บทนำ
1 ปีก่อนหน้า
งานมงคลสมรสใหญ่แห่งปีระหว่างสองตระกูลดัง ถูกขนานนามว่าเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างเหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยก เจ้าบ่าวงามทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ ส่วนเจ้าสาวก็สวยทั้งรูปกายและรูปสมบัติไม่ต่างกัน แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างกล่าวชมมิขาดปาก เสียงชมดังขึ้นตลอดทั่วทั้งงาน
เจ้าบ่าวยิ้มรับคำชมหลังลงจากเวทีพาเจ้าสาวเดินรับแขกจนทั่วงาน ทว่าจะมีสักกี่คนที่รู้ว่ารอยยิ้มของเจ้าบ่าว ไม่ได้เกิดจากความยินดีปรีดากับงานวันนี้เพียงนิด รอยยิ้มที่แสดงออกไปคือรอยยิ้มเยาะเย้ยขมขื่นต่างหาก ดังนั้นเจ้าบ่าวจึงดื่มด่ำกับเครื่องดื่มที่แขกยื่นให้จวบจนงานเลิก พิธีการต่างๆ จบลงในช่วงเวลาเกือบเที่ยงคืน
หลังจากญาติผู้ใหญ่ส่งตัวบ่าวสาวเสร็จเรียบร้อยจึงทยอยลากลับ เหลือเพียงคู่บ่าวสาวเท่านั้นที่อยู่ในห้องหอ หญิงสาวรูปร่างบอบบาง ผิวขาวเนียนในชุดเจ้าสาวสีชมพูอ่อน ยิ่งทำให้หญิงสาวแลดูบอบบางสวยหวานน่าทะนุถนอม ยืนมองเจ้าบ่าวที่นอนแผ่หลาบนเตียงนอน จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปตลอดงานช่วงเย็น ก็ผ่อนลมหายใจออกมา
ร่างบอบบางเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งเคียงข้าง มือบางจับแขนแกร่งเขย่าเบาๆ ดั่งกำลังปลุกผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี
“พี่ธามคะ พี่ธามลุกขึ้นมาก่อนค่ะ” เสียงหวานร้องเรียก ทว่าเสียงที่เปล่งออกมาคงเบาเกินไป เจ้าของชื่อถึงนอนนิ่งอยู่เช่นเดิม
“พี่ธาม ตื่นก่อนได้ไหมคะ” ครั้งนี้คนถูกเรียกสะบัดแขนออกจากมือที่จับไว้ ราวกับมือนั้นคือความน่ารำคาญที่มารบกวนการนอนหลับของตน
“อือ...ยุ่ง คนจะนอน” เสียงเข้มเอ่ยบอก พร้อมกับพลิกตัวนอนตะแคงข้างเป็นการตัดบทสนทนา
ญาดาหรือกอหญ้าทำได้แต่นั่งมองแผ่นหลังกว้างของสามี ที่ถูกต้องตามกฎหมายนัยน์ตาเศร้า ที่สามีหรือวิธานดื่มหนักเมามายแทบไร้สติประคองตัวเดินแทบไม่ไหว จนเพื่อนต้องหิ้วปีกมาส่งถึงห้องหอ ดื่มหนักไม่ใช่เพราะดีใจที่ได้แต่งงานกับเธอแต่อย่างใด
เป็นเพราะชายหนุ่มเสียใจต่างหาก ที่ถูกบังคับให้มาแต่งงานกับเธอ ผู้หญิงที่เขาไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา ผู้หญิงที่ถูกมองข้ามตั้งแต่เล็กจนโต ผู้หญิงที่เขาพยายามวิ่งหนีมาตลอด แต่สุดท้ายเหมือนยิ่งหนียิ่งเข้าใกล้ และเป็นการเข้าใกล้ที่เขาไม่เต็มใจและยังมองเธอเป็นผู้หญิงไม่ดีเสียด้วยซ้ำ
จนวันนี้เธอและเขาก็ได้แต่งงานกัน
งานแต่งงานใหญ่โตหรูหราอลังการ แต่ใครเลยจะรู้ว่าเจ้าบ่าวเกลียดเจ้าสาวยิ่งกว่าอะไร....
น่าตลกชะมัด แต่แปลกที่ญาดากลับยิ้มหรือหัวเราะไม่ออก