‘เกลียดคนโกหก เกลียดคนหลอกลวง’ เป็นคำที่นักธุรกิจหนุ่มอย่างดรณ์ เดชาโชตช่วง ท่องไว้ในใจเรื่อยมา นับตั้งแต่ถูกคนใกล้ชิดที่สุดในชีวิต ทำลายความไว้วางใจที่เคยมีมาแต่ไหนแต่ไร
‘ไม่ให้โอกาสใครซ้ำสอง’ และเขายึดถือคตินี้นับตั้งแต่นั้น ไม่ว่าจะผู้ใต้บังคับบัญชา หรือคนใกล้ตัว เพื่อกันไม่ให้คนเหล่านั้น ทำให้เขาเสียใจ ทำให้เขาผิดหวังอีก
ทว่า เขากลับต้องกลืนคติประจำใจเหล่านี้ไว้ และเก็บงำไม่ให้ใครรู้ เมื่อได้เผลอมอบหัวใจให้กับ ‘อาภาภัทร ดิษยากรกุล ชไนเดอร์’ หญิงสาวที่เขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
เพราะเธอช่างสวย สง่างาม คุณสมบัติทุกด้านเพียบพร้อม เขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องดึงเธอมาเป็นคู่ชีวิตให้ได้ ต่อให้ยากเย็นแสนเข็ญ หรือต้องแลกด้วยอะไร เขาก็พร้อม
แต่ไม่คิดไม่ฝัน ว่าสาวสวยและสูงส่ง จะทำให้เขาผิดหวังตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยซ้ำ เขาจะทำยังไง จะเดินหน้าต่อ หรือยกเลิกงานเสีย แล้วไปให้ไกล ผู้หญิงโกหก ผู้หญิงหลอกลวงคนนี้
..........
“คุณกล้าดียังไง ถึงขัดคำสั่งผมต่อหน้าคนอื่น”
“ฉันจะทำอีก ถ้าคุณคิดจะหยามฉัน ด้วยการเอาผู้หญิงคนนั้นมายุ่งในห้องนี้”
“ผมจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของผม”
“งั้นการที่ฉันไม่ยอมทำตามคำของคุณ ก็ช่วยคิดว่ามันเป็นสิทธิ์ของฉันด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณล้ำเส้นมากเกินไป ฉันก็จะจัดการตามวิธีของฉัน เข้าใจตรงกันนะ”
“ร้ายนักนะตัวแค่นี้! มานี่เลย!!!”
“ปล่อยฉันนะ!!!!”
“ไม่ปล่อย! ปากดีแบบนี้สงสัยผมคงต้องจัดหนักแล้วมั้ง เอาสักกี่ครั้งดีล่ะ ถึงจะคุ้มค่าเงินสองแสนห้าที่ผมเพิ่งโอนให้ แล้วไหนจะที่ไปเสียมารยาทกับแขกผมอีก”
“แขกเหรอ ฉันไม่เคยเห็นแขกคนไหนใส่บิกินีแล้วนั่งเบียดเจ้าของบ้านที่มีเมียนั่งอยู่ทนโท่ขนาดนั้น”
“คุณหึงหรือไง”
“ทำไมฉันต้องหึงด้วย ในเมื่อฉันกับคุณจะหย่ากันอยู่แล้ว อยากทำอะไรกับใครก็เชิญเลย ไปให้พ้น อย่ามายุ่งกับฉัน”
“ไม่ต้องไล่ บอกแล้วไงถึงเวลาผมไปเอง แต่ตอนนี้ผมต้องเอาคืน!”
ร่างเล็กๆ ถูกเขารวบขึ้นไปพาดบนบ่าได้อย่างง่ายดาย แล้วเดินออกไป
“ปล่อยฉันสิไอ้คนบ้า! คนทุเรศ!!”
คนห้อยหัวไปหาพื้นก็ทั้งดิ้น ทั้งร้อง สองกำปั้นก็ทุบหลังเขาไม่ยั้ง
“โอ๊ย!!!”
พอถูกเขาจับโยนลงไปหาเตียงก็ถึงกับจุก แต่ก็พยายามลุกขึ้นเพื่อหมายจะพาตัวหนีจากห้องให้จบๆ ไป แต่กลับทำอย่างใจอยากไม่ได้ เพราะตัวใหญ่ๆ ของเขาโถมลงไปหา
“ไม่นะ อะ...”
ปากบางกำลังจะร้องด่า ก็ถูกฉกลงไปบดขยี้อย่างรุนแรง ...