10

1099 คำ
10 “ต้นข้าวเอาเงินมาจากไหน..มาจ่ายค่ารักษาพยาบาล” ไกรวินถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาทที่พิตตนันท์ส่งให้เจ้าหน้าที่การเงิน ใบหน้าหวานสวยซีดเผือดจากคำถามของเขา จะบอกได้อย่างไรเล่าว่าเงินที่ได้มานี้แลกกับความสาวของเธอ “ไปยืมเค้ามาค่ะ” เธอตอบเสียงเบา “ยืมใคร” “คุณมารุต..ลูกชายคุณนายผกา” “เค้าให้ยืมง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ ทุกทีจะให้ใครยืมแต่ละครั้งซักประวัติยาวเหยียดอย่างกับซักผ้า” ไกรวินรู้จักคุณนายผกาจอมขี้เหนียว ที่มีความเค็มอยู่รอบตัวดี ไม่มีทางที่จะให้ยืมเงินง่ายๆ แน่ “กู้คุณรุต ไม่ได้กู้คุณนายเสียหน่อย” พิตตนันท์ออกตัวแทนมารุต เพราะถึงยังไงเขาก็มีพระคุณต่อเธอ แม้ว่าข้อแลกเปลี่ยนจะทำให้เธอสูญเสียสิ่งที่มีค่าไปก็ตาม “เอาเถอะกู้ใครก็ไม่สำคัญ ได้เงินมารักษายายเท่านั้นก็พอ” ฐานะของไกรวินค่อนข้างดี ไม่ลำบากและขัดสนเรื่องเงิน หากแต่มารดาของไกรวินไม่ชอบพิตตนันท์ เพราะคิดว่าจะมาปอกลอกลูกชายของตน และนั่นเป็นสาเหตุให้ไกรวินไม่สามารถขอเงินมารดามาช่วยเหลือหญิงสาวที่เขาหลงรักได้ “พี่วินกลับก่อนก็ได้นะคะ ต้นข้าวจะขึ้นไปเยี่ยมยายหน่อย เหลือเวลาอีกชั่วโมงถึงหมดเวลาเยี่ยม” ห้องพักฟื้นที่ยายหอมนอนรักษาตัว หมดเวลาเยี่ยมสี่โมงเย็นตรง เพราะต้องการให้คนไข้ได้พักผ่อน “ไหนๆ ก็มาด้วยกันแล้วนี่ ก็ไปด้วยกันนี่แหละ” ทั้งสองจึงไปเยี่ยมยายหอมตามที่ตั้งใจไว้ ก่อนจะกลับบ้านพร้อมกันเมื่อหมดเวลาเยี่ยม ไกรวินและพิตตนันท์เดินกลับมาที่บ้านพร้อมกัน ในเวลาเกือบห้าโมงครึ่งเย็น สายตาหวานสวยของพิตตนันท์มองผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่ที่หน้าบ้าน หนึ่งในชายหลายคนนั้นทำให้เธอตกตะลึง ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเขาที่นี่ ฝีเท้าที่เดินด้วยจังหวะปกติ เริ่มผ่อนช้าลงราวกับว่าไม่อยากให้ถึงบ้านเร็วๆ “คุณรุตนี่นามายืนทำอะไรที่หน้าบ้านของต้นข้าว” ไกรวินพูดออกมาอย่างฉงน ชายหลายคนที่ไกรวินเห็น หนึ่งในนั้นมองเขาด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความเป็นมิตร ตรงกับความคิดของเขาที่ไม่ชอบหน้าชายร่างสูงใหญ่เจ้าของสายตาพิฆาตคนนั้นเช่นกัน หากแต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากเรียวงามของเธอ เพราะตอนนี้พิตตนันท์กำลังตื่นตะลึงกับสายตาของกันติพัฒน์ที่มองมา เป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “ต้นข้าวเป็นอะไรทำไมไม่เดินต่อ” ไกรวินหันมาหาร่างบางที่หยุดนิ่งไม่ยอมก้าวเท้าเดินต่อไป เขาจึงเดินกลับมาหาเธอพร้อมกับถามคำถาม “ปะ..เปล่าค่ะ ต้นข้าวไม่ได้เป็นอะไรแค่ตะคริวขึ้น” พิตตนันท์รีบแก้ตัว “เดินไหวหรือเปล่า..มาเดี๋ยวพี่ช่วยพยุงนะ” ไกรวินทำตามที่เขาพูด ลำแขนหนาอีกข้างโอบที่บ่าเนียนสวย อีกข้างจับที่เรียวแขนบาง พยุงร่างที่แข็งทื่อของเธอให้เดินก้าวต่อไป พิตตนันท์จึงก้าวเท้าที่เริ่มสั่นก้าวเดินไปอย่างเชื่องช้า โดยมีสายตาที่ดุกร้าวแข็งขึง ของกัณติพัฒน์มองตาไม่กะพริบ ยิ่งเข้ามาใกล้เธอยิ่งหวาดกลัวกับดวงตาคู่นั้น กลัวจับขั้วหัวใจ “เป็นอะไรต้นข้าว” มารุตเป็นฝ่ายถามเมื่อทั้งสองเดินมาหยุดที่หน้าบ้าน “ต้นข้าวเค้าตะคริวขึ้นผมเลยต้องพยุงมาครับ..ต้นข้าวกุญแจบ้านล่ะเดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูให้..ประตูปิดไว้สงสัยดาวเรืองไม่อยู่” พิตตนันท์ควานหากุญแจบ้านมือไม้สั่น เมื่อประสานตากับดวงตาสีเข้มที่เจิดจ้าด้วยเปลวเพลิง ไกรวินหยิบกุญแจบ้านที่เธอส่งมาให้ และนำมันไปไขประตูบ้าน “ต้นข้าวเข้าบ้านเถอะ เดินไหวหรือเปล่า..หรือจะให้พี่อุ้ม” ไกรวินพูดหน้าตาเฉย และจะทำอย่างที่พูดจริงๆ หากพิตตนันท์เดินไม่ไหว ทำให้คนที่ฟังหลายคนถึงกับอึ้ง และมองมาที่กัณติพัฒน์เป็นตาเดียว เมื่อชายหนุ่มตวัดมองไปที่ร่างไกรวิน ราวกับจะปลิดชีวิตไกรวินให้แดดิ้นตรงนี้ “มะ..ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวต้นข้าวเดินเข้าบ้านเอง..เอ่อ..คุณรุตมาที่นี่มีธุระอะไรคะ” พิตตนันท์พยายามเลี่ยงไม่มองใบหน้าของกัณติพัฒน์ที่ตอนนี้จ้องมาที่เธอนิ่ง “เข้าไปคุยในบ้านดีกว่า และช่วยบอกให้วินกลับบ้านไปก่อนนะ ก่อนที่วินจะไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน” มารุตกระซิบบอกกับพิตตนันท์ เพราะเขารู้จักนิสัยของเพื่อนรักดี และรู้ด้วยว่าตอนนี้พายุกำลังก่อตัวอยู่ในร่างกายของกัณติพัฒน์ พร้อมจะระเบิดสาดซัดใส่ไกรวินได้ทุกเมื่อ “พี่วินกลับบ้านไปก่อนดีไหมคะ..พี่วินบอกว่าวันนี้จะมีแขกมาที่บ้านไม่ใช่หรือคะ” “เออจริงสิพี่ลืมไปเลยว่าวันนี้คุณป้าของพี่จะมาที่บ้าน ดีนะที่ต้นข้าวเตือน แล้วคืนนี้พี่จะมานอนค้างเป็นเพื่อนนะ กลับก่อนนะครับคุณรุต” ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไกรวินมานอนค้างที่นี่ เขามานอนที่นี่หลายครั้งแล้วในระยะหลังที่ยายหอมล้มป่วย หากแต่คนที่ฟังอย่างกัณติพัฒน์ถึงกับลมออกหู หมายจะลุกขึ้นไปจัดการกับไกรวิน หากแต่มือหนาของมารุตจับมั่นที่ข้อมือหนาของเขา เหมือนเป็นการห้ามปรามไปในตัว ไกรวินเมื่อพูดจบหลังจากวางระเบิดไว้ลูกใหญ่โดยที่ตนเองไม่รู้ตัว เขาเดินกลับไปที่บ้านทันที “ไปไหนมา” เสียงเข้มของกัณติพัฒน์เอ่ยถาม หลังจากที่เงียบมานาน “ไปเยี่ยมยายมาค่ะ” เธอตอบเสียงเบา เลี่ยงที่จะไม่มองหน้าเขา “ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ” เขาเปิดประเด็น “เรื่องอะไรคะ” “เข้าไปคุยในบ้าน” กัณติพัฒน์ฉวยข้อมือของเธออย่างถือสิทธิ์ พร้อมกับลากจูงเธอเข้าไปในบ้านของหญิงสาว โดยที่มารุตและลูกน้องของเขาตั้งท่าจะเดินตามเข้าไปด้วย หากแต่บานประตูไม้ถูกกระแทกปิดลงอย่างแรง และเสียงลั่นกลอน ทำให้คนที่อยู่ด้านนอกรู้ว่าชายหนุ่มเลือดร้อนที่อยู่ด้านใน ต้องการคุยกับสาวเจ้าเพียงลำพัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม