ดรณ์ถอดสูทพาดไว้กับเก้าอี้อีกตัวที่ว่าง ก่อนจะทรุดกายลงนั่ง สำรับอาหารไม่ดึงความสนใจมากเท่าไวน์ในถังแช่ นึกขอบคุณทีมงานไม่น้อยที่สรรหามาไว้ให้ ราวกับรู้ว่าเขาอยากได้อะไรมาคลายเครียดก็ไม่ปาน อันที่จริงถ้าเป็นวิสกี้จะดีไม่น้อย แต่ทีมงานคงจะเกรงใจคุณภัทราหรือไม่ก็แม่ยายเขา ถึงได้เอาอะไรเบาๆ มาแทน
ขณะยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ดวงตาคู่คมก็จ้องไปยังแผ่นหลังขาวนวลเนียน ที่ชุดเว้าตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไปหาเอวคอด ทำเอาผู้ชายแทบทั้งงานมองตามชนิดตาไม่กะพริบมาแล้ว
แม้ความโกรธยังครอบงำในหัวใจอยู่มากมาย แต่ให้ตายดิ้น! ร่างกายส่วนล่างของเขา กลับเต้าเร่าๆ อยากลิ้มลองอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานได้ไปแล้วรอบหนึ่ง
เขาเกลียดตัวเองมาจนถึงวินาทีนี้ ที่ดันเลือกใช้วิธีสั่งสอนเจ้าหล่อนผิดถนัด เพราะไอ้ลูกชายตัวน้อยมันดันไม่ยอมเชื่อฟัง หรือไม่ยอมรับรู้ว่าพ่อโกรธมากแค่ไหน
เพียงแค่ได้ชิมครั้งเดียว มันก็ติดใจดันเรียกร้องอยากชิมอีก จนเขาต้องกลับมาพร้อมสัญญาบ้าๆ นั่น แทนการโทรสั่งทีมจัดงานให้ยกเลิกทุกอย่างตามที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก
ผมยาวสลวยสวยนุ่มที่เขาเคยได้กอบกุมเอาไว้นั้น ช่างฉลาดคิดด้วยการจับมาบิดเป็นเกลียวช่อเล็กๆ แล้วม้วนเก็บไว้บนศีรษะอย่างสวยงาม ประดับด้วยดอกคาเนชั่นขนาดเล็กชมพู สลับสับหว่างกับไข่มุกแท้ ที่เขาเป็นคนควักกระเป๋าซื้อจากร้านเพชรเจ้าประจำแบบไม่เสียดายเงินสักนิด
รวมทั้งชุดสีขาวบริสุทธิ์นั่น ที่เขายอมควักกระเป๋าจ่ายให้เจ้าหล่อนกับแม่บินไปถึงฝรั่งเศสหาดีไซเนอร์มือดีแล้วสั่งตัด เขาต้องยอมรับว่ามันแพงระยับ แต่อีกครั้งที่ตอนนั้นเขายอมจ่ายเพราะรักเจ้าหล่อนมากมาย
‘รัก’
คำนี้เกิดขึ้นตอนไหนกันนะ และแทบไม่ต้องคิด เขาก็มีคำตอบให้ตัวเองแล้ว ว่ามันเกิดขึ้นในครั้งที่สองเมื่อได้เห็นใบหน้าสวยหมดจดจะจะ ในงานกาล่าดินเนอร์การกุศลแห่งหนึ่ง
ซึ่งวันนั้นเขาไม่คิดจะไปร่วมสักนิด แต่ก็มีใครบางคนทำให้เขาเบื่อ จนต้องยอมเปลี่ยนใจ แต่งตัวไปในนาทีสุดท้าย แล้วโทรจองตัวเลขาคู่กายให้เป็นคู่ควงแทน
แต่งานก็ทำเขาเบื่อกว่าเดิม เมื่อต้องไปเจอกับผู้คนหน้าเก่าๆ แล้วใส่หน้ากากเข้าหากัน เขายอมรับว่าเกลียดบรรยากาศแบบนั้นสุดๆ แต่ก็จำต้องฝืนทนมาตลอดเมื่อมันจะทำให้ได้ลูกค้ารายใหม่เข้ามาในบางครั้ง
ขณะยืนรอเข้าไปนั่งโต๊ะนั้น อยู่ๆ ความเบื่อของเขาก็พลันมลายหายสิ้น เมื่อผู้คนในงาน โดยเฉพาะพวกผู้ชาย ต่างพากันหันไปยังประตูสุภาพสตรีกับการแต่งกายหรูหราและดูแพงสี่คนกำลังเดินเข้ามา
สองคนที่หน้าอ่อนกว่าอายุไปเป็นสิบปีเพราะมีดหมอนั้นเขารู้จักมักคุ้นดี เพราะเป็นสาวสังคมไม่เคยพลาดงานที่ได้ให้แต่งตัวสวยๆ โปรยเสน่ห์ให้ผู้ชายไปทั่ว
ส่วนสองสาวที่ใบหน้ากับหุ่นนั้นละม้ายคล้ายกัน จนบอกได้ในแรกเห็นว่าต้องเป็นพี่น้องมากกว่าจะเป็นแม่กับลูกกันนั้น เขาไม่รู้จักเอาเสียเลย คนที่อาจจะเป็นพี่หรือแม่อยู่ในชุดสีดำรัดรึงส่วนสัดเว้าโค้งให้เห็นชัดเจนนั้นสวยไม่เบา
ส่วนคนน้องหรือลูกสาวนั้น อยู่ในชุดราตรีเกาะอกสีขาวงาช้าง ใบหน้าสวยคมแบบนี้แทบไม่ต้องคิดว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เพราะภาพยังติดตามาตั้งแต่ตอนอยู่สนามบินเมื่อหลายเดือนก่อน ชนิดยากจะลบเลือนออกไปได้ง่ายๆ
แถมยังคอยหลอกหลอนเขาทุกเมื่อเชื่อวัน และให้โกรธตัวเองที่วันนั้นน่าจะตามไปทำความรู้จักแล้วเอาเบอร์ติดต่อมาให้ได้ แม้เธอจะรีบสักแค่ไหน เชื่อแน่ว่าเขาจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งนาทีเท่านั้น แต่เขาดันพลาด และในค่ำคืนนั้นเขาสั่งตัวเองว่าจะต้องไม่พลาดซ้ำสองอีกเป็นอันขาด
“นั่นใครกันครับคุณสรวง”
เขาหันไปหาม่ายสาวพราวเสน่ห์ในวัยหกสิบแล้ว แต่หน้ายังเหมือนคนสี่สิบ ยืนถือแก้วแชมเปญอยู่ตรงหน้า และคุยอะไรที่ตอนนี้เขาฟังไม่รู้เรื่องแล้ว
“คุณดรณ์หมายถึงคนไหนกันล่ะคะ มีตั้งสี่สาว”
ม่ายสาวมองเขาแล้วทำท่าเย้านิดๆ เขาไม่เอ่ยอะไรเอาแต่ยิ้มบางๆ ด้วยรู้ดีว่าคนถามเดาได้ว่าเขาหมายถึงใคร
“สรวงล้อเล่นค่ะ นั่นเพื่อนคุณดวงไงคะ เห็นว่ามาจากเชียงใหม่ ชุดดำคือคุณภาค่ะ เป็นแม่ของน้องเว คนชุดขาวน่ะค่ะ พี่เองก็เพิ่งรู้จักตอนไปงานเปิดโรงแรมคุณเมืองแมนเมื่อหลายเดือนก่อน เห็นว่าหนูเวมาช้า เพราะเครื่องดีเลย์แล้วรถยังติดอีก รู้สึกงานนั้นสรวงชวนคุณดรณ์แล้ว แต่บอกว่าติดธุระที่ทางใต้หรืออะไรนี่ล่ะค่ะ”
และนั่นน่าจะเป็นวันเดียวกับที่เขากับเธอเดินชนกันในสนามบิน เพราะแบบนี้เธอถึงได้รีบนัก เขาให้โกรธตัวเองที่ดันมีงานด่วนต้องรีบเข้าออฟฟิศไปจัดการ มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของบริษัทซึ่งช้าไม่ได้
“คุณภากับลูกเป็นคนเชียงใหม่ค่ะ รู้สึกจะสืบเชื้อสายมาจากเจ้านายทางเหนือด้วยนะคะ แม่คุณภาเป็นนัดดาของเจ้าอะไรสักอย่างสรวงก็จำไม่ได้ค่ะ เห็นว่ามีร้านอาหารด้วยนะคะ แต่สรวงยังไม่เคยไปลองชิม ครั้งก่อนคุณภาบอกสรวงว่ากำลังจะลองมาหาลู่ทางเปิดร้านอาหารที่กรุงเทพบ้าง แต่ไม่รู้ว่าทำอะไรไปถึงไหนแล้ว อยากให้สรวงพาไปแนะนำบ้างมั้ยคะ เผื่อไปเชียงใหม่จะได้ไปลองชิม”
ม่ายสาวจงใจจะหยุดคำพูดไว้แค่นั้น แล้วหันมามองเขาด้วยสายตารู้ทัน เขาเองก็ไม่เอ่ยอะไรนอกจากยิ้ม ก่อนจะเดินตามไปยืนเผชิญหน้ากับสี่สาว
“คุณดรณ์! เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมมาได้ ดวงเห็นไม่ออกงานนานเป็นปีแล้วนี่คะ”
ดวงดาราที่เขารู้จักดีเข้ามากอดเขากลม เกินกว่าจะเป็นการทักทาย แต่เขาก็ชาชินแล้วกับการถูกพวกสาวแก่แม่ม่ายหาเศษหาเลยด้วยวิธีนี้แล้ว จากนั้นก็เป็นคิวของม่ายสาวที่จะแนะนำเขาให้รู้จักสองแม่ลูกอย่างที่ตั้งใจไว้