12
“กัน..นายมั่นใจเหรอว่าต้นข้าวเค้าจะยอม” มารุตเอ่ยถามเมื่อเหลือเวลาที่กัณติพัฒน์กำหนดแค่สองนาที
“คนอย่างฉันไม่เคยแพ้ผู้หญิงนะ เดี๋ยวก็ออกมาเชื่อฉัน”
กัณติพัฒน์พูดด้วยความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม เบนสายตาจับจ้องที่ประตูบ้าน รอคอยร่างบางเดินออกมาอย่างใจจดใจจ่อ บานประตูไม้เปิดออกกว้างในนาทีที่สิบสี่ พิตตนันท์เดินออกมาจากบ้านพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่ไม่เล็กหนึ่งใบ หญิงสาวเดินเข้ามาหยุดยืนใกล้ๆ ร่างของกัณติพัฒน์ ที่มองมาที่เธออย่างผู้กำชัยชนะ
“คำตอบของเธอคืออะไร” เขาถามแม้ว่าจะรู้คำตอบแล้วก็ตาม
“ค่ะ..ต้นข้าวจะไปอยู่กับคุณ แต่ต้องมีข้อแม้นะคะ” เธอต่อรอง
“อะไร” เขาหรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะถาม
“ต้นข้าวอยากรู้กำหนดเวลาที่ต้องไปอยู่กับคุณ” เธอถามเสียงเบา ก้มหน้าหลบสายตาของทุกคนที่มองมาอย่างกระดากอาย
“ไม่มีกำหนด ทุกอย่างขึ้นอยู่กับฉัน” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ
“ฉันว่านะ..นายน่าจะกำหนดเวลาอย่างที่ต้นข้าวเค้าบอกนะ มันจะได้แฟร์ๆ ไง”
มารุตเริ่มทนไม่ไหวที่เพื่อนสนิทเอารัดเอาเปรียบพิตนันท์มากเกินไป และรู้สึกเสียใจที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด เขาจึงต้องออกมาปกป้องพิตตนันท์เท่าที่เขาจะทำได้ กัณติพัฒน์หันมามองมารุตด้วยความไม่พอใจ และตอกกลับจนมารุตอึ้ง
“อย่ายุ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของนาย..ไป..ไปกันได้แล้ว” กัณติพัฒน์คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของพิตตนันท์มาถือไว้ในมือ ส่วนมือแกร่งอีกข้างกุมมือบางไว้แน่น ก่อนจะออกแรงกึ่งลากกึ่งจูงไปที่บ้านของมารุต
“ไม่น่าทำแบบนี้เลยกู” มารุตบ่นออกมาเสียงเบา และเดินตามเพื่อนรักไปที่บ้านของเขา
ดาวเรืองสาวใจแตกนั่งคร่อมร่างของชัยรัตน์ โยกลำตัวอย่างเร่าร้อนอยู่บนกายแกร่ง เสียงครางกระเส่าดังออกมาไม่ขาดปากของทั้งสอง ไม่นานชัยรัตน์ทนความร้อนแรงของสาวร้อนรักไม่ไหว จับร่างบางลงเบื้องล่าง ถาโถมเข้าหาเธออย่างสุดกลั้น ก่อนจะปลดปล่อยความสุขทั้งหมดใส่ร่างของดาวเรือง
“เธอนี่สุดยอดจริงๆ ดาวเรือง” เขาล้มตัวลงนอนแผ่หลาลงข้างกายสาว
“คุณชัยก็สุดยอดเหมือนกันค่ะ”
เธอเอ่ยชมจากใจ ดาวเรืองผ่านผู้ชายมาหลายคน แต่ไม่เคยมีใครทำให้เธอถึงใจมากเท่าชัยรัตน์มาก่อนเลย เขายิ้มเอื้อมมือหยิบเงินสดสามหมื่นยื่นให้หญิงสาวที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างเขา
“อยากได้ไหม..ถ้าอยากได้ทำให้ฉันถึงใจอีกรอบ แล้วฉันจะให้หมดนี่เลย”
ดาวเรืองยิ้มเมื่อเห็นเงินจำนวนมากในมือของเขา เธอไม่ลังเลนั่งคร่อมร่างกายของเขาอีกครั้ง นานนับชั่วโมงกว่าบทรักที่ดาวเรืองกระทำให้ชัยรัตน์จึงสิ้นสุดลง
“เรื่องที่ให้ทำไปถึงไหนแล้ว”
