13

1130 คำ
13 “มีเยอะหรือไงผู้ชายเนี่ย..ถึงจำไม่หวาดไม่ไหว” เขาสวนกลับด้วยคำพูดแดกดัน จ้องดวงหน้าของเธอนิ่งส่งสายตาพิฆาตมาให้หญิงสาว ที่นั่งก้มหน้างุดหลีกหนีสายตาคมกริบคู่นั้น “ปะ..เปล่าคะ..ไม่เคยมีค่ะ” เธอตอบเสียงเบาคำตอบของเธอทำให้เขายิ้มเหยียดที่มุมปาก รู้ดีว่าสาวน้อยหน้าหวานคนนี้ไม่เคยมีชายใดมาก่อน นอกจากเขาและจะเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่ได้ครอบครองเธอ “ผู้ชายที่เดินกลับมาบ้านพร้อมเธอไง..เป็นใคร” น้ำเสียงที่ถามมีความอ่อนนุ่มลงเกือบครึ่ง แต่ยังคงความเข้มไว้ในระดับหนึ่ง “อ๋อ!!..พี่วิน..รู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ..ก็เลยสนิทกัน..นิสัยดี อ่อนโยน..คอยช่วย...” “พอแล้วไม่อยากฟัง” เขาพูดแทรกเสียงหนักขุ่นมัว ทำให้พิตตนันท์กลืนคำพูดทุกคำลงไปในลำคอทันที เขารู้สึกหงุดหงิดที่เธอเอ่ยสรรพคุณความดีของชายที่ไม่ชอบหน้าเมื่อแรกเห็นให้เขาฟัง จนอยากกลับไปที่บ้านสวนเพื่อไปชกหน้าของไกรวินให้หายเจ็บใจ “ต่อไปนี้ฉันสั่งห้ามว่าอย่ายุ่งกับมัน อย่าคุยกับมัน ถ้าไม่ทำตามที่ฉันพูดมันเจ็บตัวแน่ และคนที่จะเจ็บตัวเป็นคนต่อไปก็คือเธอ” พิตตนันท์ถึงกับสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงของเขาที่ดังราวกับฟ้าผ่า “ทำไมล่ะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างสงสัย ไม่เข้าใจเหตุใดต้องห้ามเธอด้วย “ไม่ต้องถามทำตามที่ฉันบอกก็พอ..เข้าใจไหม..” เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม ถึงได้หวงและพอใจชายคนไหนที่เข้าใกล้แม่ดอกไม้ช่อสวยของเขาช่อนี้ รู้เพียงว่าดอกไม้อย่างพิตตนันท์จะมีเขาเพียงคนเดียวที่ได้ดอมดม ชายอื่นอย่าได้หวัง “ค่ะ” พิตตนันท์รับคำลิ้นรัว เมื่อสิ้นเสียงประกาศิตของเขา กัณติพัฒน์ชำเลืองมองร่างบางที่นั่งตัวลีบอยู่ที่เบาะติดกับประตู ท่าทางเธอคงจะหวาดกลัวเขาอย่างหนัก ดูจากมือที่ประสานกันนิ่ง ดวงตาที่หลบหลีกไม่มองหน้าเขา ร่างกายที่ค่อนข้างสั่น ทำให้เขาอดรู้สึกสงสารไม่ได้ ชายหนุ่มจึงขยับร่างเข้ามาใกล้เธอ ลำแขนหนาโอบที่ไหล่เนียนสวย ใช้ฝ่ามือลูบไปมาที่ต้นแขนของเธอเบาๆ ใช้นิ้วสะอาดเชยคางมนของเธอขึ้นมา มองสบตาสีสนิมของเขา “กลัวฉันเหรอ” เขาถามเสียงนุ่ม ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของเธอ จนสัมผัสถึงลมหายใจของกันและกัน เป็นความรู้สึกที่ซาบซ่านยิ่งนัก “ค่ะ” เธอตอบเสียงเบา หลุบตาต่ำไม่มองสบตาเขา “ไม่ต้องกลัว ถ้าเธอไม่ขัดใจฉัน..ทำตามที่ฉันบอก ฉันจะไม่ทำร้ายเธอและใครทั้งนั้น..ส่วนเรื่องยายไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะย้ายโรงพยาบาลมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน จ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลจนกว่ายายของเธอจะหาย” สิ้นคำพูดของเขาเรียวปากหนาทาบทับกลีบปากนุ่มของพิตนันท์ สอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาทักทายกับลิ้นละมุน เกี่ยวรัดแรกเร้าจนร่างบางสั่นสะท้าน เป็นนานกว่าที่กัณติพัฒน์จะตัดใจถอนเรียวปากของเขาออก “อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าเด็กดี..ต่อไปนี้เธอติดหนี้ฉันอยู่..และต้องชดใช้หนี้ทั้งหมดด้วยร่างกายของเธอ” เขาพึมพำอย่างพอใจ เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่ขัดขืนของพิตตนันท์ ต่อท้ายด้วยประโยคที่เสียดทานเข้าไปถึงหัวใจ หญิงสาวก้มหน้านิ่งหนีความละอายที่วิ่งแล่นเข้ามาในจิตใจ นี่เธอต้องเป็นนางบำเรอของเขาแล้วหรือนี่ หญิงสาวนึกอย่างอดสูอยู่ในใจ หากแต่เมื่อนึกถึงยายหอมความรู้สึกนั้นกลับฟื้นคืนมาเป็นกำลังใจให้ต่อสู้ กับอุปสรรคต่างๆ ที่รออยู่ตรงหน้า ก้มหน้ายอมรับชะตาที่เขาเป็นผู้ลิขิต ลำแขนหนาที่พาดอยู่ที่เอวบาง ถูกยกขึ้นอย่างเบามือ ก่อนจะนำมาวางบนที่นอน พิตตนันท์ก้าวลงจากเตียงอย่างเบาที่สุด เพราะไม่อยากให้เจ้าของห้องตื่นจากนิทราอันแสนสุข ตลอดค่ำคืนทั้งสองดื่มด่ำกับการเสพสม ทั่วทั้งห้องตลบอบอวลไปด้วยเสียงแห่งความสุข ที่ดังไม่ขาดสายและเงียบสงบลงเมื่อรุ่งสาง หญิงสาวใช้เวลาชำระร่างกายไม่นาน ก่อนจะเดินออกมาเพื่อแต่งตัวไปเรียนหนังสือ โดยไม่รู้ตัวว่าเจ้าของห้องกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่หัวเตียง “ไปไหนแต่เช้า” กัณติพัฒน์ถามเสียงเข้ม มองดวงหน้าและร่างกายสาวที่มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวเท่านั้น “ไปเรียนค่ะ ต้นข้าวมีเรียนตอนแปดโมงครึ่ง” พิตตนันท์ตอบ ก่อนจะนำชุดนักศึกษาที่พับอยู่ในกระเป๋าเดินทางออกมา พร้อมกับบราและอันเดอร์แวร์เข้าไปในห้องแต่งตัว และเดินออกมาหลังจากเวลาผ่านไปสิบห้านาที พิตตนันท์เดินมาทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หยิบหวีขึ้นมาสางผมยาวสลวยรวบไว้กลางศีรษะและรัดด้วยหนังยางเส้นหนา กัณติพัฒน์นั่งมองหญิงสาวแต่งตัวอย่างเพลิดเพลิน และไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ส่งสายตาหวานเยิ้มผ่านกระจกใสบานใหญ่ ทำให้หญิงสาวที่ปะทะสายตาคมกล้าในกระจกต้องหลบเป็นพัลวัน เขาสะบัดผ้าห่มที่คลุมกายออก ลุกขึ้นยืนโดยไม่อายสายตาของเธอ ที่มองร่างของเขาผ่านกระจกใส คนที่อายกลับเป็นเธอเองต่างหาก “รอก่อนฉันจะไปส่ง” เขาพูดสั้นๆ ก่อนจะเดินเปลือยกายเข้าไปในห้องน้ำ โดยที่ไม่คิดจะเอาอะไรมาปิดบังร่างกาย ดอกไม้แสนสวยอย่างพิตตนันท์ถึงกับก้มหน้างุดหนีความอายแทน หนึ่งชั่วโมงต่อมารถยนต์คันงามของกัณติพัฒน์ แล่นมาจอดที่หน้าคณะที่พิตตนันท์เรียน มือบางกำลังจะเปิดประตูรถยนต์ หากแต่ลำแขนหนาตวัดร่างของเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดเสียก่อน “เอ่อ..ต้นข้าวจะไปเรียนแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงเบา ไม่กล้าผลักร่างหนาของเขาให้ออกห่าง ได้แต่ก้มหน้าหนีสายตาที่ลามเลียของเขา “เลิกเรียนกี่โมง” เขาถามขณะที่ใช้ปลายจมูกสูดดมที่พวงแก้มเนียนใสหลายครั้ง “เลิกเรียนบ่ายสองค่ะ” “จะให้คนมารับ รออยู่ที่หน้าคณะนะ” เขาพูดก่อนจะจูบที่ริมฝีปากสีชมพูใสอย่างดูดดื่ม และผละออกอย่างแสนเสียดาย พิตตนันท์ถึงกับอายม้วนเมื่อถูกชายหนุ่มจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ดีที่ว่ารถคันนี้มีที่กั้นระหว่างตอน ไม่เช่นนั้นเธอไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม