bc

แสนรัก แสนร้าย

book_age18+
1.0K
ติดตาม
3.4K
อ่าน
จบสุข
แบดบอย
ดราม่า
ข้ามเพศ
วิทยาลัย
มัธยมปลาย
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
ความลับ
friends with benefits
like
intro-logo
คำนิยม

เธอเดินเข้ามาในชีวิตของเขาในฐานะลูกติดภรรยาคนใหม่ ผู้หญิงที่มีส่วนทำให้แม่เขาจากไปโดยไม่มีวันกลับ เขาจึงตั้งต้นจงเกลียดจงชังเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน

----------------------------------------------

สปอยล์

"ข้าวต้องทำยังไงพี่เสือถึงจะใจดีกับข้าวบ้าง" 

"ไปตายแล้วเกิดใหม่สิเผื่อฉันจะคิดดูอีกที"

คำเตือน 

ในเนื้อหามีการใช้ความรุนแรงและมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะ นิยายเรื่องนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ20ปีขึ้นไป

เนื้อหาในนิยายเป็นเพียงเรื่องสมมุติและเกิดจากจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ

สุดท้ายขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อยู่เป็นเพื่อนกันและให้การสนับสนุนมาโดยตลอด

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
เกลียด
สองข้างทางเต็มไปด้วยตึกสูงหลายชั้นเรียงรายติดๆกัน รถราแน่นท้องถนนทัั้งสี่เลนมันเป็นภาพที่ไม่คุ้นตาฉันเท่าไหร่นัก ฉันมองออกไปด้านนอกในหัวก็กำลังคิดว่าต่อไปชีวิตของฉันจะเป็นยังไง ฉันเคยวาดฝันเอาไว้ว่าชีวิตนี้จะไม่ขออะไรมากขอแค่มีครอบครัวที่อบอุ่นแล้วพอเรียนจบฉันก็จะทำงานหาเงินเลี้ยงดูพ่อกับแม่เอง ถึงแม้ฉันจะเป็นแค่ลูกจ้างหรือพนักงานตำแหน่งเล็กๆ ของบริษัทไหนสักที่ก็ไม่เป็นไร แต่แล้วความฝันที่วาดไว้ก็ต้องจบลงเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วฉันได้รู้ว่าพ่อกับแม่ตัดสินใจจะแยกทางกัน “ข้าว…มัวนั่งเหม่ออะไรอยู่แม่เรียกตั้งหลายครั้งแล้วไม่ได้ยินหรอ” เสียงของแม่ที่เรียกฉันอยู่ข้างๆ ทำให้ฉันหลุดออกมาจากความคิดเมื่อครู่ “ข้าวฟังเพลงอยู่เลยไม่ได้ยินเมื่อกี้แม่พูดว่าอะไรนะคะ” ฉันอ้างไปอย่างนั้นทั้งที่ฉันไม่ได้เปิดเพลงอะไรฟังเลย “ใกล้จะถึงบ้านคุณลุงแล้วนะจำที่แม่บอกได้ใช่ไหม” ฉันหยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะมองออกไปด้านนอกรถอีกครั้ง ทำไมฉันจะจำไม่ได้ล่ะในเมื่อแม่เอาแต่ย้ำคิดย้ำทำเรื่องนี้กับฉันเป็นสิบๆรอบแล้วว่าให้ฉันอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่กี่นาทีต่อมารถที่แม่เหมาให้เพื่อนบ้านขับมาส่งก็มาจอดที่บ้านหลังหนึ่ง ด้านหน้าเป็นประตูรั้วสูงชันแต่ก็ไม่สูงเท่าหลังคาบ้านที่สูงใหญ่กว่า “ลงมาได้แล้วข้าว” ฉันรีบลงจากรถและพอเปิดประตูลงไปฉันก็มองเห็นเจ้าของบ้านออกมายืนรอต้อนรับเราสองแม่ลูกอยู่ก่อนแล้ว “เป็นไงบ้างเดินทางเหนื่อยไหม” “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ข้าวไหว้คุณลุงสิงห์ซะสิ” แม่หันมาตำหนิฉันที่ฉันไม่รู้จักรักษามารยาทกับผูู้ใหญ่ “สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้คุณลุงที่อายุคงจะสักห้าสิบปลายๆ แล้วคุณลุงคนนี้ก็คือสามีใหม่ของแม่ฉันเอง หลังจากที่แม่หย่าขาดกับพ่อไม่ถึงเดือนแม่ก็พาคุณลุงมาแนะนำให้ฉันรู้จักแล้วหลังจากนั้นไม่กี่วันแม่ก็บอกว่าจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ทันทีที่ฉันปิดเทอมแม่ก็รีบขนข้าวของมาอยู่ในฐานะภรรยาส่วนฉันก็มาในฐานะลูกติด “เป็นไงนั่งรถเหนื่อยไหมหนูข้าว” คราวนี้คุณลุงหันถามฉันด้วยท่าทางที่เป็นมิตร จริงๆ คุณลุงก็ดูเป็นคนใจดีนะแต่ถ้าจะให้ฉันสนิทใจด้วยก็คงจะเป็นไปได้ยาก คนแถวบ้านฉันใครๆ ก็พากันพูดว่าที่แม่เลิกกับพ่อเพราะคุณลุงคนนี้เป็นต้นเหตุ “ไม่ค่ะ” ฉันตอบแค่สั้นๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ สำหรับฉันคุณลุงยังคือคนแปลกหน้าและไม่มีทางจะมาแทนพี่พ่อฉันได้ “เข้าบ้านกันเถอะผมให้คนเตรียมข้าวปลาเอาไว้ให้แล้วเผื่อว่าคุณกับหนูข้าวจะหิว” พูดแล้วคุณลุงก็พาฉันกับแม่เข้ามาในบ้านโดยมีคุณป้าคนหนึ่งมาช่วยถือกระเป๋า ส่วนเพื่อนบ้านที่แม่เหมารถมาหลังจากได้ค่าจ้างก็กลับไปทันที บ้านของคุณลุงใหญ่โตกว่าที่มองจากด้านนอกหลายเท่า แม่บอกว่าคุณลุงทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์แต่ฉันก็ไม่คิดว่าคุณลุงจะร่ำรวยขนาดนี้ “แล้วลูกชายคุณล่ะคะ” แม่รู้ว่าคุณลุงมีลูกชายอยู่คนนึงแต่ไม่เห็นอยู่ในบ้านเลยถาม ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเรียนอยู่ ม.6 แล้วส่วนฉันปีนี้พึ่งจะอยู่ ม.4 เนื่องจากแม่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่ฉันก็เลยต้องย้ายโรงเรียนตามมาด้วย “เจ้าลูกคนนี้ของผมไม่ค่อยจะอยู่บ้านอยู่ช่องหรอก ช่างเถอะเดี๋ยวเขากลับมาเมื่อไหร่ผมจะพามาทำความรู้จักคุณกับหนูข้าวเอง เดี๋ยวลุงพาไปดูห้องนอนนะ” คุณลุงพาฉันกับแม่ขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้าน ห้องแรกที่พาไปเป็นห้องของแม่ซึ่งก็คือห้องของคุณลุงส่วนห้องของฉันอยู่ถัดไปอีกห้อง “เป็นไงถูกใจไหมลุงไม่รู้ว่าหนูชอบแบบไหนเลยเลือกสีหวานๆ เอาไว้ก่อน” คุณลุงหันมายิ้มให้ฉันฉันก็พยักหน้ารับ เป็นห้องที่ตกแต่งด้วยโทนชมพูหวานแหววทั้งห้องและเน้นไปทางตัวการ์ตูนคิตตี้แล้วไหนจะข้าวของราคาแพงๆ พวกนี้อีกมันทำให้ฉันดูเป็นคุณหนูยังไงไม่รู้ “จริงๆ คุณให้ข้าวมันนอนห้องเล็กก็ได้นะคะ” แม่ฉันหันไปพูดกับคุณลุงด้วยสีหน้าที่เกรงอกเกรงใจเพราะห้องที่คุณลุงให้ฉันอยู่ทั้งใหญ่ทั้งหรูหราต่างจากบ้านหลังเดิมของฉันราวฟ้ากับเหว “จะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อหนูข้าวเป็นลูกของคุณเพราะงั้นหนูข้าวก็เหมือนลูกของผมอีกคน” คุณลุงมองหน้าแม่ฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ฉันคิดเอาเองนะเพราะฉันเองก็ยังไม่เคยมีความรักมาก่อนแต่ฉันรับรู้ได้ว่าคุณลุงดูรักแม่ฉันมากแล้วแม่ฉันก็คงรักคุณลุงเหมือนกัน ถึงคนอื่นจะพากันพูดว่าที่แม่ฉันเลิกกับพ่อเพราะคุณลุงรวยก็เถอะ “แต่มลว่า…..” “ไม่ต้องพูดอะไรแล้วผมบอกแล้วไงว่าต่อไปนี้ผมจะดูแลคุณกับหนูข้าวเอง” พอได้ยินคุณลุงพูดแบบนี้แม่ฉันก็เลยไม่ได้พูดะไรต่อ หลังจากที่แนะนำข้าวของเครื่องใช้ในห้องให้ฉันเสร็จคุณลุงก็พาแม่ฉันออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวแต่ฉันไม่อยากไปเลยขอรออยู่ที่นี่ ตอนนี้เป็นเวลามืดค่ำแล้วแต่แม่กับคุณลุงก็ยังไม่กลับมาสักที ก่อนหน้านี้แม่โทรมาบอกฉันว่าอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะคุณลุงมีธุระสำคัญที่ต้องไปจัดการ ฉันรอแม่เป็นนานสองนานอยากโทรไปถามว่าแม่จะกลับมาตอนไหนก็โทรไม่ได้เพราะฉันไม่มีมือถือติดต่อที่แม่โทรมาหาฉันเมื่อตอนบ่ายก็โทรเข้าเบอร์บ้านคุณลุง เวลาสามทุ่มกว่าๆ เสียงท้องร้องจ๊อกฟ้องว่าฉันหิวข้าวตอนเช้าฉันกินข้าวไปแค่นิดเดียว ความจริงคุณป้าที่ฉันมารู้ทีหลังว่าเป็นแม่บ้านของที่นี่ขึ้นมาตามฉันลงไปกินข้าวแล้วแต่ฉันอยากรอกินพร้อมแม่ แต่ตอนนี้น่ะสิ หิวจนตาลายหมดแล้ว ในบ้านหลังใหญ่โตเปิดไฟไว้แค่บางจุดฉันค่อยๆเดินลงมาจากบันได ถ้าจำไม่ผิดห้องครัวจะต้องเดินมาทางนี้สินะ ฉันค่อยๆ ย่องเพราะกลัวจะมีคนมาเห็นฉันไม่กล้าไปเรียกคุณป้าแม่บ้านแล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าจะไปตามหาที่ไหน “มีอะไรให้กินบ้างนะ” ฉันพึมพำในท้องรู้สึกปั่นป่วนเวลาที่หิวๆ แบบนี้ฉันขอแค่มาม่าสำเร็จรูปสักซองก็พอแล้วแต่มันอยู่ตรงไหนนะ ไม่รู้ทำไมคนรวยสมัยนี้ถึงชอบใช้พื้นที่เกินความจำเป็นก็แค่ห้องครัวจำเป็นต้องใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ “ว๊ายยย!!คุณเป็นใครคะหรือว่าเป็น ขโมยช่วยด้วยค่ะมีขโมยเข้าบ้าน” ฉันตะโกนขึ้นเมื่อเห็นเงาของใครบางคนทำลับๆล่อๆอยู่ในครัว “เงียบเดี๋ยวนี้เลยนะ” ไอ้ขโมยคนนั้นตวาดใส่ฉันแต่ก็ไม่ได้เสียงดังมาก คงกลัวถูกจับได้นั่นแหละ “ช่วยด้วยค่ะช่ว….ย” ฉันกำลังจะตะโกนให้คนมาช่วยแต่ก็ถูกขโมยคนนั้นก็เอามือมาอุดปาก ฉันดิ้นต่อสู้แต่แรงอันน้อยนิดของฉันก็สู้ไม่ได้ฉันเลยตัดสินใจกัดมือไปทีนึง “โอ๊ยย!!เป็นหมาบ้ารึไงวะ” ขโมยคนนั้นร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดเพราะถูกฉันกัดเข้าที่มือ ฉันใช้จังหวะนี้จะวิ่งออกมาแต่ทว่าขโมยคนนั้นก็ไวกว่าฉัน “จะหนีไปไหน” เสียงขโมยดังอยู่ข้างหูฉันเพราะตอนนี้ฉันกำลังถูกหัวขโมยที่ไหนไม่รู้กอดเอาไว้จากด้านหลังแถมยังกอดฉันไว้ซะแน่น “อื้อออ” เหมือนรู้ว่าฉันจะแหกปากร้องไอ้โจรห้าร้อยเลยเอามือมาอุดปากฉันไว้อีก ฉันพยายามดิ้นอย่างสุดแรงเกิดแต่ก็สู้แรงไม่ไหว แม่จ๋าช่วยข้าวด้วย “เงียบ!!” ขโมยมันตวาดใส่ฉันฉันส่ายหน้าเป็นพัลวัน เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องเชื่อ “บอกให้เงียบไงฉันไม่ใช่ขโมยเธอนั่นแหละยัยหัวขโมย” ขโมยมันตวาดอยู่ข้างหูฉัน มืดๆ ค่ำๆ แอบเข้าบ้านคนอื่นถ้าไม่ใช่ขโมยจะเป็นอะไรแล้วยังจะมีหน้ามาขี้ตู่ฉันอีก “อื้อออ” ฉันส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอพร้อมกับพยายามดิ้น พรึ่บบบ!!! ระหว่างที่ฉันกับหัวขโมยกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นั้นอยู่ๆ ไฟในบ้านก็สว่างพอเจ้าของบ้านปรากฏตัวไอ้หัวขโมยมันก็ปล่อยฉันทันที ฉันก็รีบวิ่งไปหาแม่ “เขาเป็นขโมยค่ะ” ฉันชี้ไปทางผู้ชายตัวสูงที่ยืนทำหน้าทำตาเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรและพอไฟในบ้านสว่างฉันถึงรู้ว่าหัวขมโมยคนนี้หน้าตาดีระดับนึง “หนูข้าวคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะนี่ลูกชายลุงเอง พี่เสือไง” คนถูกแนะนำตัวยิ้มออกมาแต่มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ฉันขนลุก หล่อซะเปล่าแต่ไม่มีความเป็นมิตรเอาซะเลย “แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ในสภาพนี้” คุณลุงหันมาขอคำตอบจากฉันก่อนจะหันไปมองหน้าลูกชายตัวเองที่เห็นเราสองคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่มืดๆ “ผมแค่เข้ามากินน้ำแต่ยัยนี่ไม่รู้เป็นใครอยู่ๆ ก็หาว่าผมเป็นขโมยแถมยังกัดมือผมอีกดุอย่างกับหมาเฝ้าบ้าน” พี่เขากระแทกเสียง เอ่อ....ชื่อเสือสินะ พี่เสือมองมาที่ฉันตาเขม่นสงสัยจะแค้นฝังหุ่นที่โดนฟันฉันขบลงไปจังๆ “ก็พี่เขาอยู่มืดๆแถมยังทำตัวลับๆล่อๆ ข้าวก็เลยคิดว่าพี่เขาเป็นขโมยค่ะ” ฉันก้มหน้าพูดอย่างไร้เดียงสา "ขโมยกับผีสิเธอนั่นแหละที่ทำตัวลับๆ ล่อๆยู่ในบ้านคนอื่น" พี่เสือสวนฉันทันควัน อยากจะเถียงก็เถียงไม่ได้เพราะฉันดันทำลับๆล่อๆอย่างที่พี่เขาพูดจริงๆ “เอาล่ะไม่ต้องเถียงกันแล้วเป็นแค่เรื่องเข้าใจกันผิดก็ดีแล้ว” คุณลุงเป็นคนพูด “น้าต้องขอโทษแทนลูกสาวน้าด้วยนะ ว่าแต่มือเป็นอะไรมากไหม” แม่ฉันถามพี่เสือด้วยความเป็นห่วงแต่แม่กลับถูกพี่เสือตอกกลับด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ “ไม่ต้องมายุ่ง” “อย่าเสียมารยาทกับคุณน้าสิเสือ นี่คุณมลคนที่ฉันพูดให้แกฟังไง” “แล้วยังไงครับ” หน้าของพี่เสือแสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้รู้สึกยินดีที่ฉันกับแม่มาอยู่ร่วมชายคา ฉันได้ยินมาว่าภรรยาเก่าของคุณลุงเสียไปก่อนที่แม่ฉันจะหย่ากับพ่อแค่ไม่กี่วัน “ช่างเถอะค่ะมลไม่ถือสาหรอก” แม่ฉันคงเห็นเหมือนที่ฉันเห็นเลยรีบพูดขึ้นแล้วฉันก็เห็นพี่เสือยืนหัวเราะอยู่ในลำคอ “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะ” พี่เสือหันหลังไปด้วยสีหน้าที่เย็นชาสุดๆ “เดี๋ยวก่อนสิ เสือ เสือ เจ้าลูกคนนี้นิ” คุณลุงเอ่ยตามหลังพี่เสือไปด้วยท่าทางหงุดหงิด  “ผมต้องขอโทษแทนลูกชายผมด้วยนะ แม่เขาเลี้ยงตามใจตั้งแต่เด็กเลยเสียคนไปหมดแล้ว” คุณลุงอธิบายด้วยสีหน้าที่ดูซีเรียส ดูท่าพ่อลูกจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะมลไม่ถือสาหรอกอีกอย่างมลซะอีกที่ต้องขอโทษลูกชายคุณ” สีหน้าของแม่บ่งบอกว่ารู้สึกผิด ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องของผู้ใหญ่มากนักหรอกแม่บอกฉันแค่ว่าที่แม่ต้องหย่ากับพ่อไม่เกี่ยวกับคุณลุงแล้วแม่ก็ไม่ได้ทำให้ครอบครัวใครแตกแยก แต่มันจะเป็นไปได้จริงๆ หรอ การที่คนสองคนแยกทางกันมันต้องมีคนผิดหรือมีสาเหตุสิไม่แน่ว่าที่พี่เสือไม่ชอบขี้หน้าฉันกับแม่อาจเป็นเพราะคิดว่าแม่ฉันจะเข้ามาแทนที่แม่ของพี่เขาก็ได้นะ ------------------------------------------ ฝากติดตาม เป็นกำลังใจให้หนูข้าวของไรต์ด้วยนะคะ อัพจบไม่ทิ้งไว้กลางทะเลแน่นอนค่าาาา

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.3K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.4K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.7K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook