ตอนที่ 5

1512 คำ
5 แต่มาถึงวันนี้...ไหนเล่าคนที่เคยสัญญา เมษาหัวเราะอย่างขมขื่น ตอนนี้พี่บีของเธอกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม มีสาวๆ สวยๆ รุมรักรุมเอาใจ เขาถึงได้ลืมสัญญาที่เคยให้ไว้กับเด็กนิสัยเสียอย่างเธอแล้วซินะ หญิงสาวก้มลงมองแหวนดอกไม้ในมือที่เหี่ยวแห้งเหมือนกับใจเธอตอนนี้...แห้งเหี่ยวอับเฉาราวกับนกไร้รัง เมษารีบเก็บแหวนวงเล็กใส่กลับไปไว้ในกล่อง เก็บมันไว้ที่เดิม ที่ซึ่งมันเคยอยู่ ที่ซึ่งเธอจำได้เพียงคนเดียวกับใจช้ำๆ ดวงเดิมที่ต้องเฝ้ามองคนที่รักอยู่ห่างๆ ด้วยความรักและความหวัง วันหนึ่งเขาจะจำสัญญาที่เคยให้ไว้กับเธอได้และกลับมาเพื่อทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้แต่วันวาน แต่แล้ววันนี้... ความหวังที่เคยมีกลับพังทลายไปเพราะเบนนิโต้ ริชชี่ เหยียบย่ำความรู้สึกที่เธอมอบให้ด้วยการประกาศแนะนำว่าที่คู่หมั้น... มีนา สินอัครกุล พี่สาวที่แสนจะใจร้ายใจดำของเธอนี่เอง น้องเมย์คงจะทำใจได้บ้าง ถ้า.ผู้หญิงคนที่พี่จะหมั้นด้วยไม่ได้ชื่อ...มีนา สินอัครกุล พี่สาวต่างมารดาที่ไม่เคยรักใครเลยนอกจากตัวเอง ผู้หญิงหนึ่งในผู้หญิงสองคนที่น้องเมย์เกลียดที่สุดในชีวิต ไม่...เราจะต้องไม่ยอมแพ้มีนา ใช่เราจะต้องไม่ยอมแพ้มีนา ต้องสู้ซิเมษา ต้องสู้ ต้องดึงพี่บีกลับมาให้ได้ เมษากำมือแน่น ตอกย้ำความต้องการกับใจตัวเองพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด หมากเกมนี้ถึงแม้จะต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพัน แต่คนอย่างเมษา สินอัครกุลจะต้องได้ทั้งตัวและหัวใจของเบนนิโต้ ริชชี่มาครอบครอง! เมษายิ้มอย่างมีความหวัง ตอนนี้ยังเป็นแค่ข่าว ยังมีเวลาให้เธอคิดหาหนทางดึงเบนนิโต้ให้กลับมาเป็นของเธอเช่นเดิมได้ รอยยิ้มหมาดหมายผุดขึ้นบนใบหน้านวลผุดผาด สวยดวงตากลมโตเป็นประกายอย่างมีความหวัง “เราจะต้องทำได้...สู้!” ใช่! ทำไมเธอจะสู้และทำไม่ได้ล่ะ ก็ไม่ได้หัวเดียวกระเทียมลีบสักหน่อยนี่นา ยังมีเพื่อนรักอย่างอย่างกานพลูอีกคนที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจมาตลอด “ยิ้มดีใจไปก่อนเถอะมีนา เมื่อถึงวันที่ฉันทวงคืนพี่บีกลับมา เธอจะต้องดีดดิ้นเพราะเจ็บปวดกันบ้างล่ะ” แต่ตอนนี้เธอต้องไปตั้งหลักที่บ้านกานพลูก่อน ขืนอยู่นี่ถึงตอนทานอาหารร่วมกันตอนเย็น เธอจะต้องโดนพ่อดุต่อหน้ามีนาที่จะต้องยิ้มเยาะเย้ยและพูดจากระทบกระเทียบเปรียบเปรยให้เจ็บปวดใจอีกแน่นอน เรื่องอะไรจะอยู่ฟังคำที่ไม่สบายหูสบายใจกันละ ไปหาอะไรที่สบายหูสบายตาแล้วก็สบายใจแล้วก็สบายท้องที่บ้านกานพลูดีกว่า เมษายิ้มเริงร่า หยิบกระเป๋าเป๋คู่ใจใบเก่าที่เธอแอบซื้อมาจากเงินก้อนแรกจากการแอบหนีบิดาและย่าไปทำงานหลังเลิกเรียนนำมาแอบซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า แม้กระทั่งในเวลาเรียน เธอก็ยังแอบไปทำงานพิเศษและก็เหมือนเดิม ถูกพ่อด่าเป็นกระบุงโกยเพราะไม่เข้าเรียน “น้องเมย์ทำอะไรก็ไม่เคยถูกใจพ่อสักอย่าง แต่มีนาทำอะไร แม้จะผิดพ่อก็ยังเอ่ยชมไม่ขาดปาก...” อย่าออกอาการหึงหวงและพูดจาจิกกัดอย่างนี้อีกนะมีนา ตาบีไม่แค่รูปหล่อแต่ยังเก่งด้วย มีหรือที่ผู้หญิงจะไม่หมายปองและหาทางแย่งชิง จะให้ผู้ชายแบบนี้อยู่ในอุ้งมือ หนูควรจะต้องหัดเป็นคนใจเย็นเหมือนกับน้ำที่ทำให้คนอยู่ใกล้เย็นชื่นใจ หนูเป็นคนสวยและเก่งนะลูก เข้าใจที่พ่อบอกไปใช่ไหม “ค่ะ...หนูเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่พ่อให้คำแนะนำกับหนู” เมษาทำปากขมุบขมิบเลียนแบบคำพูดของมีนาขณะมือก็เร่งหยิบเอาเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้ออกจากไม้แขวน โยนไปกองไว้บนเตียงนอนลวกๆ หญิงสาวรีบพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอย่างรีบเร่ง เพราะไม่ต้องการใครเห็นว่าเธอแอบหนีออกจากบ้านไปเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ จำไม่ได้และไม่อยากจำอีกแล้ว ก็คนในบ้านนี้ล้วนแล้วแต่เป็นหูเป็นตาเป็นหมาตามหลังนาย ไม่ว่าเธอจะทำอะไร ทุกเรื่องและทุกอย่างจะต้องรู้สึกหูมีนาและพ่อเสมอ เมษาสูดลมหายใจเข้าปอดอีกรอบ ก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้คู่ใจขึ้นหลัง แอบเดินออกจากห้องสายตาเหลียวซ้ายแลขวา จนเมื่อไม่เห็นใครจึงรีบหยิบรองเท้าผ้าใบคู่ชีพมาใส่ ก่อนที่ร่างบอบบางจะวิ่งถลาออกไปราวกับนกที่ถูกปล่อยออกจากกรง หญิงสาววิ่งออกจากบ้านอย่างเร็วเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะมีหมาตัวไหนก็ไม่รู้นำความไปบอกมีนา บิดาและคุณย่า ที่บิดาจะด่าและก็ด่าเหมือนเดิม ส่วนย่าจะบ่นด้วยความเป็นห่วงเหมือนทุกครั้งที่เกิดเรื่อง     เสียงกริ่งประตูหน้าบ้านดังขึ้น ขณะที่กานพลูกำลังง่วนทำอาหารเย็นอยู่ในครัว ไข่เจียวสีเหลือฟูนุ่มน่ารับประทานกำลังได้ที่อยู่บนเตาแก๊ส เสียงกริ่งประตูบ้านดังถี่รัวหลายครั้งจนเธออดที่จะตะโกนตอบกลับไปไม่ได้ “รอเดี๋ยวค่า กำลังจะไปเปิดให้เดี๋ยวนี้ รอหน่อยนะคะ” หญิงสาวปิดเตาแก๊สและเช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนที่วางอยู่ใกล้ๆ เดินออกจากห้องครัวด้วยการหัวเสียนิดหน่อย “ใครนะมาตอนนี้ แหม...ช่างมาได้จังหวะพอดีจริงๆ นี่เราคงต้องหุงข้าวเพิ่มอีกละทีนี้ เปลืองข้าวเปลืองกับจริงๆ เลย ให้ตายซิ” กานพลูบ่นพึมพำ แต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความรื่นเริง เพราะรู้ว่าคนที่มาบ้านเธอจริงๆ นั้นมีเพียงไม่กี่คนและหนึ่งในนั้นเป็นคนสำคัญเป็นเพื่อนรักของเธอนามเมษานั่นเอง “บ่นอะไรจ๊ะแม่แก่” เมษาตะโกนถามตั้งแต่เริ่มเห็นร่างบางของเพื่อนเดินออกจากห้องครัวด้านข้างของบ้าน บริเวณบ้านกานพลูร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้ที่ต้นรักษ์ผู้เป็นพี่ชายสรรหามาปลูก กุหลาบหลายชนิดต่างชูช่อบานเต็มต้น ใกล้กับประตูรั้วก็มีกุหลาบบางต้นส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจให้เมษาก้มสูดกลิ่นหอมของมัน “อ้าว เฮ้ย!! หนูเมย์มาได้ยังไงกันละนี่ หน้าตานี่ไปทำอะไรมามันถึงได้มอมแมมและแดงเป็นลูกตำลึงสุกแบบนี้เนี่ย...แล้วนั่นกระเป๋าอะไรกันยะแม่คุณหนูเมย์เจ้าขา...” กานพลูเปิดประตูเล็กหน้าบ้านให้เมษาเข้ามาภายใน เธอทักทายเพื่อนสาวคนสนิทด้วยคำพูดเจ็บๆ คันๆ ที่รับรู้กันดีว่ามันคือความรักความผูกพันระหว่างเพื่อน “มีเรื่องอะไรมาอีกละซิ ถึงได้ขนเสื้อผ้าใส่กระเป๋าหนีออกจากบ้านมาแบบนี้ ใช่ไหมล่ะ” กานพลูอดถามไม่ได้ ถึงอย่างไรมันก็คือเริ่มเดิมๆ ของเมษากับคุณมงคลผู้เป็นบิดาและมีนาพี่สาวต่างมารดาที่ทำให้เพื่อนของเธอคนนี้ต้องขนเสื้อผ้ามานอนบ้านเธอเป็นประจำ “ฮื่อ” เมษาตอบสั้นๆ สาวเท้าเดินตามกานพลูเข้าบ้าน วางกระเป๋าเป้บนโซฟาตัวเก่าสีดำในห้องรับแขกและเดินตามเพื่อนรักเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว “รู้อยู่แล้วนี่ ไม่น่าจะถามเลย” สองเท้าก้าวยาวๆ ไปเปิดประตูตู้เย็นหยิบน้ำเย็นจากขวดน้ำขึ้นซดอึกๆ จนกานพลูตาโต “ตายแล้วเพื่อนฉัน แกจะรับดื่มน้ำให้เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ดื่มบ้างได้ไหมจ๊ะ เอะอะก็ยกขึ้นซด ทำอย่างกับบ้านฉันไม่มีแก้วให้ใช้” กานพลูตีมือเมษาเบาๆ ก่อนจะหยิบแก้วที่คว่ำอยู่ด้านบนตู้เย็นส่งให้เพื่อน แต่คนเป็นเพื่อนกลับไม่รับ ยังคงยกขวดน้ำซดเหมือนเดิมจนกานพลูได้แต่ส่ายศีรษะอย่างระอาใจกับความดื้อด้านของเพื่อน เธอจึงวางแก้วน้ำกลับลงที่เดิม “เมื่อไหร่แกจะเลิกใช้นิสัยเด็กๆ แบบนี้สักทีละหนูเมย์ พอทะเลาะกับพ่อหรือมีนาทีไร หอบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าหนีออกจากบ้านทุกที เพราะแกใจร้อนหุนหันพลันแล่นอย่างนี้ไง แกถึงเข้าไม่ถึงพี่บีสักที จะทำให้เขาหันมองแกต้องเปลี่ยนนิสัยแล้วนะ เลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักทีซิ” นิ้วชี้กานพลูจิ้มไปที่หน้าผากเมษา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม