึ้ง แล้วเธอก็หันไปให้แม่เธอช่วย “ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว กลับมาเหนื่อยๆขึ้นไปพักผ่อนเถอะ แล้วช่วงหัวค่ำค่อยลงมาทานข้าวด้วยกัน..” “ครับ..” เขารับคำแม่เลี้ยงของเขาแล้วก็เดินมาจับตัวฉันให้ลุกขึ้น แม่เลี้ยงของเขาก็ดูเป็นคนมีเหตุผลดีนะ ดูไม่มีความเย่อหยิ่งจองหองเหมือนลูกสาวเลยสักนิด เธอน่าจะเป็นคนใจดีคนหนึ่ง ไม่งั้นคุณอัสดาคงไม่เคารพและดูจะเกรงใจเธอมากขนาดนี้ “ฉันไม่นอนเตียงเดียวกับคุณนะ..” “ทำไม..?” “ก็ฉันไม่ชินที่ต้องนอนกับคนแปลกหน้า..” “แต่ว่าพี่..” “ต่อให้คุณบอกว่คุณเป็นสามีฉัน แต่ตอนนี้อย่าลืมซิฉันจำอะไรไม่ได้เลยนะ ในเมื่อฉันจำอะไรไม่ได้ฉันก็ยังไม่อยากนอนกับคุณ มันดูแปลกๆอะที่ต้องนอนกับคนที่ไม่รู้จัก..” “แล้วจะให้พี่ไปนอนที่ไหนละ..?” “บ้านหลังนี้ก็มีตั้งหลายห้องนี่ คุณจะไปนอนห้องไหนก็ได้ตามใจคุณซิ..” “ไม่ได้..พี่จะไม่ยอมไปนอนที่ห้องไหนเด็ดขาด..” “งั้นก็นอนที่โซฟา นั่นไงที่นอนคุณ..” ฉันชี้ให้เขาหันไปมองแต่เขากลับทำตาโต “พี่จะนอนเข้าไปได้ยังไงเล็กขนาดนั้น..?” “เลือกเอานะว่าจะนอนโซฟาในห้องนี้ หรือคุณ หรือฉัน จะออกไปนอนที่ห้องอื่น..?”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม