7
“คุณชื่ออะไร คุณยังไม่ได้บอกเลยนะ” ปฐพีแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง เขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นพร้อมกับยกมือเขี่ยหู ทำท่าทางว่าไม่ค่อยได้ยินชื่อที่คนตรงหน้าแนะนำ
“ฉันจะไปทำงานค่ะ คราวนี้คุณคงจะให้ดิฉันไปได้แล้วนะคะ”
“ทำงานเหรอ” ปฐพียังคงเดินตามนราวดี สอดมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ทำท่าทางครุ่นคิด
“ทำที่ห้องไหน ตำแหน่งอะไรล่ะ ผมก็ทำงานที่นี่นะ อืม... ทำไมผมไม่เคยเห็นคุณเลยล่ะ” ปฐพีถามอย่างอยากรู้ทั้งที่ดีใจสุด ตอนนี้เขาย้ายตัวเองมาทำงานที่นี่อาทิตย์ล่ะ 2-3 วันอยู่แล้ว ยิ่งถ้าคนสวยน่ารักแบบนี้ให้มอง เขาก็ยินดีจะมานั่งที่นี่ทุกวันเหมือนกัน
“น่า...บอกหน่อยนะคุณ ทำงานของบริษัทไหนในตึกนี้ แล้วก็ทำตำแหน่งอะไร เผื่อผมจะพอรู้จักมักคุ้นบ้าง ผมรู้จักคนเยอะอยู่นะ”
“ค่ะ ฉันยอมรับว่าคุณคงจะรู้จักคนเยอะ ถ้าจะใช่อีกก็คงจะเป็นพวกผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้วย ก็คุณปากหวานและตื๊อเก่งเสียเหลือเกิน” นราวดีรู้สึกแปลกๆ ที่ตัวเองกล้าต่อปากต่อคำกับชายคนนี้ แล้วยังเดินคู่กับเขาไปจนถึงประตูกระจกใสที่เขียนไว้ว่า T & R Communication
ปฐพีอมยิ้มเมื่อเห็นนราวดีเดินเข้าไปที่ไหน ก่อนโทรศัพท์ในกระเป๋าสั่นขึ้นขัดจังหวะความสำราญใจ
“ถ้าอย่างนั้นผมส่งคุณแค่นี้ละกัน ว่าแต่เที่ยงนี้ไปทานอะไรกับผมได้ไหม ผมเลี้ยงเอง ถือว่าเป็นการต้อนรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่” ปฐพียืนอิงกระจกแก้ว เลิกคิ้วมองฝ่ายตรงข้ามใบหน้าแย้มยิ้ม
“อย่าเลยค่ะ ขอบคุณที่หวังดี แต่ฉันยังไม่อยากถูกผู้หญิงที่คุณควงอยู่ฉีกอกเอา” นราวดีรีบปฏิเสธและจะรีบเดินเข้าไปในบริษัทก่อนที่จะโดนหนุ่มดินรุกไล่มากไปกว่านี้ แค่นี้หัวใจเธอก็เต้นตุ่มๆ ต่อมๆ ไม่เป็นจังหวะอยู่แล้ว ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าหนุ่มหล่อปากหวานตรงหน้าจะให้ความสนใจในตัวผู้หญิงเรียบง่ายไม่มีเสน่ห์ที่เพิ่งจะพบเจออย่างเธอ
ปฐพีมองตามร่างบอบบางอย่างถูกใจ ผู้หญิงที่ไม่แต่งหน้าจัด แต่กลับน่ารักชวนมอง เธอปฏิเสธเมื่อเขาชวนผิดกับผู้หญิงคนอื่นที่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากก็วิ่งขึ้นไปนอนแผ่บนเตียงแล้ว ท่าทางอ่อนต่อโลกที่คิดว่าไม่เกินอาทิตย์เขาก็จะเธอได้มานอนกอดแนบอก แต่ปัญหาก็มีเหมือนกัน เพราะแม่เขานะหูตาเป็นสับปะรดที่จะต้องเรื่องเมื่อเขายุ่งเกี่ยวกับสายน้อยคนนี้ เพียงแค่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ใช่ว่าเขาจะกลัวนะแค่...เกรงใจ
โทรศัพท์ในกระเป๋ายังคงดังต่อเนื่องทำให้เขาต้องรับ “มีอะไรหรือแก้ว” ปฐพีถามเสียงเฉื่อยชา หลังๆ แก้วกัลยาตามติดเขามากเกินไป ทั้งที่ตกลงกันแล้ว ความสัมพันธ์ที่เกิดไม่มีข้อผูกมัด ถ้าเขาคนที่ถูกใจก็พร้อมแยกกันได้ในทันทีโดยไม่ต้องบอก
"แก้วคิดถึงดินค่ะ ไม่เห็นดินโทรหาบ้างเลย” หญิงสาวตอบกลับเสียงหวานและออดอ้อนอย่างที่คิดว่าคนฟังจะต้องรู้สึกไม่ดี
“วันนี้ดินมาหาแก้วนะคะ แก้วมีของขวัญที่จะเซอร์ไพรส์ด้วย” ขอเพียงแค่ชายหนุ่มมาหาเธอเท่านั้น ไอ้ที่หวังว่าจะได้ของชิ้นเล็กแต่ราคาเหยียบแสนนั้นไม่ยากเลย ถ้าหากออดอ้อนให้ปฐพีพอใจอีกหน่อย เธออาจจะได้พ็อกเก็ตมันนี่ไปเที่ยวเกาหลีหรือญี่ปุ่นก็ไม่ยากจนเกินฝัน แก้วกัลยาคิดฝันไปไกลสุดกู่
"ไม่ละแก้ว วันนี้ผมต้องทำงาน “ปฐพีปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“ไปทานข้าวกันก็ได้คะ”
“แม่ใช้ให้ผมกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้านด้วย บอกว่ามีเรื่องจะคุย ก็คงจะเป็นเรื่องเก่าๆ เดิมๆ นั่นแหละ" ปฐพีดึงชื่อมารดาขึ้นมาเป็นข้ออ้างเพื่อตัดความสัมพันธ์กับแก้วกัลยา เพราะเบื่อกับการตามตื๊อและไถเงินเก่งของหญิงสาวแล้ว
"เหนื่อยมากไหมคะ ปกติเห็นดินนั่งโต๊ะเซ็นแต่เอกสารอะไรก็ไม่รู้เป็นกองๆ เลย ดินคงเหนื่อยมาก มาหาแก้วสิคะ จะให้แก้วไปหาหรือว่าดินมาที่นี่คะ”
“ไม่ต้องหรอกแก้ว”
“ไม่ได้ค่ะ แก้วเป็นแฟนดิน มีหน้าที่หาวิธีทำให้ดินหายเหนื่อย” แก้วกัลยาตอบใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่
"บอกว่าไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไรสิแก้ว” ปฐพีตวาดใส่
"ไม่มีอะไรอีกใช้ไหมแก้ว ผมจะได้วาง" ปฐพีมองไปรอบๆ บริษัทในเครือของตระกูล เพราะเป็นลูกชายคนเดียว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดจึงเป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องรับผิดชอบ ที่จริงเขาก็ยังมีน้องอีกคนแต่สร้อยสุรางค์เป็นผู้หญิง คุณหญิงสร้อยสุดามารดามีความเห็นว่าไม่ควรรับผิดชอบงานใหญ่เกินตัว จึงให้เรียนรู้งานในเฉพาะบางตำแหน่งเท่านั้นเอง
ความเหนื่อยหน่ายทำให้ปฐพีเดินออกจากห้องทำงานและขับรถตรงกลับบ้านหลังใหญ่ในทันที
"อุ้ย! ตายแล้ว สงสัยวันนี้ฝนคงจะตกหนักแน่เลย พี่ดินกลับบ้านตั้งแต่ตะวันยังไม่ตกดิน" สร้อยสุรางค์กระแนะกระแหนจิกกัดพี่ชายที่ก้าวลงจากรถด้วยสีหน้าและท่าทางที่ไม่ค่อยจะสดชื่นเท่าไหร่
“ว่าแต่พี่ชายสุดหล่อไปทำอะไรมาหรือคะ ทำไมหน้าตาถึงเป็นแบบนี้ล่ะโทรมเหมือนกับโดนใครฟัดมาอย่างงั้นแหละ”
“ทำไมยายสุรางค์ ฉันจะกลับบ้านเร็วไม่ได้รึไง" ปฐพีถามน้องสาวอย่างเอาเรื่อง ตีหน้าบึ้งตึพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่แทนที่สร้อยสุรางค์ที่ไม่กลัวเกรงพี่ชายสาวเลย ยายตัวแสบยังหัวเราะเสียจนเสียงดังลั่นบ้าน
"เปล่า น้องสาวคนสวยก็แค่คิดว่าวันนี้พี่ดินคงจะไม่มีคิวให้กับน้องแก้ว น้องส้ม น้องขวัญ น้องอะไรต่ออะไรของพี่มาช่วยผ่อนคลายอารมณ์ให้สิคะ" สร้อยสุรางค์จิกกัด ความเจ้าชู้ของพี่ชายที่มีผู้หญิงรายรอบไม่ว่าจะไปที่ไหนพี่ชายจะต้องมีสาวๆ สวยๆ ควงเสมอ รถไฟชนกันก็มี จนเธอกับแม่กลัวว่าจะมีสักวันที่พี่ชายจะกลับไม่ถึงบ้าน เพราะถูกดักตีหัวระหว่างทางก่อนจะถึงบ้าน โทษฐานที่เจ้าชู้เรี่ยราดควงหญิงสาวสวยไม่ซ้ำหน้า
"เอ๊ะ...หรือว่าพี่ชายสุดหล่อจะเบื่อคู่ควงคนปัจจุบันอย่างแม่แก้วกัลยาผู้แสนจะอวบอิ่ม พี่ดินสุดหล่อคิดจะหาหมอนข้างใบใหม่อีกแล้วใช่ไหมคะ” สร้อยสุรางค์แซวพี่ชาย ท่าทางเหมือนกับแบกโลกไว้ทั้งใบแบบนี้ คงจะต้องรำคาญแก้วกัลยาเอามากๆ แน่
“คราวนี้พี่ดินสุดหล่อจะไปหลอกสาวที่ไหนอีกละคะ ระวังกรรมจะตามสนองนะ แล้วจะหาว่าน้องสาวคนสวยไม่เตือน”
ปฐพีเดินเข้ามาโอบไหล่สร้อยสุรางค์ “แกนี่ปากเสียจริงๆ เลยยายสุรางค์ อย่างพี่ชายแกนะหรือจะมีวันนั้น ไม่หรอก คนอย่างฉันนายปฐพี มีแต่ทิ้งสาว แต่ไม่เคยโดนสาวทิ้ง เข้าใจไหมแม่น้องสาวคนสวย “ปฐพียิ้มกับเสียงราวกับนกแก้วนกขุนทองของสร้อยสุรางค์
“คุณแม่ไม่อยู่หรือไงสุรางค์ ถึงได้ปล่อยให้แก่มาปล่อยหมาเล่นหน้าบ้านแบบนี้”
สร้อยสุรางค์ค้อนพี่ชายวงโต ทำปากขมุบขมิบด่าพี่ชาย เธอยกมือกอดอก ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด พลางมองพี่ชายตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างใช้ความคิด
“ถามจริงเหอะพี่ดิน พี่ไม่คิดอะไรกับยายฟ้าเพื่อนหนูบ้างเลยหรือไง ยายฟ้าก็หน้าตาสวยใช่เล่นอยู่นะ งานบ้านงานเรือนก็เก่ง ควงไปงานก็ได้ไม่อายใคร พี่ยังจะหาคนเก่งและสวยกว่าเพื่อนของสุรางค์ได้อีกหรือไง อีกอย่าง แม่ของเราก็เห็นดีเห็นงามไปด้วยนะ” แต่พ่อนะเฉย แม้แต่แม่ก็ยังเดาใจไม่ออก พ่อพอใจหรือไม่พอใจ
“เออ รู้แล้วน่าไม่ต้องมาทำบนเป็นแม่แก่หรอก แกจะหาแฟนไม่ได้เพราะขี้บ่นอย่างนี้แหละสุรางค์ ขี้บ่นจริงๆ " ปฐพียกมือขยี้ศีรษะน้องสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู ถึงจะกัดจิกกันไปบ้าง แต่เขาก็รักและเอ็นดูน้องสาวคนนี้เป็นที่สุด หากใครคนใดคนหนึ่งมีปัญหา เขาและสร้อยสุรางค์ก็จะร่วมมือกันเพื่อช่วยยับยั้งและขจัดปัญหานั้นให้พ้นไปจนได้