ชีวิตคู่หลังแต่งงาน 1

1643 คำ
ณ ปัจจุบัน ความรักสำหรับญาดาหญิงสาวยังเชื่อว่าสวยงามเสมอ แม้ตลอดเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา ชีวิตคู่ไม่ได้หวือหวาหรือจะเรียกว่าลุ่มๆ ดอนๆ ก็ว่าได้ เพราะแต่ละวันญาดาต้องนั่งลุ้นว่าสามีของเธอมีอารมณ์เช่นไร การเผชิญหน้ากันในแต่ละครั้งญาดาต้องใจดีสู้เสือ แม้จะบอกว่าตัวเองควรชินได้แล้ว ทว่าเธอก็ยังไม่ชินอยู่ดี ไม่ชินกับความเฉยเมย เฉยชา เงียบขรึม ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน แม้จะอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน นอนห้องเดียวกัน และมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาดั่งคนทั่วไป เหตุใดเธอยังรู้สึกเหมือนตัวเองข้ามผ่านกำแพงที่สามีเธอสร้างขึ้นมาไม่ได้เสียที หลังจากทำอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย ญาดาก็ขึ้นมาบนห้องนอน เปิดประตูให้เบาที่สุดเพราะกลัวไปรบกวนคนที่นอนอยู่บนเตียง สายตาที่เคยมองชายหนุ่มด้วยความรักเช่นไร วันนี้หญิงสาวยังคงมองด้วยสายตาเช่นนั้น ร่างบางเดินไปยังตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมเดินเข้าไปแขวนในห้องน้ำ หยิบแปรงสีฟันของชายหนุ่มออกมาบีบยาสีฟันให้ เมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย จึงเดินมาทรุดตัวนั่งลงข้างร่างสูงที่ยังนอนหลับบนเตียงนอน เธอไม่รู้ว่าช่วงนี้สามีของเธอทำงานหนักเกินไปหรือไม่ รู้สึกว่าช่วงนี้วิธานจะหลับสนิทหลับลึกจนเธอไม่อยากปลุก อยากปล่อยให้เขานอนพักผ่อนให้เต็มที่ “พี่ธามคะ” มือบางแตะลงบนแขนแกร่งเขย่าเบาๆ คนที่นอนหลับก็รู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาและหลับลงไปเช่นเดิม ญาดายิ้มบางวิธานในแบบนี้ดั่งเด็กหนุ่มแสนงอแงที่ไม่อยากตื่นไม่มีผิด หากเธอสามารถก้าวข้ามกำแพงที่เขาสร้างขึ้นมาได้ เธอคงหอมแก้มสากสักหนึ่งฟอด แต่นั่นก็แค่ความคิด หากเธอทำดั่งใจคิดลงไปคงได้ถูกชายหนุ่มบึ้งตึงใส่ หรือกล่าวหาว่าเธอหน้าด้านเป็นแน่ “พี่ธาม ตื่นได้แล้วนะคะ เดี๋ยวเข้าบริษัทสายนะ” เอ่ยเรียกอีกรอบ เขย่าแขนแกร่งเบาๆ “อือ” เสียงตอบรับดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับร่างสูงที่ยันตัวลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ขยับตัวลงจากเตียงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ญาดาจึงจัดการเก็บที่นอนให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นก็เดินไปหยิบชุดทำงานออกมาเตรียมไว้บนเตียง ทั้งชุดชั้นในและถุงเท้าถูกวางเตรียมไว้รอเสร็จสรรพ จึงเดินออกจากห้องไป “พี่ธามมาทานข้าวค่ะ” เอ่ยเรียกสามีที่ก้าวลงจากบันไดขั้นสุดท้าย เดินยิ้มเข้าไปรับเสื้อสูทจากสามีนำไปวางไว้ที่โซฟา วิธานจึงเดินไปยังโต๊ะรับประทานอาหารที่ภรรยาเตรียมไว้ วันนี้เป็นเมนูอาหารง่ายๆ อย่างข้าวต้มหมูสับไม่ใส่กระเทียมเจียว เพราะเขาไม่ชอบกลิ่นของมันและไหนจะน้ำมันอีก ไม่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้น กาแฟร้อนหอมกรุ่นถูกยกขึ้นจิบอย่างเช่นทุกเช้ารสชาติยังคงเหมือนเดิม กลิ่นหอมของข้าวต้มโชยเข้าสู่จมูกชวนให้ตักขึ้นชิม รสชาติที่คุ้นเคยร่วมหลายเดือนที่ผ่านมา ความหอมความอร่อยยังคงเสมอต้นเสมอปลายไม่มีเปลี่ยน แต่แปลกที่ชายหนุ่มไม่ได้อินกับสิ่งที่ภรรยาทำเสียเท่าไหร่ และยังมองว่าสิ่งที่ภรรยาทำคือหน้าที่เสียด้วยซ้ำ “อร่อยไหมคะ” ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้เท่าไหร่กับญาดา เพราะเป็นคำถามที่หญิงสาวไม่เคยได้รับคำตอบกลับมาเลยสักครั้ง ว่าอาหารที่ทำถูกปากหรือไม่ หญิงสาวยังจำได้ดีในเช้าวันแรกกับหน้าที่ภรรยา เธอตื่นขึ้นมาตั้งแต่หกนาฬิกา ทั้งที่เมื่อคืนกว่าจะอาบน้ำล้างเครื่องสำอางและเช็ดตัวให้วิธานเสร็จก็เลยสองนาฬิกาเข้าไปแล้ว เธอรีบลงมาทำอาหารให้วิธานรับประทาน ทว่าสิ่งที่เธอได้รับคือความเฉยชา และประโยคชวนหน้าเสียที่เปล่งออกมาจากปากของชายหนุ่ม ราวกับมันคือเรื่องทั่วไปไม่สนใจว่าคนฟังเช่นเธอจะรู้สึกอย่างไร “อย่าคิดว่าทำดีแล้วพี่จะรู้สึกดีกับเรานะ เพราะมันทดแทนกันไม่ได้ อ๋อ! แล้วก็อย่าคิดว่าพี่เป็นสุภาพบุรุษที่จะไม่แตะต้องเรา ในเมื่อเราอยากเป็นเมียพี่ ถ้าพี่อยากเราก็ต้องเป็นที่ระบายให้” ญาดาจำความเจ็บที่วิ่งเข้ามากระแทกที่หน้าอกตัวเองได้ดีในวันนั้น สิ่งที่เธอทำได้คือยืนมองแผ่นหลังกว้างเดินออกจากบ้านไป และวันนั้นทั้งวันชายหนุ่มก็ไม่กลับเข้าบ้านอีก จนเวลาล่วงเลยมาถึงสองนาฬิกา วิธานถึงกลับบ้านทั้งที่โบราณเขาถือหนักหนา ว่าคู่ที่แต่งงานต้องนอนในห้องหอสามคืน “พี่ธามคะ วันนี้พี่ธามจะกลับกี่โมงคะ” คนที่กำลังจะอ้าปากรับช้อนข้าวต้มเข้าปากเป็นอันต้องวางลง เปลี่ยนเป็นยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม ทั้งที่ทานไปได้แค่ไม่กี่คำ “อิ่มแล้วเหรอคะ” เสียงลมหายใจกระแทกของมาหนักๆ ญาดาจึงรีบสงบปากสงบคำ เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าสามีของเธอกำลังหงุดหงิดกับความจู้จี้ของเธอ ทั้งที่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเสียหน่อย เธอแค่อยากพูดคุยกับเขาเท่านั้น มีเรื่องสำคัญอยากปรึกษาหารือในฐานะที่เขาคือคู่ชีวิต แต่สำหรับเขา...เธอคงเป็นได้แค่มารที่มาพรากความสุขจากชีวิตเขาไป ไม่ใช่ความสุขที่เขาโหยหา วิธานไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เดินไปหยิบเสื้อสูทที่ญาดาวางพาดไว้บนโซฟาเดินออกจากบ้าน หญิงสาวจึงรีบลุกเดินตามออกมาส่ง ยืนส่งชายหนุ่มถึงประตูรถดั่งเช่นที่ตัวเองเคยทำทุกวัน เธอไม่คิดว่านี่คือหน้าที่ แต่นี่คือสิ่งที่เธออยากทำให้คนที่เธอรัก “ตั้งใจทำงานนะคะ อย่าลืมทานอาหารกลางวันนะ ช่วงนี้หญ้าว่าพี่ธามดูผอมลง” “พูดจบหรือยังพี่จะได้ไป” ญาดายิ้มเฝื่อนเพื่อกลบเกลื่อนสีหน้าที่เสียไป รีบพยักหน้ารับและขยับออกมาจากประตูที่เจ้าของรถกระชากปิดใส่หน้า พร้อมกับเคลื่อนรถออกไปด้วยความเร็ว “เดี๋ยวก็ชินหญ้า” นี่คือประโยคที่ใช้ปลอบใจตัวเองมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สำหรับชีวิตคู่ของเธอกับวิธาน วิธานมองญาดาผ่านกระจกมองหลังก็ผ่อนลมหายใจออกมา ใครจะกล่าวหาว่าเขาใจร้ายยังไงเขาไม่สนใจ เพราะผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาไม่ใช่คนที่เขารักและอยากแต่งงานด้วย ทุกคนมองเธอว่าคือผู้หญิงใสซื่อบริสุทธิ์ ใครเลยจะรู้ว่าเนื้อแท้ของเธอร้ายกาจขนาดไหน เธอกล้าทำลายความรักของเขากับแฟนเก่าลงอย่างไม่เป็นท่า ผู้หญิงดีๆ ไหนที่เดินเข้าไปหาแฟนของเขา และบอกว่าอยากแต่งงานกับเขา อยากได้เขามาเป็นสามี ให้คนรักของเขาเลิกราไปซะ หึ! ร้ายใช่ไหมล่ะ และน่าตลกจนหัวเราะไม่ออกพานน้ำตาจะไหล นั่นก็คือบิดามารดาของเขาก็เห็นดีเห็นงามอยากได้ญาดามาเป็นลูกสะใภ้ ตามคำมั่นสัญญาในวัยรุ่นที่ได้ลั่นวาจาสาบานร่วมกันกับบิดามารดาของญาดา ว่าจะให้ลูกแต่งงานกัน ความซวยเลยมาตกที่เขาเข้าอย่างจัง โดยไม่มีใครสนใจความรู้สึกเขาเลยสักนิด ว่าเขาจะรู้สึกเช่นไร อยากแต่งงานกับผู้หญิงสองหน้าเอาความใส่ซื่อมาฉาบไว้คนนี้ไหม และยังยกคำขู่มาอ้างว่า... “ถ้าธามไม่คิดว่าธามคือลูกของป๊า และยังเห็นว่าป๊ากับม้าเป็นป๊าม้าของธาม ก็ทำตามที่ป๊าขอร้องเถอะนะ แต่ถ้าธามไม่เห็นว่าคนแก่สองคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นป๊าม้า ธามไม่ต้องแต่งก็ได้ ป๊าจะได้รู้ไว้ว่าป๊าไม่มีลูก” พูดมาซะขนาดนี้ คิดหรือว่าเขาจะมีทางเลือกอื่นที่ดีมากกว่าการยอมแต่งงานตามที่ป๊ากับม้าต้องการ จนต้องเลิกรากับแฟนสาวที่คบหากันมาร่วมสามปี ทำให้แฟนสาวเสียใจจนบินไปอยู่ต่างประเทศ แล้วแบบนี้ยังจะให้เขาทำตัวเป็นสามีที่ดีกับญาดาอย่างนั้นหรือ แม้เกือบหนึ่งปีที่ใช้คำว่าสามีภรรยาร่วมกัน และยังมีความสัมพันธ์ทางร่างกาย ทว่าเขากลับรู้สึกไม่อินในความรักที่ญาดามอบให้ หากจะบอกว่าเขาคือผู้ชายเห็นแก่ตัวที่มักได้ในเรื่องอย่างว่าเขาไม่เถียง ในเมื่อเธอคือภรรยาที่เต็มใจเข้ามาอยู่ในชีวิตเขา ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ ก็ไม่แปลกไม่ใช่หรือที่เขาจะมีอะไรกับเธอ และเขาก็เคยคุยกับเธอถึงเรื่องนี้แล้ว “หญ้าจะไม่ยอมทำเรื่องอย่างว่าก็ได้นะ แต่พี่คงต้องออกไปหาที่อื่น” “หญ้าเต็มใจค่ะ หญ้าพร้อม” “ทั้งที่หญ้าก็รู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับหญ้าอย่างนั้นเหรอ และดีไม่ดีเราสองคนก็อาจจะเลิกกันในที่สุด” “ค่ะ” ในเมื่อเขาไม่ได้บังคับขืนใจและเธอก็เต็มใจ แล้วทำไมเขาจะมีอะไรกับเธอไม่ได้ล่ะ...จริงไหม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม