Last from the heart 12 : ความไม่เข้าใจ

1270 คำ
​บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดมีแค่แสงฟ้าแลบที่เล็ดลอดเข้ามา ขอพูดตรงๆเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมนอนโดยที่ไม่มีอาการเมาหรืออาการเหนื่อยจากการทำงานแถมยังมีผู้หญิงมานอนค้างที่ห้องโดยที่ไม่ได้ทำกิจกรรมบนเตียง ขณะเปลือกตาผมค่อยๆปิดลงแต่จู่ๆก็ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกถึงการยุบของเตียง "อือ อินดี้แกให้ฉันนอนพื้นเหรอ" ผมนิ่วหน้าเมื่อยัยตัวแสบถีบผมลงจากเตียงก่อนที่ตัวเองจะครองเตียงของผม คงคิดว่านอนที่ห้องตัวเองสินะ แถมละเมอขึ้นเตียงผู้ชายอีกเพราะนึกว่าเตียงตัวเอง "ยัยตัวแสบเธอขึ้นมานอนเองนะ" ทว่า ต้องชะงักเมื่อแขนเจ้าของร่างบางยกขึ้นมาพาดเอวผมพร้อมกับขาที่พาดขาของผม "ปิงปิงแกหอมจัง" "เห๊อะ" ผมเค้นหัวเราะมองยัยตัวแสบที่กำลังใช้จมูกถูหน้าอกผม ปิงปิงที่ละเมอถึงคือใคร ถ้าให้ผมเดาถ้าไม่หมาก็แมว สุดท้ายผมก็สอดแขนตัวเองใต้ศีรษะยัยตัวแสบก่อนจะกระชับกอดแน่นขึ้นไม่นานเปลือกตาก็ค่อยๆปิดลง ลองนอนกับผู้หญิงดูหน่อยก็แล้วกัน 09:00 น. ฉันเผยยิ้มมือหนึ่งลูบปิงปิงหมาสุดที่รักฉันก่อนจะก้มลงจูบ แต่เอ้ะ ทำไมปิงปิงถึงไม่มีขนแถมผิวโคตรเนียนเลย ฉันขมวดคิ้วทั้งที่ยังหลับตาลูบไปรอบๆตัวปิงปิง ก่อนที่จะค่อยๆลืมตาขึ้น "หยุดทำไม ไม่ลูบต่อล่ะ" ฉันได้แต่กระพริบตามองมือตัวเองที่สอดเข้าไปในเสื้อนอนเจได จึงชักมือตัวเองกลับทันที "นายทำอะไรฉัน ไอ้โรคจิต ไอ้..." "เฮ้ ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกเธอลวนลาม" ฉันกระชับผ้าห่มแน่นพร้อมกับขยับจนชิดหัวเตียง "นายนั่นแหละมาอยู่ที่ห้องฉะ..." ฉันกวาดสายตาไปรอบๆก็พบมามันไม่ใช่ห้องนอนฉัน "นอกจากเพี้ยนแล้วยังความจำสั้นอีกนะ เธอจำไม่ได้เหรอว่าเธอมาค้างห้องฉัน แล้วเธอก็นอนพื้น" "ใช่ แล้วฉันมานอนบนเตียงนายได้ยังไง หรือว่านายคิดไม่ซื่อกับฉัน น้อย ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้..ไอ้..." ทว่า ฉันต้องเบิกตากว้างเมื่อร่างฉันถูกผลักให้นอนร่าบกับเตียงก่อนที่เจไดจะคร่อมฉัน "ถ้าเธอยังไม่เงียบให้ฉันพูด ตอนนี้ฉันอาจจะเปลี่ยนใจมาคิดไม่ซื่อกับเธอจริงๆก็ได้นะ" "พะ..พูดมาสิ" "เมื่อคืนเธอละเมอขึ้นมานอนบนเตียงฉัน แถมเมื่อเช้าเธอก็ยังลวนลามฉัน ลูบหน้าอกฉันซ่ะเคลิ้มเลยแถมยัง...จูบฉันอีกด้วย" จูบงั้นเหรอ ฉันทำแบบนั้นจริงเหรอ "แบบนี้ใครกันแน่ที่คิดไม่ซื่อ" "นะ..นายจะทำอะไร" ใบหน้าหล่อๆค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้จนจมูกของเราแตะกันมันทำให้ฉันประหม่ามากๆ "จูบคืนไง" "เจได" ทั้งฉันและเจไดหันไปมองประตูที่เปิดออกก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งยืนมองพวกเราด้วยสีหน้าตะลึง ดะ เดี๋ยวนะ นี่มันพ่อเฮียไวน์แล้วก็เป็นพ่อของคนที่กำลังคร่อมฉันอยู่ ฉิบหายแล้ว ฉันผลักเจไดออกก่อนที่จะหันไปมองคุณลุงกับคุณน้าที่ยืนมองพวกเราอยู่ "เอ่อ คือมันไม่ใช่อย่างที่คิดนะคะ" "แต่งตัวให้เรียบร้อย ฉันจะรอข้างนอก" ฉันค้อนมองเจไดที่มีสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ก่อนที่เขาจะเดินหายไปในห้องน้ำ ผ่านไปสิบห้านาทีตอนนี้ฉันนั่งตัวเกรงไปทั้งตัวเหมือนเจอตำรวจจับได้ว่าค้ายาอะไรประมาณนั้น "มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหนูถึงมาอยู่ที่ห้องลูกชายลุง" "เห็นผมเป็นลูกชายด้วยเหรอครับ" เพี๊ยะ!! ฉันยกมือตีแขนเจไดก่อนจะยิ้มให้คุณลุง ฉันรู้จักคุณลุงเพราะฉันเป็นน้องรหัสเฮียไวน์เลยได้เจอท่านบ่อยน่ะ แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเจอในสถานการณ์แบบนี้ด้วย "เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ" ฉันเม้มปากแน่นก่อนเริ่มบทสนทนา "เบลทำงานอยู่ในบ่อนนาย เอ่อ..พี่เจไดค่ะ พอดีเมื่อคืนฝนตกหนัก พี่เขาก็ชวนเบลมานอนที่ห้องเพราะกลัวจะเกิดอันตรายตอนขับรถไปส่งเบล แต่พวกเราไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมกันนะคะ" พูดจบฉันก็หันไปมองเจไดที่ไม่แม้จะมองหน้าพ่อตัวเอง "แล้วที่ลุงเห็นเมื่อเช้าล่ะ มันคืออะไร" "ทำไม ผมจะทำอะไรพ่อต้องรู้ด้วยเหรอครับ" ฉันหันไปมองค้อนเจไดทันที ปากนะปาก "มันคือเรื่องเข้าใจผิดค่ะ พอดีเมื่อเช้าหนูหน้ามืดเลยล้มลงพอดีพี่เจไดช่วยไว้ทันเลยอย่างที่เห็นนั่นแหละค่ะ" ฉันกัดฟันพูดพร้อมกับยิ้มอย่างนางเอก "รู้แล้วก็รีบออกไปสิ จะอยู่ทำไม" "นี่ พูดกับพ่อตัวเองให้มันดีๆหน่อยจะตายไหม" "ฉันชินแล้วจ้ะ" ลุงวชินพูดดักจนทำให้ฉันรู้สึกไม่พอใจที่เจไดพูดจาไม่ดีกับพ่อตัวเอง "วันนี้ฉันมาหาแกเพราะอยากจะเคลียร์กับแก แกเลิกทำตัวเป็นเด็กสักทีได้ไหม" "พ่อจะมาสนใจอะไรผม ผมไม่ใช่ลูกพ่อตั้งแต่ที่พ่อส่งผมไปอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว แม้กระทั่งงานศพแม่ ผมก็ไม่มีโอกาสได้อยู่ส่งแม่ในช่วงเวลาสุดท้าย" "วันนั้นที่ฉันส่งแกไปเพราะมันคือความต้องการของแม่แก" "หึ เป็นการต้องการของแม่ หรือเพราะพ่อไม่อยากให้ผู้หญิงอีกคนรู้ว่ามีลูกอีกคน" อะไรเนี่ย ฉันมองหน้าเจไดที่กำลังโมโหมองไปที่แม่ของเฮียไวน์ "ไม่ใช่อย่างงั้นนะเจ" "อย่ามาเรียกชื่อผม" คุณน้าหน้าซีดทันทีเมื่อเจอเจไดตวาด "เจได วันนี้ฉันมาคุยกับแกดีๆ ไม่ใช่มาให้แกขึ้นอารมณ์ใส่ ขอโทษเมียฉันซะ" "หึ ไม่มีวัน ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีวันได้ยินคำขอโทษจากผม" พูดจบเจไดก็เดินออกไปจากห้องทันที "เดี๋ยวเบลตามไปดูเองค่ะ" ฉันวิ่งขึ้นรถทันทีเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะขึ้นรถไปไหนสักที่ "ลงไป" "ไม่ นายไปไหนฉันไปด้วย" สิ้นคำพูดฉันเจไดก็ออกรถทันที แต่ออกรถธรรมดาเหมือนคนทั่วไปฉันจะไม่ว่า แต่นี่มันเหมือนฉันจะเห็นจุดจบตัวเองในเร็ววัน "นะ.. นายขับเร็วเกินไปหรือเปล่า" ไร้เสียงตอบรับ ฉันยกมือไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ช่วยคุ้งครองฉันให้ปลอดภัย ฉันคิดถูกใช่ไหมที่ตามเขามา และขณะนั้นเอง เหมือนรู้เหตุการล่วงหน้า ฉันยกมือปิดตาตัวเองทันทีเมื่อมีรถสิบล้อกำลังออกจากซอย เสียงแตรรถทำงานดังอื้ออึงไปหมด ชวนผวา "ฉันตายแน่ๆเลย" ตัวฉันสั่นไปทั้งตัวก่อนจะรู้สึกว่าไม่มีการเคลื่อนไหว ฉันค่อยๆยกมือที่ปิดตาตัวเองออก ก็พบว่ารถหรูของเจไดจอดนิ่งสนิทอยู่ที่ไหนสักที่ มันเป็นที่แปลกตากับฉันมากๆ ฉันมองหาเจ้าของรถแต่กลับไม่พบ "เขาคงไม่คิดสั้นนะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม