“มาแล้วเหรอ” ภวินท์เดินเข้าไปหาพราวจันทร์ เขามองสำรวจผู้หญิงที่อดีตเคยใกล้ชิดกันตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหน แต่ร่างกายเจ้าหล่อนเป็นเช่นไร เขาจำได้ไม่มีวันลืม น่าเสียดายที่ตอนนี้เธอเป็นของคนอื่นไปแล้ว ความหลังของเราสองคนเลยยากจะรื้อฟื้นขึ้นมา ไม่เป็นไร.. ไม่เป็นไร.. เพราะเธอไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ อย่างมากหากได้กลับมามีความสัมพันธ์กันอีกครั้ง ก็คงเป็นได้แค่ของเล่นชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น “ไม่นึกเลยนะว่าพราวจะเป็นคนมาหาพี่เอง”
“ปล่อยพี่กันต์ไป พี่กันต์ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องของเรา” เธอพูดเสียงลอดไรฟัน พยายามข่มความโกรธเอาไว้ไม่ให้ระเบิดออกมาในเวลานี้
ริมฝีปากบางหยักได้รูปของคนที่มีคำนำหน้าชื่อว่านายแพทย์กระตุกยิ้ม “จะปล่อยไปได้ยังไง ผู้ชายคนนั้นติดหนี้พี่อยู่ห้าแสน ถ้าพราวอยากให้พี่ปล่อยมัน พราวมีเงินห้าแสนมาให้พี่ไหมล่ะ หรือถ้าไม่มี..” ภวินท์เลื่อนสายตามาหยุดที่หน้าอกพราวจันทร์ “จะเอาอะไรมาแลกกับผู้ชายคนนั้นดี”
สายตาและคำพูดของภวินท์ทำให้ความอดทนของพราวจันทร์ขาดผึง เธอง้างมือขึ้นแล้วฟาดลงที่ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มแรงจนมุมปากเขามีเลือดซึมออกมา กระนั้นแม่ของเด็กชายตะวันฉายก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตนทำยังไม่สาสมกับความชั่วของเขา เทียบไม่ได้แม้เพียงเศษเสี้ยว
“คนสารเลว!”
ภวินท์เช็ดเลือดที่มุมปาก เขาตวัดมองพราวจันทร์ นัยน์ตาสีดำขลับลุกวาวฉายแววเหี้ยมจนคนถูกมองถอยร่นไปโดยอัตโนมัติ
“ทำร้ายคนอื่นแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะน้องพราว” เขาพูดพลางขยับเข้าไปหาหญิงสาว ต้อนเจ้าหล่อนจนแผ่นหลังเธอแนบผนังแล้วยกมือสองข้างขึ้นยันกำแพง “ตัวหอมเหมือนเดิมเลยนะ” กลิ่นกายของพราวจันทร์ทำให้นายแพทย์หนุ่มนึกถึงเรื่องราวในวันวาน ปกติเขาไม่เคยใช้ผู้หญิงซ้ำ นอนด้วยกันคืนเดียวก็ต่างฝ่ายต่างแยกย้าย เพราะเขาเป็นคนขี้เบื่อ ทว่ากับแม่ของลูกหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เขานอนกับเธอซ้ำแล้วซ้ำแล้วเล่า ผู้หญิงคนนี้เป็นเหมือนของมึนเมา ยิ่งได้กิน ยิ่งเสพติด เขาลุ่มหลงในกายเธอ เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่สามารถเติมเต็มเรื่องบนเตียงให้เขาจนอิ่ม น่าเสียดาย.. เราสองคนต่างกันเกินไป เขาไม่อาจยกย่องเธอขึ้นมาเป็นภรรยาได้ แม้จะปรารถนาในรสสวาทจากพราวจันทร์เพียงใด สุดท้ายปลายทางก็คือแยกย้ายกันอยู่ดี เพราะเขาใช้สมองในการดำเนินชีวิต ไม่ใช่ความรู้สึกหรือความต้องการ
“ถอย-ออก-ไป!” เธอเค้นเสียงลอดไรฟัน
มุมปากข้างซ้ายของนายแพทย์ภวินท์โค้งขึ้นเล็กน้อย เขามองพราวจันทร์ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ “มีสิทธิ์อะไรมาสั่งพี่ หน้าที่ของเธอคือฟังที่พี่บอกแล้วทำตามโดยไม่มีข้อต่อรองใดๆ ทั้งนั้น เพราะ..” เขาโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เจ้าหล่อนจนปลายจมูกชนกัน “ถ้าหากทำตัวเป็นเด็กดื้อไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ พี่จะส่งผู้ชายของเธอเข้าไอซียู”
ในที่สุดน้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมา ดวงตาที่เคยจ้องมองผู้ชายตรงหน้าด้วยความชิงชังค่อยๆ ผันเปลี่ยนจนเหลือเพียงความเจ็บปวด “ปล่อยพี่กันต์ไป อย่าทำอะไรเขา หนูขอร้อง..” เธอยกมือไหว้พ่อของลูกทั้งน้ำตา “พี่จะให้หนูทำอะไร หนูยอมทุกอย่างแล้ว”
“นี่พราวรักไอ้บ้านั่นขนาดนั้นเลยเหรอ” เขามองพราวจันทร์ด้วยแววตาสมเพช “เพื่อผู้ชายคนเดียว เธอยอมทำทุกอย่างเลยเหรอพราว” พราวจันทร์รักศักดิ์ศรียิ่งกว่าสิ่งใด แต่วันนี้เธอกลับยอมทิ้งมันเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว
โง่เง่าสิ้นดี!
