ชีวิตคู่หลังแต่งงาน 2

1028 คำ
คล้อยหลังจากวิธานขับรถออกไปญาดาก็เดินกลับเข้ามาในห้องครัว เพื่อเก็บล้างทำความสะอาดถ้วยชาม แม้ตัวเองจะทานไปได้ไม่กี่คำก็ตาม แต่จะให้ทานต่อก็คงทานไม่ลง อีกอย่างวันนี้หญิงสาวก็มีงานบางอย่างต้องทำเสียด้วยสิ ถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญอีกอย่างในชีวิต ญาดาถูกเลี้ยงมาแบบไข่ในหิน ทุกอย่างต้องอยู่ในสายตาตลอดเวลา แม้จะไม่ถูกปิดกั้นทางความคิด ทว่าอิสระในการใช้ชีวิตย่อมมีน้อยกว่าคนอื่น แม้จะเป็นพี่สาวคนโตจากน้องชายอีกหนึ่งคนที่อายุห่างกันแค่หนึ่งปี แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงมารดาและบิดาจึงห่วงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องขับรถ เพราะญาดาเพิ่งขับรถเป็นเมื่อไม่นานมานี่เอง ด้วยต้องมาอาศัยอยู่กับวิธานที่บ้านของชายหนุ่ม ที่สร้างไว้เป็นเรือนหอกับแฟนเก่า ทำให้ญาดามีปัญหาในการเดินทาง หญิงสาวจึงตัดสินใจไปเรียนขับรถและแอบซื้อรถยนต์เป็นของตัวเอง เธอยังจำวันแรกที่ไปเรียนได้ดี วันนั้นเธอเย็นไปทั้งตัว หัวใจก็เต้นแรง เหยื่อซึมออกมาตามมือไม่หยุด แต่เธอก็ใจสู้เช่นกัน เมื่อก้าวมาถึงขั้นนี้จะถอยได้อย่างไร ส่วนวันที่เธอไปรับรถเธอยังจำได้ เธอชวนวิธานไปด้วยกันแต่เขาก็แค่ขับรถไปส่งที่โชว์รูมรถเท่านั้น และปล่อยให้เธอขับรถกลับมาเอง ดีเท่าไหร่ที่เธอไม่ขับไปชนท้ายใครเข้า การเป็นญาดาไม่ง่ายเลยจริงๆ คนนอกอาจจะมองว่าเธอคือคุณหนูมีคนคอยรับคอยส่ง แต่ใครเลยจะรู้ว่านั่นเปรียบเสมือนจุดอ่อนในตัวเธอ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็กลัวไปหมด แต่เธอไม่นึกโทษป๊ากับม้าหรอกนะ ที่เลี้ยงเธอมาในรูปแบบนี้ เธอเข้าใจว่าท่านทั้งสองรักและเป็นห่วงเธอมาก เพราะฉะนั้นเธอต้องแสดงให้ท่านเห็นว่าเธอสามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ และสามารถทำมันได้ดีเลยทีเดียว ญาดาขับรถยนต์เข้ามาจอดภายในร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ หญิงสาวเดินยิ้มเข้ามาในมือถือไอแพดคู่ใจเดินตรงเข้ามาหาคนที่นัดไว้ และตอนนี้คนที่นัดก็มานั่งรอแล้วด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำยังมองเขม็งมายังเธออีก “ขับรถหรือขี่เต่าเจ๊ ทำไมคลานมาขนาดนั้น” คำพูดกวนประสาทแบบนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากต้นไม้ น้องชายที่แทบจะไม่ใช่น้อง เกือบจะเป็นเพื่อนหรือพี่ชายด้วยซ้ำ “ประชดเก่งจัง” ญาดาก็หาได้สนใจคำพูดหยิกแกมหยอกของน้องชายเสียเมื่อไหร่ ยังคงยิ้มให้น้องชายดังเดิมอย่างคนอารมณ์ดีเป็นทุนเดิม “แล้วที่เรียกมาหามีอะไรให้รับใช้ครับเ**กอหญ้าคนสวย หรือว่ามีปัญหากับเฮียธาม” “ไม่มี รักกันดี” พูดไปแล้วก็รู้สึกกระดากปากอย่างไรไม่รู้ รักอย่างนั้นเหรอ...เธอรักเขาข้างเดียวต่างหาก “แหวะ...เหม็นความรัก ว่าแต่มีไรเนี่ย ผมมีงานต้องไปทำต่อ” “เจ๊อยากเปิดร้านขายขนมไทย มีไปดูทำเลมาแล้วใช้ได้เลย แต่ตอนนี้มันติดเรื่องราคานิดหน่อย เจ๊เลยอยากให้ไม้ช่วยเจรจาให้หน่อยได้ไหม” ครั้นเธอจะไปเจรจาเองก็กลัวจะไม่ได้เรื่อง หัวสมองยิ่งบื้อๆ อยู่ด้วย ตามใครก็ไม่ค่อยจะทัน จากที่จะไปต่อรองคงได้ถูกเขาหว่านล้อมไปทั่วไม่ได้อะไรกลับมา “เจ๊จะซื้อหรือเช่า” “ซื้อสิ” ต้นไม้พยักหน้ารับแกมแปลกใจอยู่บ้าง “แล้วคิดว่ามันจะไม่เจ๊งเหรอ คิดดีแล้วใช่ไหมที่จะทำ ปรึกษาผัวยังเขาโอเคหรือเปล่า และที่สำคัญเลยนะ นึกครึ้มใจอะไรขึ้นมาถึงอยากทำงาน ตั้งแต่ที่แต่งงานก็เห็นเป็นแม่บ้านแม่เรือนไม่ใช่เหรอ” เธออยากมีคุณค่าในตัวเอง เธอไม่อยากแบมือของเงินสามี แม้เธอจะไม่เคยทำอย่างนั้นเลยก็ตาม แค่ทุกเดือนที่วิธานโอนเงินให้เธอไว้ใช้จ่ายในบ้านเธอก็เกรงใจจะแย่ แม้เธอจะไม่ได้แตะต้องเงินส่วนนั้นเลยก็เถอะ ส่วนเงินที่เธอนำมาใช้จ่ายคือเงินจากการปันผลบริษัทของครอบครัว และเธอก็มีรับงานทำขนมของว่างส่งตามโรงแรมและร้านอาหาร ซึ่งแต่ละเดือนก็สร้างรายได้ให้เธอหลายหมื่น จนเธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งกับเงินส่วนที่วิธานให้ “เอาเป็นว่า ไปดูตึกเป็นเพื่อนหน่อย และช่วยติดต่ออินทีเรียให้เจ๊ด้วย” “ก็เฮียธามไง เห็นว่าเก่งเรื่องออกแบบไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ให้เฮียช่วยอะ” “ช่วงนี้พี่ธามยุ่งมาก เจ๊ไม่อยากรบกวน” “ไม่อยากรบกวนหรือว่าเฮียไม่สนใจเจ๊กันแน่ ขอโทษนะที่ต้องพูดตรงๆ" แม้จะไม่รู้อะไรมาก เพราะพี่สาวชอบเก็บเรื่องไม่สบายใจไว้คนเดียว แต่พี่น้องที่อยู่ด้วยกันมาเป็นยี่สิบปีทำไมจะดูไม่ออกว่าพี่สาวมีความสุขหรือความทุกข์ จะว่าทุกข์ตั้งแต่ตัดสินใจแต่งงานแล้วก็ว่าได้ ญาดาหน้าเจือนไปเล็กน้อย แต่เพียงชั่วครู่ก็รีบยิ้มกลบเกลื่อน แต่คงไม่อาจรอดพ้นสายตาของน้องชายช่างสังเกตไปได้แน่ "ไหวไหมเจ๊ ถ้าไม่ไหวกลับมาอยู่บ้านเราไหม อย่าฝืนเลย พี่สาวคนเดียวผมเลี้ยงได้” ญาดาจุกในอก ตื้นตันกับความห่วงใยของน้องชาย เเต่หญิงสาวก็แสร้งยิ้ม “ก็บอกว่ารักกันดีไง” ต้นไม้ไม่อยากเซ้าซี้อะไรให้มากความ ในเมื่อพี่สาวไม่อยากพูด ตนก็จะไม่เร้าหรือรอให้พี่สาวพร้อมเมื่อไหร่คงเล่าให้ฟังเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม