วันแรกของการเปลี่ยนสถานะจาก ‘สมรส’ มาเป็น ‘หนุ่มโสด’ ที่มีทะเบียนหย่า ไม่มีอะไรที่สักอย่างที่เป็นไปตามที่คิดไว้ นายแพทย์ภวินท์หยิบแก้วบรั่นดีขึ้นมาก่อนจะสาดน้ำสีอำพันลงลำคอรวดเดียวหมดแก้ว เขาหวังใช้ความร้อนจากมันดับทุกข์ในใจ ทว่า.. ของมึนเมาช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด เขาไม่อาจหยุดคิดเรื่องพราวจันทร์กับลูกชายได้ ภายในใจร้อนรุ่มกระวนกระวายราวกับถูกไฟสุม
“เหมือนคุณมีเรื่องไม่สบายใจ มีอะไรให้ส้มช่วยไหมคะ” พีอาร์ตัวท็อปประจำผับหรูใจกลางกรุงเอนศีรษะซบบ่านายแพทย์หนุ่ม เธอไม่รู้หรอกว่าอะไรที่กำลังกวนใจเขาอยู่ในตอนนี้ แต่ที่รู้ก็คือวิธีใดที่จะช่วยให้ภวินท์ผ่อนคลาย
ภวินท์ก้มมองมือเรียวสวยที่วางแปะอยู่บนขาตนแล้วกระตุกยิ้ม “คุณอยากช่วยผมจริงๆ เหรอ”
“จริงสิคะ ส้มอยากให้คุณผ่อนคลาย ไม่ชอบเลยตอนที่เห็นคุณเครียด” ตั้งแต่รู้จักกับภวินท์มา นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นชายหนุ่มมีเรื่องทุกข์ใจ “เล่าให้ส้มฟังได้ไหมคะว่าคุณมีปัญหาอะไร เผื่อระบายออกมาแล้วมันจะช่วยให้คุณดีขึ้นบ้าง” หน้าที่ของพีอาร์คือทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการผับมีความสุข แต่สำหรับเธอแล้ว ภวินท์ไม่ใช่ลูกค้า เงินตราหาใช่สิ่งที่เธอต้องการจากเขาไม่
“ไม่มีอะไรหรอก แล้วทำไมวันนี้สาวสวยคิวทองอย่างคุณถึงมานั่งกับผมได้ ปกติมาหาทีไร เห็นติดแขกโต๊ะอื่นตลอด”
“ก็เมื่อก่อนคุณมีเมีย ส้มจะเสียเวลากับผู้ชายที่มีทะเบียนสมรสทำไม สู้เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า แต่ตอนนี้คุณโสดแล้ว ส้มคิดว่าตัวเองพอจะมีหวัง เลยเลือกทิ้งลูกค้าพวกนั้นมาหาคุณ”
น้ำเสียงกัญชพรที่เปล่งออกไป หาได้จริงจังสักนิด ด้วยรู้ดีว่าสำหรับเธอแล้วการที่จะได้ยืนเคียงข้างผู้ชายคนนี้ในฐานะคนรักนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ ซึ่งเธอก็หาได้ต้องการเช่นนั้นไม่ เส้นทางชีวิตเราสองคนต่างกันเกินไป ภวินท์เป็นแพทย์ เป็นอาชีพที่จำเป็นต้องรักษาภาพพจน์ ส่วนเธอเป็นผู้หญิงกลางคืน อยู่ท่ามกลางเรื่องคาวโลกีย์ คงยากยิ่งที่เราสองคนจะใช้ชีวิตที่แตกต่างให้มันลงตัวได้ ถึงได้.. ก็คงเหนื่อยน่าดู
ริมฝีปากบางหยักโค้งขึ้นเล็กน้อย “แต่ผมทริปไม่หนักนะ”
“สำหรับคุณ ไม่ต้องจ่ายสักบาท ส้มก็ยอมค่ะ ขอแค่คุณมาหาส้มบ่อยๆ แล้วก็อย่าพึ่งรีบมีใคร แค่นั้นส้มก็พอใจแล้วค่ะ” เธอรู้จักกับนายแพทย์ผู้นี้ประมาณปีกว่าแล้ว เราสองคนเจอกันครั้งแรกที่คลินิกเสริมความงาม เขาเป็นหมอที่ทำหน้าให้เธอ หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสพูดคุย และทำความรู้จักกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งสถานะของเราทั้งคู่ขยับจากหมอกับลูกค้า มาเป็นเพื่อนดื่มเพื่อนเที่ยว
“หวงผมเหรอ ถึงไม่อยากให้ผมมีใคร”
“แล้วหวงได้ไหมล่ะคะ” เธอถามพลางช้อนตาขึ้นมองภวินท์ “หวงได้ไหมคะคุณหมอ”
ความกลัดกลุ้มที่หอบมา คล้ายว่าจะเบาบางลงเมื่อได้พูดคุยกับกัญชพร ภวินท์มองสบตาหล่อนก่อนจะช้อนปลายคางเธอขึ้นมา ทว่าก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น “หวงได้ครับ สำหรับคุณ ผมให้สิทธิ์ได้เต็มที่”
“นึกว่าเมื่อกี้จะได้จูบกับหมอแล้วซะอีก ผิดหวังนะเนี่ย” เธอแสร้งทำท่ากระเง้ากระงอด กระนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ด้วยรู้จักนิสัยภวินท์ดี ผู้ชายคนนี้ หากปล่อยให้ใครก้าวล่วงเข้ามาในชีวิต รับรู้เรื่องราวส่วนตัว คนคนนั้นจะไม่มีทางได้ขึ้นเตียงกับเขาเด็ดขาด เพราะชายหนุ่มกลัวจะวุ่นวายในภายหลัง
“สวยๆ อย่างคุณ ผมไม่คู่ควรหรอก” เขาใช้นิ้วไล้แก้มเนียนของกัญชพร สายตาที่เคยแพรวพราวแปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง “ผมอยากดื่มอะไรแรงๆ คุณช่วยจัดให้ผมหน่อยได้ไหม”
“ได้สิคะ” พีอาร์สาวหันมองบาเทนเดอร์คนใหม่ของผับ “ที่ผับพึ่งรับบาเทนเดอร์เข้ามาใหม่ คนนี้มือชงเครื่องดื่มระดับเทพ รับรองคุณต้องชอบ”
“ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อคำโฆษณาซะด้วยสิ”
“งั้นคงต้องรีบให้บาเทนเดอร์ชงเครื่องดื่มมาให้คุณลองแล้วล่ะค่ะ” กัญชพรหันมองบาเทนเดอร์คนนั้นอีกครั้ง ความรู้สึกบางอย่างบางอย่างปรากฏขึ้นในดวงตาคู่สวย “นอกจากชงเหล้าเก่ง หน้าตายังหล่อแถมนิสัยดีด้วยนะคะ”
หากบอกว่าเขาเป็นซาตาน กัญชพรก็ไม่ต่างจากนางมารไร้หัวใจ ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนที่เธอคิดจริงจัง ทว่าเมื่อครู่ถ้อยคำที่พีอาร์สาวเปล่งออกมา คล้ายว่ามีความรู้สึกบางอย่างแอบแฝงอยู่
ภวินท์หันไปมองบาเทนเดอร์คนใหม่ของผับ ด้วยอยากรู้ว่าผู้ชายที่ทำให้กัญชพรเอ่ยถึงเช่นเมื่อครู่ได้ หน้าตาเป็นเช่นไร ทว่าพอได้เห็น นายแพทย์ที่กำลังอารมณ์ดีกลับนิ่งขรึมขึ้นมาทันที
“บาเทนเดอร์ของคุณน่าสนใจจริงๆ ” นายแพทย์หนุ่มมองจ้องบาเทนเดอร์ที่กำลังชงเครื่องดื่มไม่ละสายตา พลางนึกในใจว่าช่างจุดไต้ตำตอเสียจริงที่ผู้ชายที่เขาเห็นอยู่กับพราวจันทร์ทำงานอยู่ผับที่เขาถือหุ้นอยู่กว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์
‘อย่าทำอะไรพี่กันต์ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าหนูไม่เตือน!’
สำหรับภวินท์แล้ว คำขู่จากปากพราวจันทร์ไม่ต่างจากลมที่พัดผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไร้ความหมาย.. ‘พี่ให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมง ถ้าไม่มาก็รอไปเจอแฟนเธอที่ไอซียูได้เลย’
เสียงกันต์ที่ร้องโหยหวนเพราะความเจ็บปวด บีบหัวใจพราวจันทร์จนหญิงสาวแทบทานทนไม่ไหว
‘หนูจะไป อย่าทำอะไรพี่กันต์’
หลังวางสายจากภวินท์ พราวจันทร์ก็รีบเปลี่ยนชุดแล้วเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่ผับทันที โดยได้ไหว้วานนงลักษณ์ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานานหลายปีซึ่งเช่าบ้านห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยเมตรให้มานอนเป็นเพื่อนเด็กชายตะวันฉาย
เจ้าของร่างอรชรหยุดยืนอยู่หน้าผับ พราวจันทร์มองเข้าไปด้านในด้วยแววตาโกรธแค้น สองมือน้อยกำเข้าหากันเมื่อนึกถึงคนที่ทำให้เธอต้องออกมาที่นี่ในคืนนี้
“คุณผู้หญิงมีอะไรให้พวกเราช่วยหรือเปล่าครับ” การ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าผับเอ่ยถามพราวจันทร์พลางมองสำรวจหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาไม่แน่ใจนักว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนนั้นใช่นักท่องราตรีหรือไม่ เพราะการแต่งตัวของเจ้าหล่อนค่อนข้างแปลกกว่าลูกค้าคนอื่นที่มาเยือนผับแห่งนี้
“ฉันมาพบคนที่ชื่อภวินท์”
การ์ดทั้งสองคนหันมองหน้ากันเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“คุณใช่คุณพราวจันทร์หรือเปล่าครับ” ก่อนหน้านี้ประมาณครึ่งชั่วโมง ตนได้รับคำสั่งลงมาว่าเจ้านายนัดผู้หญิงคนหนึ่งไว้ หากเธอมาแล้ว ให้พาไปพบที่ห้องทำงานส่วนตัวที่ชั้นสามของผับ ซึ่งเรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภวินท์ค่อนข้างหวงความเป็นส่วนตัว หากไม่ใช่คนพิเศษจริงๆ เขาไม่มีทางอนุญาตให้ขึ้นไปที่ห้องนั้นเด็ดขาด แม้กระทั่งกัญชพร พีอาร์สาวพราวเสน่ห์ประจำผับที่ชายหนุ่มควงอยู่ ยังไม่มีโอกาสได้ย่างกรายเข้าไป นึกไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนแรกที่เท้าได้เหยียบห้องนั้น จะธรรมดาขนาดนี้
“ใช่ค่ะ”
“เชิญทางนี้เลยครับ คุณพอร์ชรออยู่” การ์ดกล่าวกับพราวจันทร์อย่างนอบน้อมก่อนจะเดินนำเธอไปยังลิฟต์ที่อยู่ด้านหลังผับ ซึ่งเป็นลิฟต์ส่วนตัวที่ภวินท์และหุ้นส่วนอีกสองคนใช้โดยสารขึ้นไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกเขา “ห้องที่อยู่ด้านในสุดเป็นห้องทำงานของคุณพอร์ชครับ เชิญคุณผู้หญิงได้เลยครับ”
“แล้วคุณ..” ดวงตาคู่หวานฉายแววหวาดหวั่นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นการ์ดประจำผับที่มาส่งเธอทำท่าจะหันหลังกลับ แม้ไม่รู้จักกัน แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องไปเผชิญหน้ากับไอ้ซาตานนั่นคนเดียว “คุณไปกับฉันได้ไหมคะ”
แววตาของผู้หญิงตรงหน้าดูประหวั่นอย่างเห็นได้ชัด กระนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเข้าไปยุ่ง หน้าที่ของเขาคือทำตามคำสั่งเจ้านายที่จ่ายเงินให้ ไม่ใช่สงสารใครพร่ำเพรื่อ “หน้าที่ของผมคือมาส่งคุณ ส่วนเรื่องอื่นผมไม่ยุ่ง”
พราวจันทร์พยักหน้าให้การ์ด เธอเข้าใจทุกอย่าง คงไม่มีลูกจ้างคนไหนอยากหาเรื่องให้ตัวเองตกงาน หญิงสาวหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินต่อไปข้างหน้า แม้จะกลัวแค่ไหนก็ต้องไป เพราะหากถอยหลังกลับตอนนี้ กันต์แย่แน่