ลินินเจ็บช้ำในอก กับคำว่ารักที่เขาเอ่ยถึงมัสลิน ตั้งแต่รู้จักกันมาปรัชญ์ดูแลปกป้องมัสลินมาตลอด ตัวเธอกลับกลายเป็นคนที่เขารังเกียจ หาเรื่องด่าว่ารังแกสารพัด ตั้งแต่เล็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ เขาไม่เคยมองเธอในแง่ดีสักครั้ง
“ฉันยอมรับว่าเกลียดแม่เธอ เกลียดเข้าไส้ ตัวเธอเองฉันก็เกลียด เกลียดไม่น้อยกว่าเกลียดแม่เธอหรอกนะ ยายผ้าป่าน”
ในขณะที่เขาบอกว่ารักมัสลิน เขามอบคำว่าเกลียดให้เธอได้ฟัง ใจของลินินร้าวเจียนแตกสลายกับถ้อยคำนั้น
“ฉันก็เกลียดนาย ไอ้หมาตลาด”
“หมาตลาด... ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหม ว่าถ้ากล้าเรียกฉันว่าหมาตลาดอีกจะโดนอะไร”
ปรัชญ์ตาลุกวาบด้วยความโกรธ หมดเวลาอ้อมโลก ตอนนี้ลินินควรได้รับโทษทัณฑ์ของเธอเสียที เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ยายผ้าป่าน ลอยนวลไปบนความทุกข์ของมัสลินอีกแล้ว
“ไอ้หมาตลาด ปล่อยนะ แกคิดจะทำอะไร”
ลินินหน้าตื่น เห็นแววตาวาววามของอีกฝ่ายแล้ว ขนลุกเกรียว
“ทำอะไรเหรอ ก็ทำให้ยายด็อกเตอร์อย่างเธอ เป็นเมียหมาตลาดอย่างฉันยังไงล่ะ อยากรู้นักว่ายายคุณนายจะกล้าเอาเธอใส่ตะกร้าล้างน้ำขายใครอีก”
ปรัชญ์ยิ้มร้าย จ้องมองร่างงามในวงแขนด้วยแววตาเกลียดชัง เขาจะทำลายลินินให้ย่อยยับ ให้สมกับที่อีกฝ่ายทำให้มัสลินต้องเจ็บช้ำ ยายคุณนายแพรพรรณต้องลิ้มรสความเจ็บปวดแบบที่มัสลินได้รับ
“ไม่นะ อย่าทำบ้าๆ นะ”
ลินินส่ายหน้าด้วยความกลัว แต่ปรัชญ์ไม่ฟังเสียงแล้ว เขาโถมตัวเข้าหา กระชากชุดสวยออกจากร่างงาม
แควก แควก แควก !!!
“กรี๊ดดด อย่านะ ไอ้หมาตลาด ปล่อยนะ!”
ลินินกรีดร้องด้วยความตกใจกลัว ใช้แรงทั้งหมดสะบัดตัวหนีจนหลุดออกมาได้ พาร่างที่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น วิ่งหนีไปรอบห้อง หยิบข้าวของปาใส่ปรัชญ์ชุลมุน ชายหนุ่มก็ไวเหมือนลิงหลบข้าวของได้พ้น ไปหล่นตกบนพื้นกระจายเต็มไปหมด ทั้งสองจ้องประลองเชิงกัน ต่างคนต่างเหนื่อยแต่ไม่มีใครยอมแพ้ใคร
“ฉันไม่ยอมให้นายทำอะไรบ้าๆ กับฉันหรอกนะ ไอ้หมาตลาด”
ลินินกำกระป๋องแป้งอาวุธชิ้นสุดท้ายที่พอหยิบฉวยไว้แน่น เธอยกแจกันทุ่มใส่ เขาก็หลบได้ หยิบกรอบรูปปาก็ไม่โดนตัว หนังสือตลับวีซีดีปลิวว่อนก็ไม่สามารถทำให้เขาหยุดคุกคามได้ มองไปรอบกายก็ไม่รู้จะร้องตะโกนให้ใครช่วย เมื่อบ้านหลังนี้อยู่ห่างจากบ้านหลังอื่นมาก แถมห้องของเขายังปิดแน่นไม่มีทางหนีรอดไปได้เลย หญิงสาวทั้งกลัวทั้งเหนื่อย หัวใจเต้นแรงทำงานหนัก มองจ้องคนตัวโตกว่าที่ตอนนี้เดินย่างสามขุมเข้ามาหาช้าๆ เขาต้อนเธอจนหลังติดฝาไม่มีที่ไปแล้ว
“หมดฤทธิ์หรือยัง ยายผ้าป่าน”
ปรัชญ์จ้องมองหญิงสาวที่พาตัวเองหนีไปจนมุมที่หน้าห้องน้ำ ชุดเดรสกระโปรงยาวของเธอถูกเขากระชากจนช่วงอกขาด เธอหอบหายใจแรงจนทรวงอกสะท้อนไปมามองเห็นปทุมคู่งามรำไร ใบหน้าขาวแดงจัดสายตาหลุกหลิกไปมา ตื่นตระหนกน่าสงสาร แต่เขาไม่มีทางสงสารเธอหรอก เขาเกลียดแม่ของเธอมากและเกลียดเธอไม่แพ้กัน เกลียดไอ้คำพูดดูแคลน ท่าทางเชิดหยิ่ง อยากจะสยบคนอวดดีให้หายโอหัง ชายหนุ่มเดินเรียดเท้าเข้าไปหาช้าๆ จ้องเธอราวกับเสือจ้องกวางสาว หัวใจเต้นรัวแรงอย่างนักล่าที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อ
“อย่านะ อย่าเข้ามานะ นี่แหนะ ว้าย!”
ลินินร้องห้ามพร้อมกับปากระป๋องแป้งใส่หน้าปรัชญ์ ชายหนุ่มเอียงหน้าหลบทัน เขากระโจนเข้าไปรวบตัวเธอกดไว้กับผนังห้อง จับข้อมือที่กำหมัดทุบตีเขาเหนือศีรษะ หญิงสาวพยายามขืนกายให้เขาปล่อยเธอ แต่ร่างหนากว่าเบียดแนบใช้นำหนักกดตรึงเธอไม่ให้ดิ้นหนีอีก
“ปล่อยนะ ปล่อยฉัน...” ลินินส่ายหน้า ไม่ยอมให้เขาเข้ามาใกล้
“อยากให้ฉันปล่อยก็หยุดดิ้นสิ”
ปรัชญ์ถอนหายใจแรง กว่าจะจับยายผ้าป่านได้เขาเกือบแย่ ยายตัวแสบยังพยศเหมือนเดิม สายตาคู่เรียวมองใบหน้างามของหญิงสาว ในระยะใกล้จนแทบใช้ลมหายใจร่วมกัน เขามองสำรวจดวงตาคู่สวยยามนี้มันตื่นตระหนก มีน้ำตาคลอขอบตาจนขนตาเปียกชื้น จมูกโด่งเล็กหายใจแรง ริมฝีปากสั่นระริก สีแดงระเรื่อ แก้มนวลที่เขารู้ดีว่านิ่มแค่ไหนอยู่ใกล้ปลายจมูกจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสาบสาว ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาหา กระตุกยิ้มร้ายเมื่อเธอเบือนหน้าหนี จมูกโด่งงามกดลงบนแก้มนวล ริมฝีปากทาบบนผิวขาว ใช้ทั้งสองสัมผัสเธอพร้อมกัน
ฟอด...
“อืม แก้มหอมเหมือนเดิมเลยนะ”
เขากดจมูกย้ายไปหอมอีกข้าง หัวเราะในคอเมื่อเห็นเธอเกร็งตัว เบือนหน้าหลบไม่ยอมให้เขาหอม นั่นมันยั่วให้ชายหนุ่มอยากกลั่นแกล้งรังแกยายผ้าป่านให้สาสมใจ
“อย่านะ อย่าทำแบบนี้เลยนะ”
ลินินพยายามอ้อนวอน น้ำตาคลอด้วยความหวาดหวั่น แก้มนุ่มตกเป็นเหยื่อจมูกและริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาทั้งสองข้าง จุมพิตของเขามันทำให้เธอใจสั่น ทั้งกลัวทั้งวาบหวาม หัวใจไม่รักดีมันเต้นแรง ร่างหนาของเขาแนบชิดกดตรึงเธอไว้จนดิ้นไม่หลุด ปล่อยให้เขารุกรานรังแกอย่างไร้ทางหนี
“กลัวหรือยายผ้าป่าน รู้ไหมเพราะเธอ ทำให้มัสถูกโจรลักพาตัวไปข่มเหง”
เขาเอ่ยเสียงกร้าว ดวงตาลุกวาบด้วยความแค้น มือกระชากชุดของหญิงสาวจนขาดวิ่น มัสลินต้องเคราะห์ร้ายเพราะถูกแพรพรรณหลอกให้แต่งงานแทนลินิน จนถูกโจรลักพาตัวไปข่มเหง ลินินลอยตัวจากปัญหามีชีวิตที่เลิศหรู ในขณะที่มัสลินท้องไม่มีพ่อ ต้องเลี้ยงลูกตัวคนเดียว ทนถูกคนนินทา ลินินไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นความทุกข์ของน้องสาว ทั้งๆ ที่ทุกสิ่งเกิดจากการกระทำของแม่ของเธอ
“อย่านะ ฮือ... ฉันไม่รู้เรื่องด้วย นายอย่าทำอะไรฉันนะ”
ลินินดิ้นหนีแต่ถูกเขาจับกดไว้แน่น มือของเขาข้างหนึ่งกระชากเสื้อผ้าออกจากตัวเอ จนเหลือเพียงชั้นในสองชิ้น เขาลากตัวเธอมาโยนลงบนเตียง โถมตัวเข้ามากอดรัด ริมฝีปากกดจูบดุดัน กลบเสียงร้องของเธอ มือก็ดึงทึ้งอาภรณ์ชิ้นน้อยสองชิ้นออกจากกายเธอจนมันขาดคามือ หญิงสาวร้องไห้ด้วยความกลัว พยายามขัดขืนแต่คนตัวใหญ่ใช้ร่างของเขากดทับเธอไว้ ยิ่งดิ้นยิ่งหมดแรง ในที่สุดหญิงสาวก็ต้องนอนนิ่งปล่อยให้เขารังแก น้ำตาไหลอาบแก้ม
“รู้ไหม มัสถูกโจรข่มเหงรังแก มัสต้องอุ้มท้องพี่ไม้ ทนตากหน้าเลี้ยงลูกให้คนนินทา ในขณะที่เธอกับพ่อแม่ของเธอ ใช้เงินมรดกของมัสอย่างสุขสบาย ห้าปีเชียวนะที่ฉันต้องเห็นมัสร้องไห้”
ปรัชญ์ตอกย้ำสิ่งที่ลินินไม่เคยรู้ให้ฟัง หญิงสาวตัวสั่นเทาน้ำตาไหลพราก ส่ายหน้าไปมาเหมือนไม่อยากรับฟังอะไรอีกแล้ว
“ได้โปรดเถอะ อย่าทำกับฉันแบบนี้ ฮือ... นายจะเอาความแค้นมาลงที่ฉันทำไม ฉันไม่ผิดนะ”
“ไม่ผิดเหรอ ยังกล้าพูดแบบนี้ สำนึกสักนิดมีไหม”
ปรัชญ์โมโหจนแทบอยากบีบคอคนพูดให้หักคามือ เขาหวังให้ลินินสำนึกบ้าง แต่พูดไปก็เจ็บคอเปล่า เมื่อเธอไม่รับฟัง ไม่ยอมรับผิด ไม่สนใจว่าสิ่งที่เขากรอกหูไป คือสิ่งที่แม่ของเธอกระทำกับมัสลินอย่างเลวร้าย
“ฮือ... นายมันดีแต่รังแกฉัน เกลียดฉันมากใช่ไหม อยากให้ฉันเจ็บปวดเท่าไหร่ถึงจะสะใจนาย”
ลินินถามเขาออกไป หัวใจเจ็บช้ำกับการกระทำร้ายกาจของเขา ทำไมเขาถึงทำร้ายเธอ รังเกียจ รังแกเธอ เพื่อมัสลินหรือเขาถึงทำแบบนี้
“ใช่ ฉันเกลียดเธอ เกลียด... อ่า”
ปรัชญ์บีบคางหญิงสาว ก้มลงไปบดขยี้ริมฝีปากอิ่ม ระบายอารมณ์คุคลั่งในใจจนริมฝีปากสวยบวมเจ่อ เขาถอนปากออกมาหอบหายใจแรง จ้องหน้าเปื้อนน้ำตาของเธอด้วยแววตาเกลียดชัง