11
เมษาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด เพราะมีนามาทานอาหารที่นี่กับเบนนิโต้บ่อยๆ และชอบไปเล่าให้คนที่บ้านฟัง ไม่ใช่ซิ ต้องบอกว่าเอาเรื่องนี้ไปเยาะเย้ยให้เธอได้เจ็บใจเสียมากกว่า
ทุกครั้งที่มาทานอาหารด้วยกัน มีนาบอกว่าเบนนิโต้จะเปิดห้องอาหารวีไอพีที่ใช้สำหรับผู้บริหารและแขกคนสำคัญเพื่อเธอโดยเฉพาะ โชคดีที่ว่าห้องอาหารดังกล่าวจะมีเพียงห้าห้อง
สี่ห้องที่เหลือจะอยู่ด้านบนชั้นสาม ชั้นเก้า ชั้นสิบห้าและชั้นลอยเพื่อให้ลูกค้าได้กินลมชมวิวจากธรรมชาติริมแม่น้ำบางส่วนจะกั้นด้วยกระจกใสบางส่วนก็ปล่อยโล่ง จะมีก็แค่เพียงชั้นหนึ่งที่ปกปิดมิดชิด คนนอกไม่สามารถมองเห็นได้
เมษารีบเปิดประตูวีไอพีห้องอาหารดาวดารา เพียงแค่เปิดเข้าไปเท่านั้น ปากและมือก็สั่นระริกกับภาพตรงหน้าที่เห็น โซฟาตัวใหญ่กลายเป็นที่รองรับอารมณ์ใคร่ระหว่างเบนนิโต้กับศรีอัปสรไปเสียแล้ว ใบหน้าชายหนุ่มคลุกเคล้ากับอกอวบขาวผ่องของม่ายสาวเสน่ห์แรงที่เพิ่งจะสูญเสียสามีไปในกองเพลิงเมื่อไม่ถึงเดือนมานี้เอง
หญิงสาวกำมือแน่นสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ สะกดกลั้นใจตัวเองที่กำลังจะระเบิดและเลือดที่ไหลโทรมไม่ให้กรีดร้องกับภาพที่มันช่างกรีดลึกลงบนหัวใจ เธอพาขาที่สั่นระริกเดินไปเรื่อยๆ ขณะปรับสีหน้าให้อ่อนหวานสดชื่น ปากยิ้มกว้างทั้งที่หัวใจกำลังหลั่งน้ำตา
“พี่บีขา ทำไมพี่บีทำอย่างนี้กับน้องเมย์ล่ะค่ะ” เมษาก้าวมานั่งแทรกกลางระหว่างเบนนิโต้กับศรีอัปสรวาดแขนโอบรอบคอเบนนิโต้ ซบหน้ากับอกกว้าง แววตาสั่นระริก ปากเม้มเข้าหากัน น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างกลั้นไม่อยู่
แทนที่เบนนิโต้จะสงสาร เขากลับสมเพชเวทนาขณะปลดมือเมษาออกจากคอและพูดจาบาดหัวใจคนฟังให้แทบจมกองเลือด
“ปล่อยฉันนะเมษา คาร์เมนอยู่ไหน ถึงได้ปล่อยให้หมาบ้าอย่างเธอวิ่งพล่านไล่จับผู้ชายถึงในห้องนี้”
คำพูดที่ออกจากปากเบนนิโต้สร้างความช้ำชอกใจให้เมษาเป็นอย่างมาก แค่ไม่รักเธอไม่ว่า แต่ทำไมคำพูดแต่ละคำที่ออกจากปากเขาถึงเป็นเหมือนกับคมมีดที่กรีดใจดวงน้อยให้เจ็บช้ำจนน้ำตาไหลริน
ศรีอัปสรเบ้ปากมองหญิงที่เขามาขัดจังหวะความสุขระหว่างเธอกับเบนนิโต้อย่างรำคาญระคนสมเพชเวทนากับความหน้าด้านของเมษาที่รู้ทั้งรู้ว่าเบนนิโต้ไม่รัก...ไม่ชอบ ไม่สนใจและยังคอยแต่ผลักไสไล่ส่งด้วยคำพูดหยาบคายรวมไปถึงการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ แต่หญิงหญิงสาวก็ยังตามตื๊อเขาอยู่ได้
เธอได้แต่ส่ายหัวอย่างระอาใจถ้าเป็นน้องเป็นลูกเธอป่านนี้เธอคงจะตบคว่ำไปแล้ว
แต่อย่างว่าละนะ พวกลูกคุณหนู อยากจะได้อะไรต้องเอาให้ได้ จะว่าไปเธอเองก็เคยได้ยินกิตติศัพท์จากปากสาวๆ ที่เบนนิโต้เคยควงอยู่เล่าเรื่องของเมษาให้ฟังบ้างแล้วเหมือนกัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะมาโดนกับตัวแบบนี้
“พี่บีก็รู้นี่คะ คนอย่างน้องเมย์ ถ้าจะทำอะไรก็ต้องทำให้ได้ อีกอย่างคาร์เมนก็ไม่กล้าทำอะไรน้องเมย์หรอก” เมษาบอกเบนนิโต้เสียงสั่นระริก
“พี่บีขา ทำไมพี่บีถึงใจร้ายกับน้องเมย์นักละคะ ไหนบอกว่าจะพาไปเที่ยวญี่ปุ่น ทำไมพี่บีไม่รักษาสัญญา กลับมาคั่วอยู่กับแม่ม่ายผัวตายคนนี้ล่ะค่ะ” เมษาดัดเสียงอ่อนหวานขณะชี้มือไปหาศรีอัปสร
“เธอเอาอะไรมาพูดนะเมษา ฉันนี่นะ พาเธอไปเที่ยวญี่ปุ่น แค่เมืองไทย เธอก็ให้ฉันพาไปให้ได้เสียก่อนเถอะ” เบนนิโต้ผลักร่างเมษาออกจากตัว เขาลุกขึ้นยืนยื่นมือให้ศรีอัปสรจับ “อัปสรจ๋า เราอย่าอยู่แถวนี้เลยจ้ะ ผมรู้สึกว่าแถวนี้เริ่มจะมีกลิ่นเหม็นเน่าตุๆ ลอยมาจนผมหายใจไม่ออก”
เมษากลั้นอารมณ์โกรธกรุ่นที่กำลังพุ่งปรี๊ดเพราะปากเบนนิโต้ “อย่างนั้นเหรอคะพี่บี สงสัยที่พี่เอบอกน้องเมย์มา มันก็คงจะจริงเสียล่ะมั้ง” เมษาแอบอ้างถึงอันโตนิโอ้พี่ชายของเบนนิโต้ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ
“พี่เอบอกอะไรเธอมาเมษา” เบนนิโต้ถามเสียงเกรี้ยวกราดมองเมษาที่นั่งเอามือกอดอกยกขาไขว่ห้างและกระดิกเท้าอย่างสบายอารมณ์อย่างคนถือไพ่เหนือกว่า อย่างน้อยเบนนิโต้ก็ยังรักและเกรงใจพี่ชายคนเดียว ถ้าหากจะทำอะไรรุนแรงกับเธอก็ต้องคิดหนัก
“ก็บอกว่า...” เมษาเล่นลิ้น “บอกดีหรือเปล่าน้า...ไม่บอกดีกว่า ถ้าพี่บีอยากรู้ก็ต้องทำตามที่น้องเมย์บอก ข้อแรกคือปล่อยยายแม่ม่ายผัวตายไปก่อน แล้วเราค่อยมาคุยกัน แต่ถ้าไม่...คืนนี้พี่บีก็เตรียมตัวรับโทรศัพท์จากพี่เอได้เลย”
เมษายิ้มกว้างดวงตาเป็นประกายอย่างสนุกสนาน ยิ่งมองเห็นหน้าตากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเบนนิโต้ เธอยิ่งชอบใจจนแทบจะลุกขึ้นเต้นละตินได้ “ว่าไงคะพี่บี....จะเอายังไงดี”
เมษาลอยหน้าลอยตาถามพร้อมกับส่งยิ้มให้กานพลูที่เดินตัดหน้าคาร์เมนเข้ามานั่งใกล้ๆ กับเธอ
เมษายิ้มเยาะเย้ยคาร์เมนที่เดินหน้าตาถมึงทึงดวงตาคมดุเหมือนกับคมมีดมองเธอด้วยความเกรี้ยวกราด ก็รู้หรอกนะว่าคาร์เมนต้องโกรธจนอยากจะเอามือใหญ่ๆ นั่นมาบีบคอสวยๆ ให้หักเป็นท่อน เพราะปล่อยให้เธอเข้ามาขัดขวางความสุขของเจ้านายสุดที่รัก
“อัปสรจ๋า วันนี้อัปสรกลับไปก่อนนะจ๊ะ ผมจะให้คาร์เมนไปส่ง แล้วคืนนี้ผมจะโทรไปหา”
เบนนิโต้พูดเสียงหวานกับศรีอัปสรแล้วหันทำตาดุใส่คาร์เมน อยากจะโกรธเพื่อนอยู่เหมือนกัน แต่รู้ดีว่าถ้าเมษาต้องการอะไรแล้วเธอจะต้องทำให้ได้การขัดขวางก็ทำได้ยาก เพราะหญิงสาวชอบยกอันโตนิโอ้มาอ้าง ที่เขาเคยถามพี่ชายไป ทำไมยอมเป็นเครื่องมือให้เมษาข่มขู่น้องชายอย่างเขา พี่ชายก็เอาแต่หัวเราะและตอบแค่ว่า
“เอาน่าวันหนึ่งแกจะรู้คำตอบเอง แล้วแกจะต้องขอบใจพี่ที่ทำอย่างนี้ด้วย” จนถึงตอนนี้มันก็หลายปีแล้วแต่เขาก็ยังไม่รู้คำตอบที่พี่ชายเคยบอกไว้สักที และเริ่มที่จะหงุดหงิดอารมณ์เสียเพราะโดนเมษาก่อกวน
“นายไปส่งอัปสรที่คอนโดให้เรียบร้อยนะคาร์เมน แล้วรีบกลับมา ก่อนที่ฉันจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ฆ่าหมาแถวนี้ตายไปเสียก่อน”
เบนนิโต้หันหน้าไปทางเมษา ไม่รู้ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงชอบมาขัดขวางและทำลายอารมณ์สุนทรีย์ในตัวเขาได้บ่อยๆ จะบอกว่าเป็นเพราะรัก ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาไม่อยากเชื่อ เพราะเมษาก็มีผู้ชายล้อมหน้าล้อมหลัง ซึ่งเขาก็เคยเจอกับตัวเองแล้วตอนที่ไปหามีนาที่บ้าน
เมษายืนดูผู้ชายพวกนั้นต่อยกันได้หน้าตาเฉยเสียด้วยซ้ำ ความจริงเขาก็อยากจะรู้เหมือนกัน เมษามีดีอะไร ทำไมชายหนุ่มหลายคนถึงได้ติดใจเธอกันนัก แต่ติดเขารักและเกรงใจมีนา ไม่เช่นป่านนี้เมษาอาจจะสมใจ ได้มีอะไรกับเขาสมอยากไปแล้วก็ได้
เบนนิโต้ปรายตามองเมษาอย่างที่นั่งยิ้มหน้าระรื่นอย่างไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดเสียดสีของเขา
“ครับนาย”
“อัปสรจ๋า ฮันนี่กลับไปก่อนนะจ๊ะ แล้วผมจะโทรหา” เบนนิโต้จุมพิตศรีอัปสรอย่างร้อนแรงต่อหน้าเมษา หวังว่าเธอจะลุกขึ้นเต้นห้ามและหลุดปากเรื่องพี่เอออกมาบ้าง แต่หญิงสาวกลับส่งเสียงหวานให้แก่แม่เพื่อนรักที่ช่างนำแต่สิ่งไม่ดีทำให้คนอื่นเขาหงุดหงิดได้เสมอแทน
“กานจ๋า ตัวเองออกไปรอเราข้างนอกนะจ๊ะ อย่าปล่อยให้อีตาน้ำแข็งตกผลึกหน้าเตารีดเข้ามาขัดจังหวะการพลอดรักของเรากับพี่บีได้ล่ะ” เมษายิ้มทำตาวับวาวใส่เบนนิโต้ที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับน้ำเสียงหวานแสบไส้ของเธอ
“ได้จ้าเพื่อนรัก เต็มที่เลยนะ ทางนี้เดี๋ยวเราจัดการเอง”