“ปล่อยพี่กันต์ไป แล้วพี่จะให้หนูทำอะไร หนูยอมทุกอย่าง” เธอปาดน้ำตาแล้วพูดกับเขาอีกครั้ง
“แน่ใจเหรอว่ายอมทำทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นพี่จะขอแลกไอ้บ้านั่นกับลูก เธอจะยอมไหม”
ยกเว้นเรื่องนี้
“แน่นอนว่าหนูไม่ยอม” แววตาของพราวจันทร์วาวโรจน์ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อภวินท์ใช้กันต์มาต่อรองเรื่องตะวันฉาย “ต่อให้พี่ฆ่าหนูตาย หนูก็ไม่มีวันยอมให้ลูกไปอยู่กับคนอย่างพี่เด็ดขาด เป็นหมอซะเปล่า แต่นิสัยอย่างกับมาเฟีย”
หมอมาเฟียได้ยินเช่นนั้นก็ลอบยิ้ม อย่างน้อยพราวจันทร์ก็พิสูจน์แล้วว่าเธอไม่ได้รักผู้ชายมากกว่าลูกในไส้ เพียงเท่านี้ที่เขาต้องการ
“ถ้าอย่างนั้นเซ็นสัญญานี่ซะ” เขาปล่อยพราวจันทร์ให้เป็นอิสระแล้วหยิบสัญญาที่วางอยู่ไม่ไกลซึ่งพึ่งให้ทนายร่างขึ้นมาไปตรงหน้าเธอ “อ่านให้ละเอียด แล้วก็คิดดีๆ ว่ายินยอมไหม ถ้าเธอยอม พี่จะปล่อยให้ไอ้บ้านั่นไป แต่ถ้าไม่ พี่จะซ้อมมันจนใกล้ตายแล้วค่อยส่งกลับบ้านไปให้เธอ”
พราวจันทร์รับสัญญามาอ่าน เธออ่านละเอียดประมาณสองรอบได้ ยิ่งอ่านก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าภวินท์ทำเช่นนี้ทำไม
“จันทร์ถึงศุกร์ไปเรียน เสาร์อาทิตย์ทำงานที่คลินิกตั้งแต่ห้าโมงถึงสองทุ่ม โดยได้รับค่าจ้างเดือนละหมื่นห้า หักใช้หนี้เดือนละห้าพัน” เธอหันมองพ่อของลูกที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ไม่ไกล “นี่มันสัญญาบ้าอะไรกัน” คราแรกเธอคิดว่าเขาจะบังคับให้เซ็นยกลูกให้เสียอีก
“ไม่ต้องถาม พราวมีหน้าที่ตัดสินใจว่าจะยอมทำตามเงื่อนไขที่พี่เสนอให้ไหม”
“แล้วถ้าหนูไม่ทำ?”
“พี่ก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งลูกมาจากพราวให้ได้ ส่วนผู้ชายของเธอ พี่ก็ไม่รับประกันนะว่าหลังจากนี้สภาพมันจะเป็นยังไง”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีเมื่อภวินท์พูดเช่นนั้น “ถ้าหนูยอมทำตามเงื่อนไขบ้าๆ นี่ พี่สัญญาไหมว่าจะไม่ยุ่งกับพี่กันต์แล้วก็ลูก”
สิ่งที่เขาต้องการคือดูแลลูกในฐานะพ่อ ไม่ใช่พรากลูกมาจากอกแม่ ในเมื่อพราวจันทร์ไม่ยินยอมให้เขาดูแลลูกและยืนยันหนักแน่นว่าจะดูแลลูกเอง เธอก็ต้องมีความพร้อมมากพอที่จะทำเช่นนั้น เพราะการดูแลเด็กคนหนึ่งให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ อาศัยเพียงความรักอย่างเดียวหาพอไม่
“พี่จะไม่ยุ่งกับลูก ถ้าพราวตั้งใจเรียนให้จบแล้วก็มีงานดีๆ ที่มั่นคงทำ แต่ถ้าพราวทำไม่ได้ พี่ก็จำเป็นต้องเอาลูกมาดูแลเอง เพราะพี่ถือว่าพราวไม่มีศักยภาพมากพอที่จะดูแลลูกให้ดีได้ ส่วนผู้ชายของพราว พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรมัน ถ้าพราวยอมกลับไปเรียนต่อจนจบแล้วก็เซ็นยินยอมชดใช้หนี้ห้าแสนของพี่ในฐานะลูกหนี้แทนไอ้หมอนั่นโดยการทำงานที่คลินิกพี่จนกว่าหนี้จะหมด”
เงินต้นห้าแสนบาท ในสัญญาระบุไว้ชัดเจนว่าปลอดดอกเบี้ย ดังนั้นเธอจะต้องทำงานชดใช้หนี้ให้ภวินท์แปดปีกับอีกประมาณสามเดือน จึงจะใช้หนี้เขาหมด
“เรื่องเรียนหนูไม่มีปัญหา” เธอตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าหากตะวันฉายเข้าอนุบาลเมื่อไหร่ เธอก็จะกลับไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยให้จบ ส่วนเรื่องเงินห้าแสน ภวินท์บอกว่าจะหักจากเงินเดือนที่เขาจะให้เธอเดือนละห้าพัน ซึ่งมันนานเกินไปกว่าจะครบเท่าจำนวนหนี้ “ส่วนเรื่องหนี้ ถ้าหนูหาเงินก้อนมาคืนพี่ได้ครบ เรื่องทำงานที่คลินิกเพื่อใช้หนี้ถือว่าสิ้นสุด หนูจะไม่ไปทำงานกับพี่ ส่วนพี่ก็ห้ามมายุ่งกับหนูกับลูกอีก ตกลงไหม”
“หนี้หมดเมื่อไหร่จะไม่มาทำงานต่อก็ได้ อันนั้นแล้วแต่พราว แต่เรื่องลูก เธอต้องเรียนจบแล้วมีงานทำที่มั่นคงก่อน พี่ถึงจะไม่ไปยุ่งกับเธอกับลูกอีก ตราบใดที่ยังเรียนไม่จบ งานการก็ไม่เป็นหลักแหล่งแบบนี้ พี่ไม่มีทางปล่อยเธอกับลูกให้คลาดสายตาแน่นอน”
พราวจันทร์พยักหน้าช้าๆ “ได้ แต่หนูเรียนจบเมื่อไหร่ กรุณารักษาสัญญาด้วย อย่ามายุ่งกับหนูกับลูกแล้วก็พี่กันต์อีก ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างใช้ชีวิต อ้อ!ระหว่างนี้อย่าลากพี่กันต์เข้ามาเกี่ยวอีก พี่กันต์ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องของเราสองคน”
“ดูพราวเป็นห่วงบาเทนเดอร์คนนั้นจังเลยนะ รักมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ในสายตาเขา พราวจันทร์เป็นผู้หญิงโง่เง่าที่บูชาความรักจนน่าสมเพช ความรักมันมีจริงที่ไหน จอมปลอมทั้งเพ “พี่เตือนด้วยความหวังดีนะพราว รักน่ะรักได้ แต่อย่ารักจนโง่ รักอย่างเดียวไม่พอหรอก ถ้าจะเลือกใครสักคนเป็นคู่ชีวิต พี่แนะนำว่าให้เลือกคู่ชีวิตที่ส่งเสริมกันได้ ไม่ใช่แค่ให้ความสุขบนเตียง”
เลือกคู่ชีวิตที่ส่งเสริมกันได้งั้นหรือ
มิน่าเล่า.. เขาถึงไม่เลือกเธอ เพราะเธอมันต่ำต้อยนี่เอง
พราวจันทร์น้ำตาตกในเมื่อหวนนึกถึงวันวาน เมื่อครั้งที่เคยรักภวินท์สุดหัวใจจนสามารถมอบทุกอย่างให้กับเขาได้ แต่สุดท้ายเขากลับใช้ความรักของเธอย้อนกลับมาฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น