เขาเอ่ยถามเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปอย่างอิ่มหนำ มองร่างเปลือยของดาวเรืองที่เดินไปหยิบเครื่องดื่มมาดื่มแก้ดับกระหาย เธอเดินกลับมาหาเขาพร้อมกับน้ำสีอำพันหนึ่งแก้ว ยืนให้ชายหนุ่มดื่มดับความร้อน ส่วนตัวเธอนั่งลงที่ริมเตียง ตะคองกอดเขาอย่างออดอ้อน
“เรียบร้อย ดาวเรืองจะเอาของไปพักที่บ้านของดาวเรืองเอง ที่นั่นสะดวกที่สุด ไม่มีคนสงสัยหรอก”
ชัยรัตน์ยิ้ม คิดไม่ผิดที่ดึงดาวเรืองมาอยู่ในขบวนการค้ายาของเขา เพราะเธอนั้นทำงานให้เขาอย่างคุ้มค่า ทั้งเรื่องงานและเรื่องบนเตียง
“แล้วพี่สาวกับยายของเธอไม่สงสัยเหรอ”
เขาสืบประวัติเธอมาเรียบร้อยแล้ว ดาวเรืองมีพี่สาวที่สวยงามคนหนึ่ง และเขาอยากได้มาครอบครองสักคืนสองคืน อยากรู้ว่าจะเร่าร้อนเหมือนกับน้องสาวหรือไม่ และมียายที่เจ็บป่วยอีกคนหนึ่ง
“ไม่รู้หรอก จะรู้อะไรพี่ต้นข้าววันๆ เอาแต่เรียน หาเงินให้ไปรักษายาย ยิ่งตอนนี้ยายอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องใช้เงินเยอะ หาเงินหัวหมุนเลยไม่มีเวลามาสนใจอะไรในบ้านหรอก”
ดาวเรืองรู้ว่ายายหอมนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แต่เธอไม่เคยไปเยี่ยมไม่เคยช่วยเหลือเรื่องเงินกับพิตตนันท์เลย ทั้งๆ ที่ดาวเรืองมีทางหาเงินจำนวนนั้นได้ในพริบตา แต่เธอไม่ทำ เนื่องจากดาวเรืองเกลียดพี่สาวแท้ๆ ของตัวเอง ไม่รัก ไม่เคารพ อิจฉาริษยาความสวยงามของรูปหน้าที่มีมากกว่าตน มีคนรักใคร่มากกว่า
“จะเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลยายไหม เดี๋ยวฉันให้เท่าไหร่บอกมา” ชัยรัตน์เต็มใจที่จะมอบเงินให้หากดาวเรืองร้องขอ
“ไม่ล่ะ..คงหาได้แล้วมั้งเห็นเงียบไม่บ่นเรื่องเงินเหมือนแต่ก่อน”
เมื่อตอนสายที่พิตตนันท์กลับมาที่บ้าน พี่สาวของเธอถามสารทุกข์สุกดิบ บ่นเธอเรื่องที่ไม่ค่อยกลับบ้าน ไม่สนใจการเรียน ไม่ไปเยี่ยมยาย และอีกหลากหลายจนเธอจำไม่ไหว แต่ไม่บ่นเรื่องเงินเหมือนเมื่อครั้งก่อนที่เจอหน้า
“แล้วเรื่องพี่สาวเธอว่ายังไง..ฉันจ่ายไม่อั้นนะ” เขาบอกจุดประสงค์เดิมที่เคยบอกกับเธอไว้
“รอก่อนสิ ได้อยู่แล้วไม่ต้องห่วง ของอย่างนี้มันต้องใช้เวลา รอให้การส่งของครั้งนี้สำเร็จเสียก่อน แล้วคุณชัยจะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ”
ดาวเรืองกำลังคิดสิ่งที่ชั่วร้ายที่ไม่สมควรกระทำ เพียงเพราะความอิจฉาริษยาบังตา บดบังความผิดชอบชั่วดีจนสิ้น ชัยรัตน์ดื่มเครื่องดื่มสีอำพันจนหมดแก้ว รอยยิ้มที่เกลื่อนเต็มใบหน้า จินตนาการถึงเรือนร่างนุ่มและหอมของพิตตนันท์ ยามที่เปลือยกายใต้ร่างของตน เขาจะรอวันนั้น
ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งรถยนต์คันหรู และตลอดเส้นทางกลับมายังคอนโดของกัณติพัฒน์ ชายหนุ่มเจ้าของรถนั่งนิ่งทอดสายตามองไปยังท้องถนนที่เริ่มมีรถหนาตามากยิ่งขึ้น ส่วนพิตตนันท์มองไปที่ด้านนอกเช่นกัน สลับกับมองเสี้ยวใบหน้าของชายหนุ่ม
“เธอรู้จักไอ้หมอนั่นนานเท่าไหร่แล้ว” เสียงของกัณติพัฒน์เอ่ยถามออกมาทำลายความเงียบ
“ใครคะ” พิตตนันท์เอ่ยถามอย่างใสซื่อ เพราะไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นในความหมายของเขาคือใคร