โรงพยาบาล
“คุณมินฟื้นแล้วค่ะบอส..”
“มิน..”
“อย่ามาจับตัวฉันนะ นี่คุณเป็นใคร..?”
“มิน...นี่มินจำพี่ไม่ได้หรอ..?”
“ฉันจำคุณไม่ได้ แล้วตัวฉันเป็นใคร แล้วที่นี่ที่ไหน..?”
มินตื่นขึ้นมาในโรงพยาบาลและจำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร และก็จำไม่ได้ด้วยว่าผมเป็นใคร นี่มันเกิดอะไรขึ้นไหนหมอบอกว่ามินไม่เป็นอะไรมากไง ทำไมถึงจำผมหรือจำตัวเองไม่ได้เลย
“คุณมินอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองตอนที่โดนรถชน ความจำบางส่วนอาจจะหายไปได้ ยังไงหมอคงจะต้องตรวจให้ละเอียดอีกทีนะคะ..”
“ไหนคุณหมอบอกว่ามินไม่เป็นอะไรมากไงครับ ทำไมอยู่ๆมินถึงจำอะไรไม่ได้เลย..?”
“ภายนอกอาจจะไม่เป็นอะไรมาก เดี๋ยวหมอจะลองพาคุณมินเข้าเครื่องสแกนสมองอีกทีเพื่อเช็คให้ละเอียดนะคะ..”
“ครับ..”
และหลังจากนั้นคุณหมอก็พามินไปเข้าเครื่องสแกนสมองเพื่อตรวจให้ละเอียดอีกครั้ง แต่คุณหมอก็ยังยืนยันว่ามินไม่เป็นอะไร แต่ทำไมมินกลับจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง คุณหมอก็เลยบอกว่าน่าจะเป็นแค่ช่วงระยะหนึ่งคงเพราะเกิดจากแรงกระแทกตอนที่โดนรถชน คงต้องให้เวลามินสักอาทิตย์หนึ่งความจำของมินก็น่าจะค่อยๆกลับมาเอง
“มิน..”
“อย่ามาแตะตัวฉันนะ...ฉันไม่รู้จักคุณ..”
ผมเดินเข้ามาในห้องที่มินอยู่โดยมีคุณจี๊ดนั่งเฝ้าเธอแทนผมก่อนหน้า ผมเดินเข้าไปคุณจี๊ดก็ขอตัวออกไปรอนอกห้อง เดินเข้าไปใกล้ตัวมินแล้วจับมือเธอแต่มินทำท่ารังเกียจผมแล้วก็สะบัดมือผมทิ้ง
“พี่เป็นสามีของมินชื่ออัสดา เราแต่งงานกันมาปีหนึ่งแล้วนะ มินไม่ต้องกลัวพี่นะเพราะพี่จะไม่ทำอะไรมิน...”
“ฉันชื่อมินหรอ..?”
“ใช่..”
“แล้วคุณเป็นสามีของฉันจริงๆหรอ..?”
“ใช่..เราแต่งงานกันแล้ว”
มินจ้องหน้าผมด้วยใบหน้าสังสัย
“ที่มินจำอะไรไม่ได้คงจะเพราะเกิดจากแรงกระแทกตอนที่โดนรถชน คุณหมอบอกพี่ว่ามินไม่เป็นอะไรมาก ความจำของมินที่หายไปจะค่อยๆกลับมาเองภายใน 1 อาทิตย์..”
“ความจำของฉันหรอ..?”
“ใช่..”
ผมจับมือมินขึ้นมากุมไว้แล้วยื่นมืออีกข้างไปจับศีรษะของมินแล้วก็ลูบด้วยความเอ็นดู
“พี่ขอโทษนะ..ที่ทำงานจนไม่สนใจมิน จนมินต้องมาเจออุบัติเหตุแบบนี้.”
ผมจ้องตามินแล้วก็มองเข้าไปด้วยแววตาที่มีความหมาย แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าแววตาคู่นี้ของมิน ถึงไม่เหมือนมินคนเดิมที่ผมรู้จักเลยสักนิด หรือจะเป็นเพราะเธอความจำเสื่อมอยู่ และผมก็คงเป็นเหมือนคนแปลกหน้าสำหรับเธออยู่ตอนนี้
“ฉันอยากพักผ่อน..”
มินดึงมือกลับแล้วก็ล้มตัวลงนอน
“พี่จะให้ดวงมาอยู่เฝ้ามินก่อนนะ แล้วช่วงค่ำๆพี่จะมานอนเป็นเพื่อน..”
“ดวง..?”
“แม่บ้านที่บ้านเรานะ..”
“อื้ม..”
มินตอบแค่นั้นก็ล้มตัวลงนอนแล้วพลิกตัวนอนตะแคงหันไปอีกทาง ผมจึงเดินออกไปนอกห้องเพื่อปล่อยให้มินได้พักผ่อน
“บอสคะ...คุณมินเป็นยังไงบ้างคะ..?”
“หมอบอกว่าความจำมินหายไปแค่ช่วงเวลาหนึ่งอีกสักอาทิตย์น่าจะดีขึ้น..”
“น่าสงสารคุณมินจังเลยนะคะที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้..”
“ผมไม่น่าพามินมาที่บริษัทเลย..”
“บอสอย่าคิดมากซิคะ คุณมินไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้วค่ะ หมอบอกแล้วนี่คะว่าแค่อาทิตย์เดียวคุณมินก็กลับมาจำทุกอย่างได้ปกติแล้ว..”
“ผมกลัวว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้นนะซิครับ..”
ผมรู้สึกกังวลจริงๆว่ามินจะไม่หายเป็นปกติตามที่หมอบอก นี่ผมเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วซิ
....
บ้านโอมรยะนันท์
5 วันต่อมา
“ทำไมบ้างเงียบแบบนี้..หายไปไหนกันหมด..?”
“นั่นซิคะแม่ นี่พวกมันก็รู้นะคะว่าวันนี้เรา 2 คนจะมาถึง แต่ทำไมพวกมันถึงไม่อยู่ต้อนรับพวกเรา...ดวง...ป้าชื่น..”
“หายหัวไปไหนกันหมดนะ..”
“ดวง..อีนังดวง..”
“คุณท่านคะ..”
“ป้าชื่นมานู้นแล้วค่ะแม่..”
ป้าชื่นเดินมาหน้าตาตื่น ทั้ง 2 คนหันไปมองด้วยสายตาเริ่มโมโหและไม่พอใจ
“ฉันเรียกตั้งนานทำไมเพิ่งโผล่มา แล้วนังดวงไปไหนทำไมไม่มาช่วยฉันถือของ..?”
“ดวงไปเฝ้าคุณมินที่โรงพยาบาลค่ะ..”
“เฝ้ามินตาที่โรงพยาบาลหรอ..แล้วมันเป็นอะไรทำไมต้องไปเฝ้ามันที่โรงพยาบาลด้วย..?”
“คุณมินโดนรถชนนะคะ..”
“แล้วมันตายไหมล่ะ..?”
ป้าชื่นหันมามองหน้าญานินเพราะรู้สึกไม่ค่อยพอใจที่ญานินพูดออกมาแบบนี้ ไม่คิดว่าเธอจะพูดแบบนี้ แม่ของเธอก็หันมามองเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ญาก็แค่คิดว่าถ้ามันตายจริงๆก็ดีเหมือนกัน มันจะได้ไม่ต้องกลับมาที่นี่ให้ญาเกลียดขี้หน้ามันอีก..”
“ยัยญา..”
ญานินมองแม่ด้วยสายตาเซ็งๆที่ถูกแม่ปรามด้วยสายตาดุๆ ที่ไม่ชอบใจในคำพูดเธอ
แม่เธอจึงหันไปหาป้าชื่นเพื่อถามเรื่องมินตาอีกครั้ง
“แล้วอาการเป็นยังไงบ้าง..?”
“เย็นนี้คุณอัสจะพาคุณมินกลับมาแล้วค่ะ..”
“งั้นคงไม่เป็นอะไรมาก ก็ดีแล้ว..”
คุณท่านบอกให้คนงานในบ้านช่วยกันยกกระเป๋าขึ้นไปให้ทั้งของเธอและของญานิน แต่เรียกให้ให้ป้าชื่นไปคุยด้วยกัน 2 คนในห้องนอนหลังจากที่ทุกคนออกไปกันหมดแล้ว
“ยัยมินกลับมาอยู่ที่บ้านได้กี่วันแล้ว..?”
“1 อาทิตย์แล้วค่ะ..”
“แล้วเป็นยังไงบ้าง..?”
“ปกตินะคะ..เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..”
“...”
“คุณสบายใจได้นะคะ เพราะว่าคุณมินโดนรถชนแล้วได้รับความกระทบกระเทือนที่สมอง จนจำอะไรไม่ได้เลยนะคะ..”
“อะไรนะ..นี่มินตาจำเรื่องราวที่ผ่านมาไม่ได้เลยหรอ..?”
“ไม่ใช่แค่เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดนะคะที่จำไม่ได้ แม้กระทั่งชื่อตัวเองก็ยังจำไม่ได้เลยค่ะ..”
“...”
เธอใช้ความคิดนิ่งๆแล้วสักพักก็ยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ
...
โรงพยาบาล
“ดวง..ออกไปซื้อของให้ฉันหน่อยซิ นี่รายการที่ฉันต้องการ..ไม่ต้องรีบนะ..”
“ค่ะคุณมิน”
ฉันยื่นกระดาษโน้ตให้ดวงที่มาอยู่เฝ้าฉันที่โรงพยาบาล หลอกให้ดวงออกไปข้างนอกก่อนและจดของที่สั่งไปเยอะแยะมากมาย แล้วกำชับว่าห้ามซื้อผิดเด็ดขาด คิดว่าคงจะนานพอมีเวลาให้ฉันได้คุยกับยัยจี๊ดได้ยาวๆเลยล่ะ นี่ยัยจี๊ดก็ใกล้จะมาถึงแล้วต้องรีบไล่ให้ดวงออกไปเร็วๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา..”
“สวัสดีครับ..คุณมิน”
“คุณ..”
ฉันตกใจมากเพราะคนที่เปิดประตูเข้ามาไม่ใช่ยัยจี๊ดที่ฉันนัดไว้ แต่เป็นคุณพีรพลคู่หมั้นของน้องสาวคุณอัสดา
“มินจำพี่ได้ไหม..?”
“จำไม่ได้ค่ะ..”
“ตอนนี้มินคงยังจำผมไม่ได้ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวอีกหน่อยมินก็จะจำได้เอง..”