บทที่3.เจ้าของสวนเชอรี่สุดหล่อ

1535 คำ
ถึงเวลาพักเที่ยง...รถคันเดิมก็วิ่งมารับตามจุด เพื่อพาคนงานทั้งหมดไปที่โรงอาหารกลางสวน ทางสวนมีอาหารให้รับประทาน2มื้อ คือเที่ยงกับตอนเย็นซึ่งแล้วแต่ความพอใจของคนงาน เขาจะพกอาหารมากินเองก็ได้ หรือจะรับประทานที่โรงอาหารของทางสวนก็ได้เช่นกัน นิรดาที่มาใหม่ เดินตามคนงานกลุ่มใหญ่ไป อาหารก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก แต่น่าจะให้กำลังสำหรับคนงานที่ใช้แรง เป็นสตูว์ผักเละๆ น่าจะมีเนื้อไก่หรือเนื้อสัตว์อย่างอื่นปนอยู่ในนั้น แต่คงเพราะการเคี่ยวที่ทำให้เนื้อสัตว์เหล่านั้นละลายผสมไปกับน้ำซุบข้นๆ กับขนมปังแข็งๆ หนึ่งชิ้น ซึ่งนิรดาคิดว่าสำหรับเธอน่าจะอิ่มพอดี หญิงสาวยืนต่อแถวคนอื่น หยิบถาดหลุมและขยับก้าวตามคนข้างหน้า จนกระทั่งได้อาหารนั้นเธอจึงเดินไปทิ้งตัวนั่งโค่นต้นไม้ที่มารู้ที่หลังว่ามันคือต้นแอปเปิ้ลนั่นเอง แทนที่จะนั่งบนโต๊ะแถวยาวๆ หญิงสาวถอนใจ วางถาดหลุมที่พื้น หยิบขวดน้ำที่พกมาจากห้องล้างทำความสะอาดมือ ก่อนลงมือรับประทานอาหารเงียบๆ รสชาติไม่ได้แย่นัก และคงเป็นเพราะกำลังหิวจัด มันจึงทำให้เธอกินอาหารที่แม่ครัวตักให้จนหมด ผ่านไปหนึ่งมื้อ เหลืออีกครึ่งวัน ก็จะจบวันแรกของการทำงาน หากเพชรชมพูอยู่ใกล้ๆ เธอคงมีเรื่องเล่าให้เพื่อนฟังเป็นกระบุง เมื่อประสบการณ์ที่ได้พบมา มีแต่ความตื่นเต้นและสนุกจนอยากจะเล่าให้คนอื่นฟัง...นิรดายกถาดไปทำล้างทำความสะอาดยังจุดที่ทางสวนจัดไว้ให้ เธอเดินมานั่งที่เดิม และล้วงหนังสืออ่านเล่นมาอ่านคร่าเวลา เพื่อนใหม่ของเธอเดินเขามานั่งด้วย “ทำไมเธอถึงมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะ” และเป็นความโชคดีอีกอย่างที่เจิ่นมุยหวาพูดไทยได้ เธอเคยไปทำงานที่ไทยเกือบ3ปี ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงอายุ25ปี แต่กลับมีประสบการณ์ทำงานมาหลายที่แล้ว นิรดายิ้มรับ เธอยื่นหนังสือในมือให้เพื่อนใหม่เห็น “นิดามาอ่านหนังสือค่ะพี่หวา” นิรดาปรับตัวเข้ากับคนอื่นง่าย แต่เธอก็อยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง “ว้าว!! เธออ่านหนังสือพวกนี้ออกด้วยเหรอ?” เจิ่นมุยหวาพูดภาษาอังกฤษได้ดีพอใช้ แต่ภาษาฝรั่งเศสไม่กระดิกหูเลย ดังนั้นหล่อนจึงนึกทึ่งที่เด็กผู้หญิงตรงหน้าอ่านภาษาที่คนส่วนใหญ่ของที่นี่ใช้สื่อสารกันได้ “นิดหน่อยค่ะ นิดาเรียนมา” หนังสือเล่มนี้นิรดาเจอที่ชั้นหนังสือหน้าห้องแถว คนงานในสวนคงทิ้งไว้เพื่อให้คนงานได้ฝึกภาษา นิรดาจึงหยิบมาอ่านเพื่อทบทวนความรู้ “ช่วยสอนฉันด้วยสิ ฉันอยากพูดกับคนพวกนั้นได้” เจิ่นมุยหวาชี้มือไปยังคนงานกลุ่มใหญ่ที่ดูน่าเกรงขาม และมาโคนั่งอยู่ในคนกลุ่มนั้นด้วย ชายหนุ่มเองก็ร่วมรับประทานอาหารชนิดเดียวกับคนงาน เขาไม่เคยถือตัว แม้ตนเองจะเป็นเจ้าของ “ได้สิคะ นิดาเองก็คิดไว้ วันหยุดนิดาจะใช้เวลาว่างสอนภาษาให้ทุกคนเอง” ในหนึ่งอาทิตย์ สวนจะจัดวันหยุดให้กับคนงานในสวน เพื่อให้ทุกคนได้มีเวลาทำความสะอาดเสื้อผ้าใช้แล้ว รวมทั้งได้พักผ่อนฟื้นฟูร่างกาย นิรดาเลยอยากใช้วันว่างนั้น สอนภาษาให้กับทุกคนโดยไม่คิดค่าจ้าง ไหนๆ ก็ร่วมหัวจมท้ายอยู่ด้วยกัน “ดีเลย เดี๋ยวฉันไปถามพวกนั้นให้นะ เพื่อใครอยากเรียนภาษา เราจะได้นัดวันกันอีกที” เจิ่นมุยหวาอาสาเป็นโต้โผ เมื่อเธอมาก่อนและรู้จักคนงานในสวนเกือบทั้งหมด นิรดาเองก็จะถามกลุ่มคนไทยที่มาพร้อมกันกับตัวเอง มันเป็นประโยชน์กับพวกเขา เมื่อการสื่อสารคือเรื่องสำคัญ และเธอจะได้ไม่มีเวลาว่างคิดถึงยายและเพื่อนๆ เป็นการขจัดความเหงาได้อย่างชะงัด มาโคเหลือบมองเด็กสาวตัวเล็กนั่นบ่อยครั้ง จนยาคอบแอบขำ เรื่องผู้หญิงสำหรับเจ้านาย เขาเห็นเปลี่ยนหน้าแทบจะไม่ซ้ำ เมื่อผู้หญิงส่วนใหญ่ชื่นชอบนักหล่ะ กับผู้ชายร่างใหญ่ที่มีเสน่ห์ แข็งแรงและมีพลังดึงดูดทางเพศสูง แถมมาโคยังโสด เขาเป็นผู้ชายโสดที่มีพร้อมทั้งหน้าตาและเงินทอง รสนิยมของเจ้านายที่เห็นก็เนื้อ นม ไข่ตลอด วันนี้ยาคอบจึงแปลกใจที่เจ้านายแอบชำเลืองมองเด็กสาวที่ไม่ประสีประสาคนนั้น นิรดาจัดว่าน่ารักน่าเอ็นดูก็จริง ปากเล็ก จมูกหน่อย แต่ทรวดทรงของหล่อนจัดอยู่ในจำพวกเด็กประถม ซึ่งห่างจากความชอบของมาโคมากโข เขาเลยอดไม่ได้ที่จะสนใจ อะไรทำให้เจ้านายสนใจเด็กเพิ่งโตคนนั้น “แม่หนูนั่น โตขึ้นไปคงสวยน่าดู” เสียงเปรยของแซมคนขับรถบรรทุกที่มองนิรดาเช่นเดียวกันกับมาโค มาโคตวัดตามอง ก่อนจะรีบหลุบเปลือกตาลงปิดบังความไม่พอใจ “เด็กอยู่นะโว้ย เปลี่ยนเป็นแม่สาวเวียดนามคนนั้นไม่ดีกว่าเหรอ?” โทมัสเอ่ยแย้ง หากจะสีเด็กไม่ประสาอย่างนิรดา เจิ่นมุยหวาสาวเวียดนามดีกว่าเป็นไหนๆ เมื่อเจ้าหล่อนเป็นสาวสะพรั่งแล้ว หลุยส์ หัวเราะร่วน “คนงานรอบนี้มีแต่คนสวยๆ นะ เด็กนั่นก็น่าสนใจนะเพราะหล่อน ‘ซิง’ แน่ๆ” เกมสนุกยามว่างของคนงานชายที่ขายแรงกายคือการหยอกล้อสาวๆ เผลอๆ เขาอาจจะไม่คู่นอนที่ไม่ต้องจ่ายสตางค์ มาโคกระแทกแก้วดังกึก! คนงานที่กำลังสนุกปาก เงียบกริบโดยไม่ต้องให้ยาคอบเอ่ยปากปราม ถึงมาโคจะไม่ถือตัว เขาเป็นกันเองกับคนงานทุกคน แต่คนงานทุกคนนั้นก็รู้ดี มาโคคือเจ้านาย และความไม่พอใจนั่น อาจทำให้พวกเขาเดือดร้อนได้ ใต้ใบหน้านิ่งๆ ของมาโคนั้น