ตอนที่ 9.

1444 คำ
“ยังโง่เหมือนเดิมเลยนะยายผ้าป่าน แต่ก็ดี... โง่แบบนี้แหละ ง่ายดี” “อย่าทำอะไรฉันนะ เป็นบ้าไปแล้วเหรอนายปอนด์!” ลินินผลักไส รู้สึกหวาดหวั่นกับท่าทางเหมือนคนบ้ากามของปรัชญ์ เขาบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้คิดทำแบบนี้ หรือเขาจะรู้เรื่องที่แม่ของเธอทำร้ายมัสลินเลยโมโห “ฉันไม่ได้บ้า แต่ฉันกำลังจะสั่งสอนยายผ้าป่านอย่างเธอให้รู้สำนึก”เขายื่นหน้าลงมาหา เอ่ยเสียงเครียด “ฉันไปทำอะไรให้นาย” ลินินยันหน้าอกเขาไม่ให้เข้ามาใกล้ ใจเต้นแรงด้วยความกลัว “หึ ยังมีหน้ามาถาม นึกว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าเธอกับแม่ทำอะไรมัสไว้ แม่เธอทำให้คุณยายตาย แย่งมรดกมัส ไม่พอยังไล่มัสออกจากบ้าน แค่นี้มันก็เกินให้อภัยแล้ว แต่คราวนี้ยังตามไปรังควาน  คิดแย่งผู้ชายให้ลูกตัวเองอีก เธอเองก็คงอยากได้ผัวจนตัวสั่นสินะ” สารพัดข้อกล่าวหาที่เขาพูดมา มันร้ายแรงจนลินินอดค้านไม่ได้ “ไม่ใช่นะ ฉันไม่เคยคิดแย่งคุณกริชจากมัส ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากับมัสเป็นคนรักกัน” “ไม่รู้ เหอะ แล้วตามไปด่า ไปตบมัสถึงบ้าน เด็กตัวเล็กๆ อย่างพี่ไม้ก็ไม่ละเว้น หรือจะเถียงว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วย เถียงมาสิยายผ้าป่าน” ปรัชญ์เขย่าร่างของหญิงสาวด้วยความโมโห เขาเกลียดแพรพรรณและเกลียดลินินไม่แพ้กัน ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้เชื้อไม่ทิ้งแถว เขาว่าดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่ ไม่ผิดเลยจริงๆ “ฉันห้ามคุณแม่แล้ว แต่เหตุการณ์มันชุลมุน ฉันทำอะไรไม่ได้ ฉันมาที่นี่ตั้งใจมาขอโทษมัส ฉัน...” ลินินพยายามอธิบาย แต่คำพูดของเธอ เหมือนคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น เขาจับคางหญิงสาวให้หยุดพูดจา “ตอแหล... จะมาดูว่ามัสเป็นยังไงมากกว่า คุณกริชเขาบอกฉันว่า แม่เธอวางแผนให้พ่อเขาขู่ว่าจะตัดเขาออกจากกองมรดก หากไม่ยอมหมั้นกับเธอ วางแผนกันมาเสียดิบดีนะ แต่ขอโทษเถอะ คุณกริชเขาไม่เอาเธอหรอก เขาเห็นเปลือกเน่าๆ ของเธอสองแม่ลูก เขาเลยกลืนไม่ลง” ปรัชญ์เหยียดยิ้มหยันสาดคำพูดให้คนฟังเจ็บช้ำ ยิ่งเห็นใบหน้าซีดๆ ของเธอ เขายิ่งสะใจ พ่นคำพูดบาดหูไม่หยุด “ด็อกเตอร์ลินิน เธอมีดีแค่การศึกษาสูง แต่สันดานของเธอมันต่ำตมเหมือนแม่ ไอ้หน้าสวยดีกรีสูงๆ มันแค่เปลือกที่คลุมของเน่าเหม็นเอาไว้” “หยุดนะ อย่าลามปามแม่ของฉัน นายมันก็ไม่ได้มีดีอะไร แค่ลูกแม่ค้าขายขนม ถ้านายเก่งจริงนายคง ไม่มาเป็นลูกน้องฉันอย่างทุกวันนี้หรอก” ลินินสุดจะทนไหว โต้ตอบเขาคืนบ้าง “เหอะ นี่ไงธาตุแท้สันดานดั้งเดิมของเธอ ชอบดูถูกคน ยกตัวเองว่าสูงส่ง จบด็อกเตอร์แล้วไง ภูมิใจเหรอที่เอาเงินทองของคุณยายกับมัสไปส่งตัวเรียนเรียนจนจบ รู้ไหมว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่แม่เธอเอาให้เธอใช้ ให้เธอยกระดับตัวเอง มันเป็นเงินของมัส” “ไม่จริง คุณแม่ไม่ได้โกงมรดกของมัส คุณยายทำพินัยกรรมยกทุกอย่างให้คุณแม่อย่างถูกต้องหลักฐานก็มี นายอย่ามาปากเสีย ใส่ร้ายแม่ฉันนะ” ลินินค้านเสียงแข็ง เชื่อมั่นในสิ่งที่มารดาบอกมาตลอด มรดกของคุณยายมีพินัยกรรมรับรองถูกต้อง เธอเห็นฉบับที่มารดาถ่ายเอกสารเก็บไว้ ปรัชญ์มากล่าวหากันแบบนี้ เธอขอเถียงขาดใจ “ใส่ร้ายเหรอ เบิกตากว้างๆ แล้วมาดูอะไรนี่” ปรัชญ์กระชากลินินให้ลุกขึ้น แล้วคว้าโทรศัพท์ของเขา มาเปิดให้เธอดูคลิป ที่เขาถ่ายการสอบปากคำนางแววและเด็กอาหมี่ไว้ เพื่อเป็นพยานในการฟ้องร้องแพรพรรณ “วันนั้น คุณนายมาหาคุณท่าน บอกว่าคุณมัสโดนโจรจับตัวไป แล้วก็บังคับให้คุณท่านเรียกทนายมาเปลี่ยนพินัยกรรม ถ้าคุณท่านไม่ยอมจะไม่ช่วยเหลือคุณมัส คุณท่านเลยต้องยอมแต่ทำสัญญาไว้ว่า คุณนายต้องจ่ายเงินเดือนให้คุณมัสเดือนละห้าหมื่นบาททุกเดือน แต่คุณนายไม่ยอมจ่าย หาเรื่องไล่คุณมัสออกจากบ้าน” นางแววเล่าเหตุการณ์ย่อๆ ออกมา ลินินได้เห็นได้ฟังแล้วนิ่งงัน ไม่อยากเชื่อว่ามารดาของตนจะกล้าทำแบบนั้น “ยังไม่เชื่อใช่ไหม ฟังอาหมี่เล่าตอนที่คุณยายตายสิ”  ปรัชญ์เปิดคลิปของอาหมี่ให้ดู “คุณนายกับคุณผู้ชาย มาหาคุณท่านตั้งแต่เช้า เอาข่าวมาให้คุณท่านดู เรื่องพบศพผู้หญิงถูกฆ่า แล้วบอกว่าเป็นศพของคุณมัส คุณท่านตกใจจนช็อกชักกระตุก หนูบอกคุณผู้ชายให้เรียกรถพยาบาลมาพาคุณท่านไปหาหมอ แต่คุณผู้ชายกับคุณนายไม่สนใจ คุณท่านเสียใจ ตกใจจนช็อกแล้วก็ตายไปต่อหน้าหนู ฮือ... คุณนายใจร้ายมาก คุณผู้ชายก็ใจดำ ทำให้คุณท่านตาย ฮือ...” อาหมี่เล่าไปร้องไห้ไป เหตุการณ์ครั้งนั้น ยังสร้างความสะเทือนใจทุกครั้งที่นึกถึง “ไม่... ไม่จริง...” ลินินครางเสียงพร่า ความจริงที่รับรู้ทำให้เธอตัวชาไปหมด ใจหนึ่งบอกว่าไม่เชื่อ แต่อีกใจก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันอาจจะเป็นความจริง “หึ ไม่เชื่อหรือไม่ยอมรับความจริงกันแน่ เป็นแม่ลูกกันทำไมถึงไม่รู้เรื่องพวกนี้” ปรัชญ์จับไหล่ของหญิงสาว บีบแน่นด้วยความโมโห  ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมรับความจริง “คุณแม่ไม่มีทางทำแบบนั้น...” ลินินแก้ตัวเสียงแผ่ว ขอบตาร้อนผ่าว จุกแน่นในอก จะให้เชื่อว่าแม่ตัวเองเลวร้ายเธอทำใจเชื่อไม่ไหว ถึงท่านจะปากร้าย แต่ท่านคงไม่เลวถึงเพียงนั้น คนเป็นลูกยังคิดในแง่ดี “ไม่มีทางเหรอ เธอเรียนจบด็อกเตอร์ห้องแถวมาเหรอ ถึงได้โง่แบบนี้ ไม่เปิดตามองดูความจริงบ้าง มัสถูกแม่เธอทำร้ายสารพัด คุณยายนอนเป็นผักลุกไปไหนไม่ได้ เธอเคยไปดูไหม” “ตอนคุณยายป่วย ฉันไปเรียนโทที่เมืองนอกนายก็รู้ พอฉันกลับมาคุณแม่ก็จะให้ฉันแต่งงาน ฉันไม่ได้ตั้งตัวอะไรเลย ตอนคุณยายเสียฉันอยู่ที่อเมริกา ฉันไม่ได้กลับมาตอนเผาท่านด้วยซ้ำ”   คำอธิบายของลินิน เหมือนคำพูดของคนปัญญาอ่อน ในความคิดของปรัชญ์ หญิงสาวเอาแต่ร่ำเรียนไม่สนใจใคร จบปริญญาตรีก็ไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก พอกลับมาก็วางท่าเป็นคุณหนูดอกฟ้าทำเชิดใส่เขา ยอมให้แม่จับคลุมถุงชนแต่งงานกับลูกชายเจ้าสัวใหญ่ สุดท้ายกลับหนีไปอยู่เมืองนอก หลอกให้มัสลินรับกรรมแทน “แล้วรู้ไหมว่าแม่เธอ หลอกมัสไปแต่งงานกับลูกชายท่านเจ้าสัวแทนเธอ” “นายเอาอะไรมาพูด คุณแม่บอกฉันว่า ท่านยกเลิกการแต่งงานไปแล้ว เพราะรู้ว่าลูกชายท่านเจ้าสัวเป็นเกย์ ท่านให้ฉันไปพักผ่อนที่อเมริกาในช่วงนั้น หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็ย้ายตามไปอยู่ที่นั่นกับฉัน ห้าปีแล้วฉันเพิ่งกลับมาเมืองไทย จะให้ฉันเชื่อในสิ่งที่นายพูดเหรอ” ลินินยังไม่ยอมเชื่อ “เธอเชื่อพ่อแม่เธอทุกอย่าง แต่ไม่เชื่อคนอื่นสินะ ยายด็อกเตอร์ปัญญานิ่ม เอ๊ย!” ปรัชญ์สบถอย่างเหลืออด “นายต่างหากที่ปัญญาอ่อน เรื่องในครอบครัวของฉัน มันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย” หากทุกอย่างเป็นความจริง มันคือเรื่องในครอบครัวของเธอ คนนอกอย่างปรัชญ์มีสิทธิ์อะไรมายุ่งเกี่ยวด้วย “ถ้าเรื่องนั้นมันเกี่ยวข้องกับมัส ฉันจะต้องเกี่ยวข้องด้วยให้ได้ ฉันไม่ยอมให้เธอกับแม่ทำร้ายมัสอีกต่อไปแล้ว เท่าที่ผ่านมาฉันปกป้องมัสไม่ได้ ฉันก็รู้สึกผิดต่อคุณยายจะแย่” “นายรักยายมัสมาก จนออกหน้ามาทำทุกอย่างเพื่อยายมัสเลยหรือ” ลินินกัดฟันถามไป “ใช่ ฉันรักมัสมาก ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อมัส และฉันจะทำทุกวิธี เพื่อปกป้องมัส” ปรัชญ์ประกาศกร้าว เขารักมัสลินในฐานะไหนนั้น ไม่จำเป็นต้องบอกให้ลินินรู้ แต่ความปรารถนาดีของเขาต่อมัสลิน เธอต้องรู้ข้อนี้เอาไว้ “หึ รวมถึงการที่นายคิดจะทำร้ายฉันด้วยใช่ไหม นายโกรธเกลียดฉันกับแม่แทนยายมัส นายหาเรื่องมากลั่นแกล้งฉันเพราะยายมัสหรือเปล่า” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม