ฟ้าลดานั่งอยู่กับที่เพื่อเรียกสติให้กับตัวเองอยู่ไม่กี่นาทีก็ต้องลุกขึ้นและเดินตามร่างสูงใหญ่ออกมาอีกคนก่อนจะโล่งอกเมื่อพบว่าเขาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำเต็มตัวแทนที่จะแก้ผ้าให้กันเหมือนที่เคยทำเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
“อีกสามวันคนของผมจะไปรับคุณที่บ้าน จนกว่าจะถึงวันนั้นผมอยากให้คุณสะสางทุกๆ เรื่องที่นี่ให้เสร็จ ถ้าเกิดมีแฟนก็รีบร่ำลากันเสีย จะได้ไม่ไปร้องห่มร้องไห้ให้ผมได้เห็นทีหลัง เข้าใจที่พูดไหม!”
“ค่ะ ฉันเข้าใจค่ะ”
“ดี! เพราะว่าผมไม่ชอบผู้หญิงที่เข้าใจอะไรยาก คุณออกไปได้แล้ว ส่วนเรื่องเอกสารพรุ่งนี้ผมจะสั่งให้คนของผมเอาไปให้พ่อของคุณที่บริษัท ส่วนนี่...ค่าตอบแทนสำหรับวันนี้ที่คุณทำให้ผมพอใจมาก แล้วเราค่อยไปต่อที่ค้างกันเอาไว้ที่ฟาร์มของผมก็แล้วกัน” คนน่าไม่อายพูดยาวเหยียดก่อนจะยืนกล่องกำมะหนี่เล็กๆ ส่งมาให้ ฟ้าลดาลังเลอยู่ครู่ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปรับมันเอาไว้พร้อมกับเปิดออก
“นี่มัน...ฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ มันคงจะแพงมาก” คำพูดของหญิงสาวที่ร้องบอกทันทีที่เห็นแหวนเพชรวงใหญ่ที่เขาเพิ่งจะมอบให้กันส่งผลทำให้วศินชะงักค้างไป มันผิดกับที่เขาคาดเอาไว้มาก เขาคิดว่าหล่อนจะยอมเปิดเผยตัวตนจริงๆ ออกมาให้ได้เห็นเมื่อเจอเข้ากับแหวนเพชรในมือนั้นเสียอีก
ผู้หญิงคนนี้
เธอเป็นคนแบบไหนกันแน่!
“แต่คุณต้องรับเอาไว้ และผมก็หวังว่าจะเห็นคุณสวมมันเมื่อเราพบกันอีกครั้งในสามวันหลังจากนี้ ตกลงไหม!” เพราะสถานะของเธอที่เป็นเพียงนางบำเรอของเขาส่งผลทำให้ใบหน้าหวานต้องพยักรับกลับไปช้าๆ ฟ้าลดากำกล่องแวนเพชรเอาไว้แน่นในขณะที่เดินออกมาจากห้องเพื่อหลังลงไปชั้นล่างหาผู้เป็นพ่อที่นั่งรออยู่ที่ห้องอาหารของโรงแรมถัดไปนั้นยังมีผู้ชายอีกคนที่เธอเจอที่หน้าห้องของวศินยืนอยู่ข้างๆ ไม่ไปไหน
“ฟ้า! เป็นยังไงบ้างลูก คุณวศินเขาว่ายังไงบ้าง” โชคชัยถามลูกสาวทันทีที่พบหน้า
สายตาหวาดสำรวจมองดูตั้งแต่หัวจรดเท้าจนเมื่อแน่ใจว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นถึงได้ลอบถอนหายใจเพียงลำพัง
“เขาตกลงค่ะพ่อ แต่ว่าอีกสามวันเขาจะส่งคนไปรับฟ้าที่บ้านค่ะ”
“โถฟ้า ฟ้าลูกพ่อ...” เพราะคาดไม่ถึงว่าการจากลามันจะเหลือเวลาเพียงแค่สามวันเท่านั้นทำเอาโชคชัยถึงได้เก็บน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
ความรู้สึกผิดที่มีต่อลูกสาวที่เขาเคยทั้งรักทั้งหลงมาโดยตลอด แต่ครั้นพอเจอเข้ากับครอบครัวใหม่เขาก็กลับละเลยต่อเธอ จนเมื่อชีวิตเดินมาถึงทางตันกลับกลายเป็นลูกสาวที่เขามองข้ามมาโดยตลอดคนนี้ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือก่อนใครๆ
“อย่าร้องไห้แบบนี้สิคะพ่อ ฟ้าไม่เป็นไรหรอกค่ะ พ่อต้องเข้มแข็งนะคะ ฟ้าจะพยายามหมั่นโทรกลับมาหาพ่อบ่อยๆ เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ ป่านนี้พี่พิมพ์กับคุณน้าแขไขคงรอฟังข่าวกันแย่แล้ว” โชคชัยพยักหน้ารับคำลูกสาวทั้งน้ำตาก่อนทั้งสองจะพากันเดินออกมาจากโรงแรมขึ้นรถกลับไปยังบ้านเพื่อใช้เวลาสามวันอันแสนสั้นที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ส่วนทางด้านปกรณ์เมื่อเดินออกไปส่งสองพ่อลูกถึงรถเขาก็กลับขึ้นไปหาเจ้านายอีกครั้งตามคำสั่งในทันที เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังนั่งคิดอะไรเงียบๆ อยู่คนเดียวกลับมามีสติอีกครั้ง
“นายเรียกผมมีอะไรรึเปล่าครับ” คนมาใหม่ถามขึ้นเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาพบกับเจ้านายหนุ่มที่ในมือกำลังถือประวัติของผู้หญิงที่ชื่อฟ้าลดาคนนั้นเอาไว้ในมือ
“ฉันต้องการประวัติของผู้หญิงที่ชื่อฟ้าลดามากกว่านี้ ว่าเธอเติบโตมาในครอบครัวแบบไหน กิจวัตรประจำวันทำอะไรบ้าง และที่สำคัญเธอมีคนรักหรือแฟนรึเปล่าไปหามาให้หมด! ฉันต้องการรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นก่อนวันเดินทางกลับเชียงราย”
“ครับนาย ผมจะรีบหาประวัติของคุณฟ้าลดามาให้นายโดยเร็วที่สุดครับ” ปกรณ์รับคำสั่งก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกมาเพราะไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อนของเจ้านายมากไปกว่านี้
เพราะทำงานกับวศินมานานเขาจึงรู้ได้ในทันทีเลยว่าเจ้านายของเขานั้นกำลังถูกใจอะไรบางอย่างในตัวของผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่ถึงจะอยากรู้แค่ไหนเขาก็คงไม่กล้าที่จะเสี่ยงถามออกไปแน่ คงทำได้เพียงทำตามที่สั่งแล้วเฝ้ามองบางสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนไปอยู่อย่างเงียบเชียบจะดีกว่า..
โชคชัยกับลูกสาวคนเล็กกลับมาถึงบ้านก็พบว่าแขไขกับพิมพ์พิไลกำลังยืนรออยู่ที่หน้าบ้านอยู่ก่อนแล้ว สองแม่ลูกแทบจะพากับวิ่งเข้ามาทันทีที่รถยนตร์จอดสนิทลง...
“เป็นยังไงบ้างคะคุณ! ไอ้เจ้าหนี้อะไรนั่นของคุณมันยอมให้ยัยฟ้าเปลี่ยนตัวกับลูกพิมพ์รึเปล่าคะ” แขไขเป็นคนแรกที่ถามขึ้น สีหน้าเป็นกังวลแสดงออกมาอย่างเด่นชัดเพราะกลัวว่าจะต้องส่งลูกสาวสุดที่รักของตัวเองไปให้กับเจ้าหนี้ของสามีเข้าจริงๆ
“อืม เขายอม อีกสามวันจะมีคนมารับตัวยัยฟ้าไป”
“โอ้ย! โล่งอกไปทีนะคะคุณแม่ พิมพ์ล่ะนึกเอาไว้อยู่แล้วเชียวว่าไอ้บ้ากามนั่นมันต้องชอบยัยฟ้าแน่ๆ ยินดีด้วยนะจ๊ะน้องรัก ไปอยู่กับเขาก็ทำตัวดีๆ ล่ะรู้ไหม ถ้าไอ้แก่นั่นตายไปเมื่อไหร่ไม่แน่นะมันอาจจะยกทรัพย์สมบัติของมันให้แกก็ได้”
พิมพ์พิไลอวยพรน้องสาวก่อนจะเดินเข้ามาสวมกอดอีกฝ่ายเบาๆ แล้วรีบผละออก