บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดมีแค่แสงฟ้าแลบที่เล็ดลอดเข้ามา ขอพูดตรงๆเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนอนโดยที่ไม่มีอาการเมาหรืออาการเหนื่อยจากการทำงานแถมยังมีผู้หญิงมานอนค้างที่ห้องโดยที่ไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียง
ขณะเปลือกตาผมค่อยๆปิดลงแต่จู่ๆก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกถึงการยุบของเตียง
"อือ อินดี้แกให้ฉันนอนพื้นเหรอ"
ผมนิ่วหน้าเมื่อยัยตัวแสบถีบผมลงจากเตียงก่อนที่ตัวเองจะครองเตียงของผม คงคิดว่านอนที่ห้องตัวเองสินะ แถมละเมอขึ้นเตียงผู้ชายอีกเพราะนึกว่าเตียงตัวเอง
"ยัยตัวแสบเธอขึ้นมานอนเองนะ" ทว่า ต้องชะงักเมื่อแขนเจ้าของร่างบางยกขึ้นมาพาดเอวผมพร้อมกับขาที่พาดขาของผม "ปิงปิงแกหอมจัง"
"เห๊อะ" ผมเค้นหัวเราะมองยัยตัวแสบที่กำลังใช้จมูกถูหน้าอกผม ปิงปิงที่ละเมอถึงคือใคร ถ้าให้ผมเดาถ้าไม่หมาก็แมว
สุดท้ายผมก็สอดแขนตัวเองใต้ศีรษะยัยตัวแสบก่อนจะกระชับกอดแน่นขึ้นไม่นานเปลือกตาก็ค่อยๆปิดลง ลองนอนกับผู้หญิงดูหน่อยก็แล้วกัน
09:00 น.
ฉันเผยยิ้มมือหนึ่งลูบปิงปิงหมาสุดที่รักฉันก่อนจะก้มลงจูบ แต่เอ้ะ ทำไมปิงปิงถึงไม่มีขนแถมผิวโคตรเนียนเลย ฉันขมวดคิ้วทั้งที่ยังหลับตาลูบไปรอบๆตัวปิงปิง ก่อนที่จะค่อยๆลืมตาขึ้น
"หยุดทำไม ไม่ลูบต่อล่ะ" ฉันได้แต่กระพริบตามองมือตัวเองที่สอดเข้าไปในเสื้อนอนเจได จึงชักมือตัวเองกลับทันที "นายทำอะไรฉัน ไอ้โรคจิต ไอ้..."
"เฮ้ ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกเธอลวนลาม" ฉันกระชับผ้าห่มแน่นพร้อมกับขยับจนชิดหัวเตียง
"นายนั่นแหละมาอยู่ที่ห้องฉะ..." ฉันกวาดสายตาไปรอบๆก็พบมามันไม่ใช่ห้องนอนฉัน
"นอกจากเพี้ยนแล้วยังความจำสั้นอีกนะ เธอจำไม่ได้เหรอว่าเธอมาค้างห้องฉัน แล้วเธอก็นอนพื้น"
"ใช่ แล้วฉันมานอนบนเตียงนายได้ยังไง หรือว่านายคิดไม่ซื่อกับฉัน น้อย ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้..ไอ้..."
ทว่า ฉันต้องเบิกตากว้างเมื่อร่างฉันถูกผลักให้นอนร่าบกับเตียงก่อนที่เจไดจะคร่อมฉัน "ถ้าเธอยังไม่เงียบให้ฉันพูด ตอนนี้ฉันอาจจะเปลี่ยนใจมาคิดไม่ซื่อกับเธอจริงๆก็ได้นะ"
"พะ..พูดมาสิ"
"เมื่อคืนเธอละเมอขึ้นมานอนบนเตียงฉัน แถมเมื่อเช้าเธอก็ยังลวนลามฉัน ลูบหน้าอกฉันซ่ะเคลิ้มเลยแถมยัง...จูบฉันอีกด้วย" จูบงั้นเหรอ ฉันทำแบบนั้นจริงเหรอ
"แบบนี้ใครกันแน่ที่คิดไม่ซื่อ"
"นะ..นายจะทำอะไร" ใบหน้าหล่อๆค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้จนจมูกของเราแตะกันมันทำให้ฉันประหม่ามากๆ "จูบคืนไง"
"เจได" ทั้งฉันและเจไดหันไปมองประตูที่เปิดออกก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งยืนมองพวกเราด้วยสีหน้าตะลึง ดะ เดี๋ยวนะ นี่มันพ่อเฮียไวน์แล้วก็เป็นพ่อของคนที่กำลังคร่อมฉันอยู่ ฉิบหายแล้ว
ฉันผลักเจไดออกก่อนที่จะหันไปมองคุณลุงกับคุณน้าที่ยืนมองพวกเราอยู่ "เอ่อ คือมันไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ"
"แต่งตัวให้เรียบร้อย ฉันจะรอข้างนอก" ฉันค้อนมองเจไดที่มีสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ก่อนที่เขาจะเดินหายไปในห้องน้ำ
ผ่านไปสิบห้านาทีตอนนี้ฉันนั่งตัวเกรงไปทั้งตัวเหมือนเจอตำรวจจับได้ว่าค้ายาอะไรประมาณนั้น "มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่ห้องลูกชายลุง"
"เห็นผมเป็นลูกชายด้วยเหรอครับ"
เพี๊ยะ!! ฉันยกมือตีแขนเจไดก่อนจะยิ้มให้คุณลุง ฉันรู้จักคุณลุงเพราะฉันเป็นน้องรหัสเฮียไวน์เลยได้เจอท่านบ่อยน่ะ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอในสถานการณ์แบบนี้ด้วย
"เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ" ฉันเม้มปากแน่นก่อนเริ่มบทสนทนา "เบลทำงานอยู่ในบ่อนนาย เอ่อ..พี่เจไดค่ะ พอดีเมื่อคืนฝนตกหนัก พี่เขาก็ชวนเบลมานอนที่ห้องเพราะกลัวจะเกิดอันตรายตอนขับรถไปส่งเบล แต่พวกเราไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมกันนะคะ"
พูดจบฉันก็หันไปมองเจไดที่ไม่แม้จะมองหน้าพ่อตัวเอง
"แล้วที่ลุงเห็นเมื่อเช้าล่ะ มันคืออะไร"
"ทำไม ผมจะทำอะไรพ่อต้องรู้ด้วยเหรอครับ"
ฉันหันไปมองค้อนเจไดทันที ปากนะปาก "มันคือเรื่องเข้าใจผิดค่ะ พอดีเมื่อเช้าหนูหน้ามืดเลยล้มลงพอดีพี่เจไดช่วยไว้ทันเลยอย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ" ฉันกัดฟันพูดพร้อมกับยิ้มอย่างนางเอก
"รู้แล้วก็รีบออกไปสิ จะอยู่ทำไม"
"นี่ พูดกับพ่อตัวเองให้มันดีๆหน่อยจะตายไหม"
"ฉันชินแล้วจ้ะ" ลุงวชินพูดดักจนทำให้ฉันรู้สึกไม่พอใจที่เจไดพูดจาไม่ดีกับพ่อตัวเอง
"วันนี้ฉันมาหาแกเพราะอยากจะเคลียร์กับแก แกเลิกทำตัวเป็นเด็กสักทีได้ไหม"
"พ่อจะมาสนใจอะไรผม ผมไม่ใช่ลูกพ่อตั้งแต่ที่พ่อส่งผมไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว แม้กระทั่งงานศพแม่ ผมก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ส่งแม่ในช่วงเวลาสุดท้าย"
"วันนั้นที่ฉันส่งแกไปเพราะมันคือความต้องการของแม่แก"
"หึ เป็นการต้องการของแม่ หรือเพราะพ่อไม่อยากให้ผู้หญิงอีกคนรู้ว่ามีลูกอีกคน" อะไรเนี่ย ฉันมองหน้าเจไดที่กำลังโมโหมองไปที่แม่ของเฮียไวน์
"ไม่ใช่อย่างงั้นนะเจ"
"อย่ามาเรียกชื่อผม" คุณน้าหน้าซีดทันทีเมื่อเจอเจไดตวาด
"เจได วันนี้ฉันมาคุยกับแกดีๆ ไม่ใช่มาให้แกขึ้นอารมณ์ใส่ ขอโทษเมียฉันซะ"
"หึ ไม่มีวัน ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีวันได้ยินคำขอโทษจากผม"
พูดจบเจไดก็เดินออกไปจากห้องทันที "เดี๋ยวเบลตามไปดูเองค่ะ"
ฉันวิ่งขึ้นรถทันทีเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะขึ้นรถไปไหนสักที่ "ลงไป"
"ไม่ นายไปไหนฉันไปด้วย" สิ้นคำพูดฉันเจไดก็ออกรถทันที แต่ออกรถธรรมดาเหมือนคนทั่วไปฉันจะไม่ว่า แต่นี่มันเหมือนฉันจะเห็นจุดจบตัวเองในเร็ววัน
"นะ.. นายขับเร็วเกินไปหรือเปล่า"
ไร้เสียงตอบรับ ฉันยกมือไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ช่วยคุ้งครองฉันให้ปลอดภัย ฉันคิดถูกใช่ไหมที่ตามเขามา
และขณะนั้นเอง เหมือนรู้เหตุการล่วงหน้า ฉันยกมือปิดตาตัวเองทันทีเมื่อมีรถสิบล้อกำลังออกจากซอย เสียงแตรรถทำงานดังอื้ออึงไปหมด ชวนผวา
"ฉันตายแน่ๆเลย" ตัวฉันสั่นไปทั้งตัวก่อนจะรู้สึกว่าไม่มีการเคลื่อนไหว ฉันค่อยๆยกมือที่ปิดตาตัวเองออก ก็พบว่ารถหรูของเจไดจอดนิ่งสนิทอยู่ที่ไหนสักที่ มันเป็นที่แปลกตากับฉันมากๆ
ฉันมองหาเจ้าของรถแต่กลับไม่พบ "เขาคงไม่คิดสั้นนะ"