เรื่องการมาคุ้มครองเมียก็ไม่ใช่ความบังเอิญหรือพึ่งจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้น แต่ว่าที่มาช้าเพราะก่อนหน้านี้เขาติดงานสำคัญมากอยู่ แล้วตอนนั้นถูกล้อมจนต้องวางแผนหลายตลบเพื่อหลบหนีออกมาจากเขตของศัตรูได้อย่างหวุดหวิด พอเดินทางมาถึงที่บ้านลูกน้องก็รายงานเรื่องปัญหาทางธุรกิจที่เกิดขึ้นทันที ยังไม่ทันได้คิดวิเคราะห์ก็รู้ข่าวเรื่องฟีนด์ถูกลอบทำร้ายจนรถคว่ำกำลังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล เขาให้พ่อจัดการเรื่องปลอมตัวเป็นบอดี้การ์ดมาดูแลและเลือกลูกน้องฝีมือดีในประเทศใกล้เคียงเพื่อดึงตัวมาช่วยงานใหญ่ในครั้งนี้
ทุกอย่างมันคือความลับ
เมียยังไม่รู้ ลูกน้องก็ยังไม่รู้เช่นกัน
ดังนั้นสถานะของเขาในตอนนี้คือบอดี้การ์ดของหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทที่ส่งมาคุ้มครองลูกสาวของประธานคนใหม่ อีกหน้าที่คือช่วยสืบหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะคนที่ให้ความช่วยเหลือพวกมันหลบหนียิ่งต้องหาให้เจอก่อนทุกอย่างจะแย่กว่านี้ หลายคนเริ่มถูกฆ่าปิดปากและโยนความผิดมาให้พ่อตารับเต็มๆ
เงินแค่สองร้อยล้านหายไปจากบริษัท
มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
ทันทีที่เดินกลับเข้ามาในงานพ่อตามองเหมือนกำลังจับผิดกันอยู่ที่ออกไปนานเกือบชั่วโมง แต่เพราะว่าฟีนด์เปลี่ยนรองเท้าจริงและงานนี้ไม่ค่อยปลอดภัยเท่าที่ควรเลยไม่มีข้อสงสัยมากที่หายตัวไปนาน คุณหนูสองคนที่มาวอแวเขาก่อนหน้านี้ส่งยิ้มหวานมาให้ทันทีและส่งสายตาเชื้อเชิญ ส่วนเมียนั่งจ้องตาเขียวปั๊ดเลยเหมือนจะลุกมาบีบคอใครสักคน ลูกน้องสองคนทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนกังวลอะไรบางอย่างที่ควบคุมไม่ได้ในตอนนี้
“อีกครึ่งชั่วโมงเราจะกลับแล้ว มึงสองคนไปเช็ครถให้ดีอย่าให้พลาด”
“ครับหัวหน้า ว่าแต่เมื่อกี้นี้ออกไปทำอะไรกันมาเหรอ?”
“โดนด่านิดหน่อย”
“ว่าแล้วไง!?”
“รีบไปจัดการซะ”
แฮมถอนหายใจด้วยความสงสารหัวหน้าที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิดก็โดนเล่นงานอีกแล้ว ไม่รู้สิว่าคุณหนูฟีนด์เกลียดพี่บลูมเรื่องอะไรนักหนาถึงหาเรื่องไม่หยุดขนาดนี้ ตอนเช้าที่ไปรับที่โรงพยาบาลก็วีนใส่แบบไม่มีเหตุผล พอหิวข้าวก็บ่นว่าดูแลไม่ดีปล่อยให้อดอยาก หลังจากพี่บลูมแบกขึ้นรถหนีลูกปืนมาที่เซฟเฮ้าส์ได้อย่างปลอดภัยก็เรียกไปด่าแบบส่วนตัวอีกในตอนบ่าย แล้วนี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็โดนมองแรงใส่อีกแล้ว
คุณหนูเคยมีเรื่องกับหัวหน้ามาก่อนรึเปล่านะ
ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
เมื่อถึงเวลาบลูมเข้ามาพาคุณหนูที่ทำหน้าตึงไปขึ้นรถทันทีด้วยความเครียดมากเพราะเห็นแล้วแหละว่ามีคนจับตาดูอยู่ เขายังหาตัวบงการไม่ได้และไม่รู้ว่ามีอะไรมากกว่าเงินสองร้อยล้านด้วย ถ้าจะบอกว่าทำเพื่อไม่อยากถูกเก็บหรือติดคุกก็ไม่น่าจะเล่นเอาตายขนาดนี้ ถึงยังไงถ้ามันอยู่เงียบๆทำตัวเหมือนลาสบอสยังไงก็ไม่มีใครรู้ง่ายๆหรอก แต่นี่มันตามมาฆ่าฟีนด์ทุกทางเท่าที่จะทำได้
วางระเบิดก็ทำ วางกับดักก็ทำ
ฝีมือมันไม่ใช่แค่คนมีอำนาจทั่วไปแน่นอน
เขาส่งคนไปเช็คเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วได้เจอคำตอบที่ว่างเปล่า ภาพจากกล้องวงจรปิดสูญหายไปหมดเกลี้ยงด้วยความตั้งใจของมันที่กลบหลักฐานได้ดี แต่ยังดีที่คอนโดของเมียพอมีอะไรให้สืบบ้างเล็กน้อย มันต้องเคยไปที่นั่นมากกว่าหนึ่งครั้งถึงรู้ว่าจะทำอะไรยังไงให้ดูเป็นการตายที่เป็นอุบัติเหตุที่สุด มันน่าจะรู้จักฟีนด์มาก่อนหน้านี้จนอาจจะสนิทมากพอสมควรถึงได้คาดเดาอะไรหลายอย่างออกง่ายและหาทางหนีทีไล่ทันตลอด
งานยากกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว
งานแค่นี้ยังไงก็ไม่มีทางทำพลาดหรอก
“พี่บลูมหยุดก่อน”
“อะไร?”
“คือ…เราจะโดนตามอีกรึเปล่า?”
“จนกว่าจะจบเรื่องนั้นแหละ”
“ถ้าฉันตายล่ะ?”
“พี่ก็หาเมียใหม่แค่นั้นเอง”
“งั้นฉันไม่ยอมตายหรอก!” ทีแรกนึกว่าเขาจะพูดอะไรดีๆให้เบาใจขึ้นมาหน่อย หรืออย่างน้อยก็ปลอบใจกันบ้างก็ได้ แต่เขาเล่นพูดมาว่าจะหาเมียใหม่แบบนี้ใครจะยอมตายได้เล่า เราคบกันมาตั้งสี่ปีเชียวนะ แถมเก็บเป็นความลับมาตั้งนานแหนะ เธอจะไม่ยอมให้ใครมาเปิดตัวว่าเป็นเมียเขาได้ง่ายๆแล้วทำเหมือนไม่เคยมีเมียชื่อฟีนด์หรอก คนเดียวที่เปิดตัวว่าเป็นเมียได้มันคือเธอเท่านั้นแหละ
เรื่องผัวมันเรื่องใหญ่มาก
ต่อให้โดนถูกระเบิดก็ตายไม่ได้เด็ดขาด
ฟีนด์เดินไปขึ้นรถซีดานเพื่อกลับบ้านพักและพรุ่งนี้น่าจะได้กลับบ้าน หรือไม่ก็ไปค้างที่อื่นมั้ง เธอไม่ใช่คนที่อยู่กับความรุนแรงมาตั้งแต่เด็กจนโตเหมือนพี่บลูมเลยไม่รู้อะไรมาก สัญชาตญาณต่างๆก็ยังน้อยมาก เรื่องที่เธอสืบค้นเรื่องลงลึกขนาดนั้นก็เพราะว่าพ่อถูกกดดันมาจากหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท ถ้าหากว่าพ่อหาหลักฐานทุกอย่างเกี่ยวกับเงินสองร้อยล้านที่หายไปไม่ได้ พ่อก็อาจจะต้องเป็นคนรับผิดเองเพราะเอกสารมีลายเซ็นพ่ออยู่
พ่อพึ่งจะเข้าวงการสีเทาก็โดนรับน้องโหด
เธอจะตามหาทุกอย่างให้เจอ
“เรื่องระเบิดที่บ้านฉันตอนนี้ตรวจสอบไปถึงไหนแล้ว?”
“มันก็แค่ระเบิดทั่วไปที่มีขายอยู่ เราตามหาคนซื้อไม่ได้หรอก แต่คนประกอบเราตามหาได้”
“ยังไง?”
“แต่ละคนมีเอกลักษณ์คนละแบบกันไงล่ะคุณหนูฟีนด์ ระเบิดที่พี่เห็นต้องใช้ความสามารถประกอบและเก็บเอาไว้ในจุดลับสายตาคนขนาดนี้ยังไงก็ต้องเป็นฝีมือพวกเชี่ยวชาญเรื่องนี้แน่ ฝีมือมันเนี๊ยบมากจริงๆ ถ้าสมมุติว่าไม่เจอก่อนบ้านหลังนั้นคงเละเป็นจุณแล้วแหละ”
“ไม่ได้เรื่อง!”
เกรย์ขับรถด้วยความหนักใจในขณะที่คุณหนูฟีนด์เริ่มวีนใส่หัวหน้าอีกแล้ว ไม่รู้เลยว่าพ่อของคุณหนูฟีนด์เลี้ยงลูกในรังแตนรึไงถึงได้หงุดหงิดโมโหง่ายขนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นยังไงก็ต้องใช้เวลาอยู่แล้วกว่าจะหาคนวางแผนทุกอย่างเจอได้ แล้วหัวหน้าเดินทางมาถึงเมื่อวานและพึ่งมาทำงานแค่วันแรกจะให้รู้อะไรมากมายได้เล่า ลำพังโดนดักทำร้ายแล้วสามารถพาคุณหนูหนีลูกปืนมาได้โดยไม่มีแม้แต่รอยช้ำก็นับว่าเก่งมากแล้วนะ
พวกเขาต้องรีบทำงานนี้แล้วย้ายไปที่อื่น
เจ้านายคือลูกชายคนสุดท้องของคุณท่าน
“มีมอเตอร์ไซค์ตามมาสองคัน หาทางสลัดมันให้หลุดเดี๋ยวนี้เลย”
“ครับหัวหน้า”
แฮมหยิบปืนขึ้นมาเตรียมพร้อมรับแรงการปะทะเพราะมันไม่น่าจะจบลงง่ายๆแน่ พวกมันต้องการฆ่าคุณหนูเพื่อปิดปากและแก้แค้นที่ทำให้ทุกอย่างพังไม่เป็นท่า ครั้งนี้มันทุ่มสุดตัวถึงขนาดตามล่าทุกวัน ใช้อาวุธทุกอย่างเท่าที่มีและพวกเขาไม่มีทางยอมให้ทำสำเร็จหรอก
คำสั่งคือห้ามคุณหนูฟีนด์ตายเด็ดขาด
มีบางอย่างที่คุณหนูรู้
“เลี้ยวข้างหน้าเกรย์”
“แต่มันเป็นซอยแบบนั้นเราจะเสียเปรียบ”
“ไปเถอะน่า!”
“แต่หัวหน้า…”
“ไม่เสียเปรียบหรอก! มีคนรอรับมันอยู่ข้างหน้า ส่วนเราจะขับรถทะลุไปอีกซอยตัดเข้าถนนอีกเส้นแล้วกลับบ้านกัน วันนี้เหนื่อยมาเยอะแล้วควรจะได้พักผ่อนเอาแรงก่อนวางแผนใหม่”
“ได้ครับหัวหน้า”
ฟีนด์วางมือลงที่ต้นขาใหญ่ด้วยความหวั่นใจมาก เธอหันไปมองรถที่ขับตามมาด้วยความเร็วแล้วมือใหญ่วางทับมือเธอให้เบาใจขึ้น เขาหยิบปืนมาเตรียมพร้อมเผื่อมีการปะทะทั้งที่พึ่งจะพูดว่าวันนี้เหนื่อยมาเยอะแล้วนี่นะ ในจังหวะที่รถหักเลี้ยวเข้าซอยกะทันหันทำให้ตัวเธอแทบจะกระเด็นไปนั่งตักเขาอยู่แล้ว แต่ว่าเขาโอบกอดเอาไว้ไม่ให้ตัวกระแทกอะไรมากเกินไปจนเจ็บได้ น้ำเสียงกระซิบเบาๆชิดใบหูนั้นทำให้หัวใจเต้นแรงไปด้วยความตกใจมากกว่าเดิม ความกลัวและความเป็นห่วงทวีคูณ
“กลับก่อนเลยนะที่รัก เดี๋ยวพี่จะตามไปทีหลัง” บลูมบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“จอดข้างหน้าแล้วพาคุณหนูกลับไปได้เลย ถ้ามีอะไรรีบโทรมาทันที”
“ครับหัวหน้า”
เอี๊ยด!!!
รถจอดทันทีและบลูมรีบเปิดประตูลงไปเพื่อจับไอ้สองคนนั้นก่อนมันจะถูกสั่งเก็บและเขาจะเสียเบาะแสสำคัญไป ลูกน้องที่ตามมาสมทบยิ้มกว้างทันทีแล้วซ่อนตัวอย่างแนบเนียนที่สุด มันขับรถไปตามเมียเขาด้วยความเร็วมากและในจังหวะนั้นเอง เขาเล็งปืนยิงพร้อมกับลูกน้องยิงที่ล้อรถและตัวคนขับจนเสียหลักล้มไถลลงไปบนพื้นถนนจนเกิดประกายไฟพร้อมกับน้ำเสียงครางด้วยความเจ็บ
โครม!!!
“ไปเอาตัวมันมาอย่าให้ตายเด็ดขาด!”
“ครับบอส”
“กูต้องรู้ให้ได้ว่าใครจ้างพวกมันมา!”
เขาเดินไปพร้อมกับลูกน้องสี่คนแล้วจับตัวไอ้เวรสี่คนไปขึ้นรถแล้วมัดมือมัดเท้าทันที เขาจะผ่าเอากระสุนออกสดๆเผื่อว่าความเจ็บจะทำให้คลายความลับออกมา แม้ว่าจะรู้ว่าพวกมันไม่รู้จริงๆว่าใครคือนายตัวจริง แต่คนที่มาจ้างพวกมันจะเป็นเบาะแสต่อไปในการสืบหาตัวคนที่ต้องการฆ่าพ่อตาแม่ยายและเมียของเขา แล้วไอ้บริษัทเวรนี้ต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอนที่ซุกซ่อนรอการเปิดเผยอยู่
เงินสองร้อยล้านคือส่วนเล็กๆที่เปิดเผย
เมียต้องรู้อะไรมากกว่านั้นแน่