8 กักขัง

1420 คำ
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มเอ่ยถามข้างหูพร้อมแรงกอดจากด้านหน้า ฉันพยายามขยับตัวออกจากอ้อมกอด แต่มันกลับรัดแน่นกว่าเดิม “.....” ฉันไม่ตอบอะไรออกไป นอนนิ่งปล่อยให้เขากอดรัดไปอย่างนั้น ขัดขืนไปก็ไม่มีประโยชน์ ขนาดตัวของเขาและฉันมันแตกต่างกันลิบลับ ต่อสู้ไปก็คงจะแพ้ ปล่อยไปเลยตามเลยน่าจะดีกว่า “ข้าวไม่กินเลยใช่ไหม ถึงได้เป็นลมแบบนี้” เขาเอ่ยถาม “...” ฉันยังคงเงียบ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ปล่อยฉันไปในเมื่อเลือกอีกคนไปแล้ว แต่เดี๋ยวนะ ห้องนี้ ไม่ใช่ห้องของฉัน “ที่นี่ที่ไหน แล้วกูหลับไปกี่วัน” แล้วก็ต้องปริปากพูดจนได้ ฉันจ้องเขาอย่างเอาเรื่อง “คอนโดใหม่ของกู มึงหลับไปหนึ่งวัน ตอนนี้ก็ประมาณห้าทุ่มได้” “พามาทำไม” ฉันตวาดลั่น จู่ ๆ ก็ถือวิสาสะพาฉันมาทั้งที่ฉันไม่รู้เรื่อง ไม่สมัครใจมา “อยู่ด้วยกัน กูจะไม่ให้มึงหายไปไหน กูระ...” “หยุดพูดสักที เลิกโกหกกูได้แล้ว ไม่รักก็ไม่ต้องพยายามพูดไม่ต้องพยายามอะไรทั้งนั้น แค่ปล่อยกูไปช้าง มึงแค่ปล่อยกูไปถือว่าทำทานกูแล้ว” “มึงไม่อยากอยู่กับกูแล้วเหรอเตี้ย” ประโยคนี้ดังขึ้น ฉันได้แต่คิดในใจ ทำไมจะไม่อยากอยู่ด้วยล่ะ เขาคือคนเดียวที่ฉันรักมาตลอด ฉันเคยฝันถึงงานแต่งของเรา เคยฝันถึงครอบครัวเล็ก ๆ ที่เราร่วมกันสร้าง แต่แล้วมันก็เป็นได้แค่ความฝัน เมื่อความจริงเจ้าสาวของเขาไม่ใช่ฉัน “สงสารกูเถอะ” ฉันเอื้อนเอ่ยพร้อมหลับตาพริ้มปล่อยให้น้ำตามันไหลริน ความเจ็บปวดที่ฉันไม่อาจรู้ได้ว่ามันจะเลือนหายไปเมื่อไหร่ ฉันเจ็บเหลือเกิน รักครั้งนี้บทเรียนครั้งนี้ฉันเจ็บอีกยาว “กูไม่ชอบให้มึงร้องไห้” ปลายนิ้วเรียวปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่หยุด “แต่มึงเป็นคนทำให้กูร้อง กูเป็นแบบนี้เพราะมึง มึงหลอกกูทำไมช้าง กูทำผิดอะไร กูทำอะไรให้มึงโกรธมึงถึงทำกับกูแบบนี้” “...กูผิดเอง ตอนนั้นกูแค่อยากลอง ขอโทษนะ ขอโทษ” คำตอบของเขาทำให้ฉันรวบแรงทั้งหมดที่มีแล้วผลักเขาสุดแรง แต่มันก็ได้แค่เพียงนิด ดูเหมือนมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรเลย อยากลองเหรอ ขอโทษงั้นเหรอ ขอโทษแล้วฉันหายเจ็บไหม ขอโทษแล้วฉันได้อะไร “มึงก็ได้ลองแล้วไง จากนี้เราก็จบกัน กูไม่อยากเป็นชู้ใครอีก” ฉันยันตัวลุกขึ้นนั่งเพราะจู่ ๆ เขาก็คลายอ้อมกอดออก “กูทำไม่ได้ กูลองแล้ว หลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่ที่มึงทำตัวห่างเหิน กูรู้สึกแปลก ๆ กูไม่มีความสุข มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก” เขารีบขยับตัวมานอนทับที่ตักของฉัน พูดเรื่องหลอกให้ฉันโง่อีกแล้วสินะ ฉันคว้ามือเขามาทาบที่อกข้างซ้ายของฉัน หัวใจที่มันบอบช้ำเกินจะเยียวยา “แต่ตอนนี้อ้อยไม่มีความสุขเลยช้าง ไม่มีสักนิด อ้อยเจ็บตรงนี้ เจ็บมาก ๆ ช้างเข้าใจอ้อยบ้างไหม ปล่อยอ้อยไปนะ เราเลิกกันเถอะ” “มึงเป็นเมียกู มึงต้องอยู่กับกู กูบอกแล้วไงว่าจะไม่ทิ้งมึง” ช้างพลายว่าพร้อมลุกขึ้นนั่ง เขาจ้องหน้าฉัน จากนั้นมือใหญ่ก็ผลักดันฉันให้เอนลงที่เตียงนอน ฉันขัดขืน แต่มีหรือที่จะสู้แรงเขาได้ มือใหญ่ทั้งสองข้างกดทับที่ข้อมือทั้งสองของฉันไว้ ปากหนาเริ่มซุกไซ้ที่ซอกคอขาวของฉัน ฉันพยายามดิ้นขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล เขาจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของฉัน จากนั้นก็เริ่มจ้วงแทงอย่างไม่ยั้ง ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน ถึงเราจะมีอะไรกันจนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้ฉันไม่ยินยอมสักนิด มันคงเป็นความรู้สึกเหมือนโดนข่มขืน