เขาสามารถคว่ำคนงานปากพล่อยได้ง่ายๆ มาโคไม่ได้แค่ตัวใหญ่ เขาแกร่งสมกับการเป็นผู้บุกเบิกสวนเชอรี่แห่งนี้ “แซมไปส่งฉันที่โชว์รูมที” มาโคแบ่งสวนขนาดใหญ่บนเนื้อที่เกือบ200เอเคอร์เป็นสองส่วน สวนหนึ่งใช้สำหรับสร้างชื่อเสียง เขาเปิดให้คนนอกเข้ามาชื่นชมผลผลิตที่เขาและคนงานฟูมฟักมาอย่างดี เปิดให้ชม ชิม และได้สัมผัสเชอรี่ผลโตโดยตรง มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาด ในหนึ่งปีมาโคจะเปิดสวนประมาณ7วัน ซึ่งแล้วแต่ผู้เชี่ยวชาญจะกำหนด และนั่นก็สร้างรายได้ให้กับเขาไม่น้อยทีเดียว เมื่อฝูงนักท่องเที่ยวพากันมาจนล้นทุกรอบ เขาเลยมีงานงอกขึ้นมา เพราะการเปิดให้ชมเฉยๆ มันก็จะเป็นการน่าเบื่อ มาโคเริ่มแปรรูปผลเชอรี่ มีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผลไม้ในสวน มีเชอรี่ และลูกพลัม สตรอว์เบอร์รีที่กำลังทดลองปลูกในแปลงเพาะ ที่ให้ผลผลิตน่าสนใจเหมือนกันกับน้ำผึ้งอย่างสุดท้ายที่สร้ายรายได้ไม่น้อยเลย “ครับนาย” แซมขยับตัวลุกขึ้น ยาคอบอมยิ้ม เขาพูดเปรยๆ ตอนที่มาโคเดินห่างออกไปแล้ว “ระวังชนตอนะหลุยส์ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน” ยาคอบไม่ได้พูดเล่น ความชอบของมาโคที่มีต่อเด็กสาวคนนั้น มันเกินระดับปกติ ไม่อย่างนั้นคนเก็บอารมร์เก่งคงไม่หลุดออกนอกหน้าแบบนี้ “หือ...ลุงหมายความว่าไง?” หลุยส์หันมาถามยาคอบหน้าตื่นๆ “หมายความตามที่พูด จะจีบใครก็จีบไป เว้นแม่หนูนั้นไว้สักคน ถ้าไม่อยากเดือดร้อน” ยาคอบเอ่ยซ้ำอีกครั้ง โทมัส กับหลุยส์กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ อิ่มตื้อขึ้นมาทันทีหลังยาคอบพูดจบ ลมหายใจถูกปล่อยออกมาจากช่องจมูกแรงๆ เมื่อคิดถึงคำพูดที่คนเหล่านั้นใช้วิจารณ์แม่สาวร่างเล็กคนนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี่มาโคก็มักจะเป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้คำพูดส่อเสียดบรรดาผู้หญิงสาวสวย มันเกิดขึ้นหลายครั้งจนเป็นเรื่องปกติ หากมีมนุษย์เพศหญิง ชายอยู่ร่วมกัน วันนี้ชายหนุ่มเลยนึกแปลกใจตนเอง เพราะอะไรกันล่ะ? อะไรทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่รู้เรื่องที่พวกเขาพูดถึงหล่อนสักนิด ชายหนุ่มพยายามสลัดความสับสนนั่นออกไปจากใจ...อีกไม่นานเขาก็คงลืม หากไม่ได้เจอหน้าหล่อนสักพัก... หลังตรวจงานที่โชว์รูมแสดงสินค้า มาโคเลยเดินทางไปเนเธอร์แลนด์เพื่อเว้นระยะของความรู้สึกที่เกิดขึ้น การไปสังสรรค์กับเพื่อนคงทำให้เขาลืมความขุ่นใจที่เกิดขึ้นได้...มาโคหวังเช่นนั้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม