ตอนที่ 1
1
หมั้น!!!
เพียงได้อ่านบทความบนหน้าหนังสือพิมพ์ ในทรวงของเมษาก็เหมือนถูกเพลิงไฟเผาไหม้ โทสะทำให้เธอรีบเดินตรงปรี่ไปหามีนาพร้อมกับโยนหนังสือพิมพ์ใส่หน้าพี่สาวต่างมารดาด้วยความเจ็บปวดใจราวกับมีใครเอามีดมากรีดหัวใจจนเลือดไหลโทรม
“ทำอย่างนี้ได้ยังไงมีนา เธอก็รู้ว่าฉัน...”
หากคนถูกถามถอนหายใจขณะเหลือบตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะวางนิตยสารในมือลงบนโต๊ะ
“เป็นบ้าอะไรอีกล่ะเมษา มาถึงก็อาละวาดเหมือนกับหมาบ้าอย่างนี้” มีนาถามอย่างอิดหนาระอาใจ ก่อนจะลุกจากเก้าอี้เหล็กดัดด้วยมาดนางพญาก้มเก็บหนังสือพิมพ์ที่กระจัดกระจายรวบรวมขึ้นมาอ่าน เพียงแค่เห็นภาพบนหน้าหนังสือพิมพ์ แววตาของหญิงสาวก็สาแก่ใจขึ้นมาแวบหนึ่ง
“อ๋อ...ฉันรู้แล้ว เธอเป็นบ้าเพราะข่าวนี้นี่เอง”
มีนามองข่าวหนังสือพิมพ์ที่เบนนิโต้ดึงเธอเข้ากอดแล้วให้นักข่าวถ่ายรูปยกให้เมษาดูอีกรอบอย่างสะใจ เมื่อเห็นใบหน้านวลผุดผาดซีดเผือด น้ำตาคลอเบ้าของน้องสาวต่างมารดา ก่อนจะอ่านพาดหัวข่าวเสียงดังเพื่อตอกมีดย้ำไปบนหัวใจเมษาอีกครั้ง
“ประกาศกลางงานเลี้ยง แนะนำว่าที่คู่หมั้นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเบนนิโต้ ริชชี่” มีนาล่ะดวงตาจากหนังสือเงยหน้าขึ้งมองเมษาด้วยรอยยิ้มเชือดเฉือน ก่อนจะเปิดหนังสือพิมพ์เพื่ออ่านข่าวหน้าต่อไป
ประกาศกลางงานเลี้ยงนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง เมื่อนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรง อายุเพียงแค่ 27 นามเบนนิโต้ ริชชี่ ลูกชายคุณเปรโด ริชชี่ มหาเศรษฐีติดอันดับหนึ่งในสิบของอิตาลี ประกาศด้วยรอยยิ้ม ขอจับจองลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ของเมืองไทยนามว่ามีนา สินอัครกุลมาเป็นแม่ของลูก
เบนนิโต้จบการศึกษาปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากฮาร์วาร์ด หนุ่มรูปหล่อและคนเก่งหาตัวจับยาก ไม่ว่าจะหยิบจับธุรกิจใดก็จะเป็นเงินเป็นทอง เบนนิโต้มีธุรกิจทั้งทางด้านโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของและจำหน่ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งในเมืองไทยและอิตาลี
ในขณะที่มีนาเป็นบุตรสาวของนายมงคล สินอัครกุลนักธุรกิจพันล้าน ครอบครัวทั้งคู่เป็นทั้งเพื่อนรักและพันธ์มิตรทางการค้า ข่าวจากคนวงในได้บอกว่าตอนที่มีนายังเป็นสาวน้อยวัยรุ่นเธอได้ไปเรียนต่างประเทศและพักอยู่กับครอบครัวของเบนนิโต้และนั่นจึงเป็นโอกาสให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันจนกลายเป็นความรัก
“แล้วทำไม มันมีอะไรแปลกหรือไง” มีนาเลิกคิ้วมองน้องสาวต่างมารดาอย่างสมเพชเวทนาและสาสมใจ
ก่อนนั้นเธอได้แต่แอบมองเมษาที่ได้รับความรักจากสองพี่น้องเบนนิโต้และอันโตนิโอ้แสดงออกถึงความรักและความห่วงใยกันด้วยความอิจฉา เพราะไม่มีใครหันมามองเด็กน้อยอีกคนที่ยืนหน้าละห้อยอยู่ด้านหลังเลย หากเมื่อวันที่เธอได้ไปเรียนต่ออิตาลี เธอได้ไปพักอาศัยอยู่กับครอบครัวของเบนนิโต้ คุณลุงเปรโดและคุณป้าธิญาดาบิดามารดาของเบนนิโต้เองก็เป็นคนน่ารักดูแลเอาใจใส่เธอเหมือนลูกคนหนึ่ง จะมีก็เพียงแค่อันโตนิโอ้เท่านั้นที่ไม่ค่อยจะชอบใจที่เห็นเธอตามติดน้องชายสักเท่าไหร่
“ในเมื่อฉันกับพี่บีรักกัน” มีนาเน้นคำว่ารักหนักๆ ใส่หน้าเมษาน้ำเสียงเจือหัวเราะด้วยความสะใจอย่างที่สุด
“เราจะหมั้น...จะแต่งงานกัน มันผิดตรงไหน” มีนาฉีกยิ้มกว้าง สมน้ำหน้าเมษาที่เฝ้าปองใจหมายรักเบนนิโต้มาตั้งแต่เด็ก วาดฝันและเฝ้ารอคอยชายหนุ่มมาเป็นคู่รัก แต่กลับกลายเป็นเธอที่ได้รับรักจากเขา
อยากให้ถึงวันที่เบนนิโต้ส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอเธอจริงๆ อยากเห็นหน้าเมษาในตอนนั้น...อยากเห็นยายตัวมารเจ็บปวดใจจนอกแตกตายไปต่อหน้า
มีนาหัวเราะเสียงดัง มันช่างเป็นการล้างแค้นที่แสนหวานจริงๆ
“เป็นไงล่ะหนูเมย์ เธอดีใจกับฉันจนเนื้อเต้นเลยใช่ไหม” มีนาถามเมษาด้วยน้ำเสียงรื่นรมย์
“เธอก็รู้ว่ามันไม่จริง พี่บีรักฉัน” เธอเชื่อ…เชื่ออย่างนั้นจริงๆ เบนนิโต้ยังคงรักเธอไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความห่างไกลบวกกันมีนาอยู่ใกล้ตัว เลยทำให้ชายหนุ่มไขว้เขวไป
“หือ...นี่เธอยังจะเชื่ออย่างนั้นอยู่อีกหรือเมษา เชื่อจริงๆ หรือว่าพี่บีรักเธอ ถ้าใช่...ทำไมเขาถึงขอหมั้นฉันล่ะ”
คำถามของมีนาเชือดเฉือนหัวใจเมษาให้เลือดอาบ ฟันขาวขบกัดบนกลีบปากอย่างแรง ขอบตาร้อนผ่าว มองพี่สาวต่างมารดาอย่างตัดพ้อ
เพราะอะไรกัน...ทำไมมีนาถึงได้จงเกลียดจงชัง จ้องแต่จะทำร้ายเธอมากนัก โกรธเกลียดเรื่องอะไรกันนักหนา
“เธอนี่นะ...ซื่อบื้อหรือโง่เง่ากันแน่ เธอน่าจะรู้ดีนะ ไม่ว่าจะรักหรือไม่รัก ฉันก็ไม่มีวันปล่อยพี่บีให้หลุดมือไป” เพราะเธออยากจะเห็นเมษาอกแตกตายไวๆ
มีนามองใบหน้านวลผุดผาดซีดเผือด น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าตาที่แดงก่ำ ก่อนจะเหยียดยิ้มอย่างสะใจ
อย่างแกหรือจะมาสู้ฉันได้เมษา นับจากนี้ไปแกจะต้องเจ็บกว่าที่ฉันเคยเจ็บ ในเมื่อแกแย่งผู้ชายที่ฉันรักไป...ฉันก็จะเอาคนที่แกรักมาครอบครอง จะทำให้ต้นรักษ์ที่หลงละเมอเพ้อหาแต่แก ไม่เคยเห็นฉันคนนี้อยู่ในสายตา จะต้องเจ็บปวดเพราะแกไม่สมหวังในความรัก
มีนาหัวเราะขื่นๆ คนที่เธอรัก...ไม่เคยมีสายตาแล แม้กระทั่งเบนนิโต้เองก็ไม่ใช่คนของเธอ หัวใจเขามอบให้เมษาคนเดียว แต่ไม่ว่าจะยังไงตอนนี้คนที่อยู่เคียงข้างพี่เบนนิโต้คือเธอไม่ใช่ยายตัวมารเมษา
“ไม่จริง! พี่บีรักฉัน แต่เพราะเธอใช้มารยาสาไถย ยั่วยวนหลอกล่อให้พี่บีหลง เขาเลย...” เมษาพูดไม่ออก เพราะตัวเธอไม่รู้ว่าเหตุใดคนที่เคยบอกว่ารักและจะรอเวลาเพื่อมาสู่ขอเธอไปเป็นภรรยาถึงได้เปลี่ยนไป
“เขาเลยอะไรละเมษา จะต้องให้ฉันย้ำไหม” มีนาลอยหน้าลอยตาถาม ถึงคราวนี้แกจะต้องรู้บ้างแล้วเมษา การโดนแย่งของรักน่ะ มันเจ็บปวดแค่ไหน
“พี่บีรักฉัน...เขารักฉัน ได้ยินไหม พี่บีรักฉันคนเดียว”
“ไม่จริง!”
เมษาผวาเข้าหามีนาอย่างลืมตัว ทั้งเขย่าและจิกเล็บคม ๆ บนแขนพี่สาวเต็มแรงจนแดงเป็นรอย
“เธอหาเรื่องใส่ร้ายฉันใช่ไหมมีนา บอกว่าฉันเป็นคนไม่ดี พี่บีไม่ควรรัก ทั้งที่คนเลวคือเธอ”
เมษาแผดเสียงถาม ภาพความทรงจำตอนอายุประมาณ 7-8 ขวบวิ่งผ่านเข้ามาในภวังค์ ตอนนั้นพ่อพาเธอและครอบครัวไปเที่ยวชายทะเล ตอนที่เธอกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนานอยู่นั้น มีนาก็เดินเข้ามาใกล้ ใช้ร่างกายที่ใหญ่กว่าแข็งแรงกว่ากดศีรษะเธอจมลงในน้ำ
เพราะกลัวจนตัวสั่นไปหมด ต้องรีบยกมือไหว้อ้อนวอนขอร้องพร้อมน้ำตา ขอให้มีนาหยุดการกระทำดังกล่าว แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นเสียงหัวเราะดังลั่น กับร่างป้อมๆ ที่ถูกลากไปจนถึงส่วนของน้ำที่ลึกจนเธอยืนไม่ถึง จากนั้นยายพี่สาวตัวร้ายก็ปล่อยเธอไว้อย่างนั้นพร้อมกับยืนหัวเราะราวกับคนบ้า มองดูเธอจมน้ำลงไปอย่างช้าๆ อย่างชอบใจ
เมษานึกว่าตัวเองจะตายไปแล้ว แต่ก็ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าและดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตามือเล็กเรียวที่ลูบไล้บนใบหน้าแล้วก็ถามหวานนุ่ม
“หนูเป็นอย่างไรบ้างจ้ะลูก” คำถามนั้นซึมเข้าไปในสมองของเด็กน้อยอย่างช้าๆ ร่างเล็กป้อมลุกขึ้นนั่ง หันมองหน้าคนโน้นทีคนนี้ที ก่อนจะถูกผู้หญิงคนนั้นก็โอบประคองร่างที่สั่นด้วยความกลัวและหนาวเย็น ถ่ายทอดความอบอุ่นมาให้
จำได้ว่าวันนั้นเธอยิ้มหวานจนเห็นฟันซี่เล็กๆ ที่หักจนหลอ แขนเล็กโอบรอบลำตัวของผู้หญิงคนนั้นที่เธอมารู้ทีหลังว่าชื่อธิญาดา เป็นมารดาของเบนนิโต้ ป้าดาบอกว่าเธอชอบพาลูกๆ มาเที่ยวทะเลในช่วงนี้เพราะไม่ค่อยจะมีคน ตอนที่อันโตนิโอ้และเบนนิโต้กำลังเล่นเตะบอกกับลุงเปรโดอยู่ ก็แว่วเหมือนว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ พอหันไปก็เห็นว่าเธอกำลังจมน้ำอยู่ เลยรีบช่วยเหลือ