เขาขืนใจฉันจนอิ่มหนำจากนั้นก็คว้าร่างเปลือยเปล่าของฉันไปกอดไว้ในอ้อมอกของเขา ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เหนื่อยกับปัญหาที่เจอ พูดกับคนที่ไม่คิดจะฟังคนอื่น พูดไปก็เหนื่อยเปล่า ๆ เช้าวันต่อมา... ฉันยังคงนอนอยู่บนที่นอน โดยที่ร่างกายนั้นไร้เสื้อผ้าสวมใส่ ส่วนเขาคนนั้นเขากำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่นอกระเบียง ฉันเดาว่าก็คงจะคุยกับว่าที่เจ้าสาวของเขา เมื่อคืนฉันฝืนตาหลับทั้งสภาพนั้นเพราะขี้เกียจที่จะฟังเพื่อนสารเลวพูดคำลวง ถามว่าทำไมไม่หนี ก็ฉันยังไม่มีโอกาสยังไงล่ะ แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าตรงนี้มันที่ไหนของประเทศไทย ฉันเลิกสนใจเขาแล้วเดินเปลือยเข้าห้องน้ำ อยากล้างชำระคราบคาว ๆ ออกจากตัวให้หมด ถึงแม้มันจะไม่หมดก็ตามที “อาบน้ำก็ไม่รอ” เมื่อฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ตรงปรี่มาหอมแก้มทันที ฉันตอบกลับด้วยความนิ่งเฉย เดินมาที่ตู้เสื้อผ้า มันมีเสื้อผ้าของฉันถูกจัดเรียงไว้เป็นอย่างดี มองไปที่โต๊ะทำงานมีโน้ตบุ๊คของฉันวางอยู่ด้วย เขารู้ว่าฉันทำงานผ่านโน้ตบุ๊คแต่เขาไม่เคยถามว่างานอะไร นี่คงจะวางแผนมาอย่างดี ถึงได้มีข้าวของของฉันเต็มห้องไปหมด “ทำกับข้าวกัน เมื่อเช้าสั่งให้คนซื้อของมาให้” เขาโอบกอดฉันจากด้านหลังระหว่างที่ฉันกำลังยืนไว้อาลัยให้กับชีวิตที่เป็นอยู่ในตอนนี้ “เมื่อไหร่เรื่องนี้จะจบ” ฉันเอ่ยปากถาม พอนึกคิดได้ว่าตัวเองเป็นชู้ ก็นึกสมเพชตัวเองขึ้นมาทันที “มึงจำเป็นนะเตี้ย ขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจ” เขาว่าพลางกอดฉันไว้แนบแน่นอีกเช่นเคย คิดว่าที่ฉันอยากได้คือคำขอโทษงั้นเหรอ “ถ้ารักเขาก็แค่ปล่อยกูไป กูไม่อยากอยู่แบบนี้ มันเหมือนมึงกำลังขังกู มึงอย่าทำแบบนี้ช้าง” เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ฉันหมดแรงก็เรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ “เรื่องของเราแต่ก่อนกูอาจจะไม่รู้สึก แต่ตอนนี้กูเริ่มรู้สึกแล้วนะ” เขาพ่นประโยคทุเรศออกมาอีกแล้ว ถามหน่อนมันจะเชื่อได้เหรอ แล้วถ้าเชื่อได้มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อการ์ดแต่งงานถูกตีพิมพ์พร้อมแจกให้แขกไปแล้ว ที่ช้างกำลังทำคือการรั้งให้ฉันเป็นชู้กับเขา “รู้สึกช้าไปนะ ช้าไปจริง ๆ” ปากพูดแต่สมองของฉันนึกย้อนถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น มันเหมือนเป็นกลไกสั่งให้ต่อมน้ำตาทำงานได้ดีทีเดียว “เลิกร้องได้แล้ว กูเห็นมึงร้องกูรู้สึกไม่ดี” เขาจับตัวของฉันให้หันไปเผชิญหน้า มือใหญ่ยื่นปาดน้ำตาให้ฉัน แววตาที่เขามองมาที่ฉันมันคือความเศร้า เขาเศร้าใจจริง ๆ หรือแค่เล่นละครหลอกฉันเหมือนสองปีที่ผ่านมา ฉันไม่เข้าใจในเมื่อเลือกที่จะแต่งงานกับแฟนตัวเอง ทำไมต้องดึงรั้งกักขังฉันไว้ ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันไปตามทางของฉัน เขากำลังคิดอะไรของเขาอยู่ หรือที่ไม่ได้คิดอะไร นอกจากเห็นแก่ตัวเท่านั้น “ต้องให้ป้อนใช่ไหม” ช้อนจ่อที่ปากของฉัน ฝีมือทำกับข้าวที่เขาเป็นคนทำโดยที่ฉันยืนข้าง ๆ อย่างคนเลื่อนลอย เขาลงมือทำอาหารเองและตอนนี้กำลังบังคับให้ฉันทาน “ถ้าไม่กิน...โดนเอาตรงนี้นะ” ฉันจำใจต้องอ้าปากกินเพราะไม่อยากจะใช้ของที่เป็นของคนอื่นอีกแล้ว ถึงแม้จะเคยใช้มาถึงสองปีก็ตามที “ไม่ไปทำงานเหรอ” เอ่ยถามระหว่างที่เขากำลังตักข้าวมาป้อน “อยากอยู่กับมึง ไม่อยากให้มึงคิดมาก” เขาส่งยิ้มบาง ๆ มา “คิดไปแล้ว” ตอนนี้มันไม่ทันแล้ว ฉันคิดไปแล้ว เสียความรู้สึกไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม