แค่ไม่ชอบให้งอน

1541 คำ
ผมถอยหลบเขา และหยั่งเชิงว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร ด้วยชุดที่เขาสวมใส่เป็นเสื้อกีฬารัดรูปกับกางเกงขาสั้น แต่ผมไม่ได้พิสมัยเขาในยามนี้ ออกจะไม่ไว้ใจมากๆ เสียด้วยซ้ำ “อย่าทำเรื่องบ้าๆ นะ ผมไม่เล่นด้วย” ผมบอกเสียงดัง พยายามฉี่ให้เสร็จโดยเร็วจากนั้นก็รีบเก็บน้องชายเข้าที่ “ผมนึกว่าคุณชอบ” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงอู้อี้ผ่านหน้ากากอนามัย และผมรู้สึกว่าเสียงนี้เหมือนได้ยินอยู่บ่อยๆ “เหี้ยแล้ว ชอบกะผีสิ ไปเลยนะก่อนที่ผมจะเรียกตำรวจ!” ผมขู่แต่อีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่ากลัว เขาพยักหน้าน้อยๆ และยังยืนขวางประตูห้องน้ำไว้ ในหัวผมคิดไป ร้อยแปดอย่าง เขาคงเป็นโจรห้าร้อย หรือโจรบ้ากามที่เพื่อนในมหา’ลัยกล่าวถึงอย่างแน่นอน เมื่อคิดถึงความไม่ปลอดภัย ผมก็เตรียมกระโจนออกไปจากห้อง น้ำ แต่มันเป็นความคิดงี่เง่าสุดๆ แค่ตั้งท่าชายคนนั้นก็รวบตัวผมไว้ และกอดรัดผมราวกับมีมือเป็นปลาหมึก “ปล่อยนะเว้ย ไม่งั้นกูต่อยจริงๆ ด้วยไอ้ห่า” ความสุภาพของผมหดหายไปแล้ว ตอนนี้พร้อมป้องกันตัวเองสุดฤทธิ์ ผมปล่อยหมัดออกไปมั่วๆ และเป็นตอนนั้นที่รู้สึกว่าผมมันช่างอ่อนหัด นอกจากไม่เป็นมวย ผมยังเอาตัวรอดจากสถานการณ์บ้าบอนี้ไม่ได้ อีกฝ่ายปลุกปล้ำผมหนักหน่วงจนหวิดจะเซหกล้มลงไปกองบนพื้นห้องน้ำ “แค่สนุกด้วยกัน อย่าดิ้นสิ” เขาว่าเสียงแหบพร่า ราวกับพวกโรคจิต “ไอ้เหี้ย มึงสนุกคนเดียวสิ” ผมว่าพร้อมออกแรงฮึดสุดกำลัง แล้วใช้ศอกถองไปที่ลำตัวอีกฝ่ายเต็มแรง เมื่อหลุดจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยงได้ ผมก็วิ่งไม่ลืมหูลืมตา ทั้งที่อยากแหกปากตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่เสียงผมกลับหดหาย ผมวิ่งออกไปได้สักระยะหนึ่ง ก็สะดุดขาตนเองและเป็นตอนนั้นที่ผมชนเข้ากับใครบางคนจนเราทั้งคู่ล้ม... “โอ๊ย!! วิ่งเหี้ยอะไร ไม่มองคน” เสียงนั้นฟังหงุดหงิดมาก “ขอโทษ” ผมหน้าเสีย หัวใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมาอยู่นอกอก “เฮ้ย มึงเองเหรอ” ผมยิ้มให้อีกฝ่าย แต่เอเจมองผมตาเขียวปั้ด และมันทำท่าเช็ดปากราวกับพบเรื่องสยองขวัญ “มะ มึงจูบกูทำไม ไอ้ขุน!” คราวนี้ผมตาเหลือก ผมเนี่ยนะจูบเอเจ ไม่มีทาง ถึงมันหน้าตาโอเคแต่ผมไม่พิศวาสผู้ชายอย่างมันแน่นอน “เฮ้ย มันเป็นอุบัติเหตุ คือ...กูสะดุดขาตัวเองล้มทับมึง” “อย่ามาตอแหล มึงจงใจจูบปากกูเต็มๆ น้ำลายงี้เหนียวหนืด” มันโวยวาย ก่อนดันตัวผมออกแล้วลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ผมทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วประเดี๋ยว จากหน้าที่ซีดจัดเพราะตกใจวิ่งหนีคนบ้ากามมา ตอนนี้กลายเป็นแดงเถือกเพราะความโกรธที่จู่ๆ ก็ตกเป็นจำเลยข้อหาจูบปากเอเจ “กูไม่ชอบนะโว้ย คราวหน้าคราวหลังอย่าทำอย่างนี้อีก ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่” เอเจว่าพร้อมเก็บของที่หล่นกระจายบนพื้นขึ้น แวบหนึ่งผมเห็นว่ามีสมุดเลกเชอร์ของทิวา ที่จำได้แม่นเพราะผมยืมของไอ้คิงคองเผือกเป็นประจำ “แล้วนั่นมึงมองห่าอะไร ชอบสอดรู้สอดเห็นไม่เข้าเรื่อง” เอเจยังคงหัวเสียใส่ผมไม่หยุด “ยังไงเราก็เพื่อนกัน กูขอโทษแล้วกัน มึงอย่าเยอะสิวะ” ผมชักรำคาญท่าทีของมัน กับคนอื่นเอเจจะเปิดใจคุยเล่นสนุก สนานโดยเฉพาะทิวา ทั้งที่ฝ่ายนั้นชอบปั้นหน้ายักษ์ใส่มัน แต่พอเป็นผม เอเจทำราวกับอยู่คนละกลุ่มแก๊งทั้งที่เราเรียนภาควิชาเดียวกัน เอเจมองผมอย่างเหยียดๆ เป็นวินาทีนั้นที่ผมเกลียดขี้หน้ามันจนสุดเกินจะทนไหว “หึๆ กูรู้ว่ามึงคิดอะไรกับทิวา...” คำพูดที่หลุดจากปากเอเจ ทำให้ใจคอผมไม่ดี “หมายความว่าไง” ผมถาม ในใจเกิดความสงสัยอย่างท่วมท้น “ฮ่าๆ ๆ กูรู้ไส้รู้พุงคนอย่างมึงดี แล้วที่เสนอหน้าทำดีกับไอ้ทิทุกวันนี้ ก็เพราะ...” เอเจทำให้ผมเสียวสันหลังวาบ เรื่องนี้เกี่ยวพันไปถึงทิวา จริงอยู่ระหว่างผมกับทิวาเรารู้จักกันได้ไม่นาน ผมยอมรับว่าทำตัวติดอีกฝ่ายมาก สิ่งนี้อาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด “เหลวไหล! คนอย่างกูบริสุทธิ์ใจกับไอ้ทิ มึงอย่ามาแกว่งปากหาตีนให้ต้องเจ็บตัวเลย” ผมโวยเสร็จก็เตรียมหมุนตัวเดินหนีอีกฝ่ายด้วยรู้ว่าการทะเลาะกับเอเจรังแต่จะเกิดเรื่องบานปลาย “กูยอมเจ็บตัวถ้าหากมันจะช่วยให้ไอ้ทิตาสว่าง เพราะคนอย่าง มึง...คิดไม่ซื่อกับทิวา!!” สิ่งที่เอเจกล่าวหาผมร้ายแรงและน่าอับอายมาก สติผมเลยขาดผึงในทันที ผมตรงรี่เข้าไปหาอีกฝ่ายโดยพร้อมบวกเต็มที่ วินาทีต่อมา ผมก็เหวี่ยงหมัดออกไป เป้าหมายคือปากปีจอของเอเจ แต่จู่ๆ หมัดผมพลันหยุดชะงักกลางอากาศ ด้วยมีแรงฉุดรั้งจากทางด้านหลังซึ่งทำให้ตัวผมเกือบปลิว!! ผมถูกทิวาลากตัวกลับโดยที่เราไม่ได้คุยสิ่งใดกัน ตอนนั้น หน้าของมันดูไม่ต่างจากคิงคองที่ปีนตึกเอ็มไพร์สเตต ทั้งดุดัน น่ากลัวแถมยังแยกเขี้ยวขาวๆ ใส่ผมเป็นระยะ เมื่อเห็นอย่างนั้นเข้า ผมเลยใจฝ่อ การปิดปากเงียบคงเป็นสิ่งที่ช่วยให้ผมเจ็บตัวน้อยที่สุด กระทั่งเรามาถึงหน้าคอนโดฯ ผมซึ่งอยู่ใกล้ๆ สวนสาธารณะ ทิวาก็เอ่ยปากพูดก่อน “เอเจเป็นเพื่อนกู มึงก็ยอมๆ มันบ้างไม่เห็นจะเป็นไร” เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ผมช็อกจริงๆ และน้อยใจมากที่ทิวารักเพื่อนเก่าและกำลังหักหน้าผม “ตะ แต่มันด่ากูก่อน กูไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย และจูบเหี้ยนั่นก็เป็นอุบัติเหตุ มึงรู้ไหมมีคนโรคจิตในห้องน้ำ มันแอบดูจู๋กู และยังจะทำมิดีมิร้ายกูด้วย” ผมบอกความจริงทั้งหมดให้ทิวารู้ “เอาละ มึงไม่เป็นไรก็ดีแล้ว” “ทำไมจะไม่เป็น กูโคตรเครียดเลยตอนนี้” ผมอยากตะโกนใส่หน้าทิวา และรัวหมัดใส่ร่างกายล่ำๆ ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของมันเต็มแก่ “กูว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเนี่ย มึงหาเรื่องใส่ตัวเองทั้งนั้น กูเตือนเลยนะ ไอ้ความสาระแน กับท่าทีแรดๆ อ่อยคนอื่นไปทั่วเนี่ย หัดเพลาๆ ลงบ้าง ไม่อย่างนั้น วันข้างหน้ามึงอาจซวยกว่านี้” ทิวาด่าผมอย่างคล่องปาก “ไอ้ห่า...มันชักจะเกินไปแล้ว คนเรามันมีขีดจำกัดโว้ย กูก็น้อยใจเป็น” ผมไม่ตั้งใจให้เสียงสั่น แต่ตอนนั้นมันควบคุมไม่ได้ และตาผมก็แดงๆ หวิดจะร้องไห้ออกมา “เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน มึงจะซึ้งอะไร กูด่ามึงอยู่นะเนี่ยสำนึกบ้าง” ทิวากล่าวหน้าตาย ผมค้อนวงโตๆ ให้ทิวา มันจะรู้ตัวไหมว่ากำลังทำให้ผมช้ำใจ “กูขึ้นห้องละ เอาไว้เจอกันวันหลัง” ผมว่าและไม่อยากสนใจมันอีก แต่ทิวาคว้าข้อมือผมไว้หมับ เมื่อผมฝืนก้าวไปข้างหน้า มันก็ออกแรงดึงแรงๆ จนผมแทบเซเข้าไปซบหน้าอกกว้างๆ ของมัน “อะไรอีก อย่าวุ่นวายได้ไหม คนกำลังหัวร้อน” ผมไม่ต้องการเห็นหน้าหล่อๆ ของมันในตอนนี้ คนตัวโตถอนหายใจเสียงดัง และมือใหญ่ๆ ที่จับข้อมือผมไว้ก็ออกแรงบีบราวกับต้องการให้ผมรู้สึกในสิ่งที่มันต้องการสื่อออกมา “กูเจ็บ!!” “เออๆ ขอโทษ แค่ไม่ชอบให้มึงงอน” “เหี้ย ใครไม่งอนก็คงมีเขางอกบนหัวแล้ว” ผมว่าโดยไม่ยอมสานสบสายตากับมัน ทิวานิ่งอยู่ประเดี๋ยว ก่อนเอ่ยเสียงอ่อนลงกว่าเดิม “คืนนี้ หอใน.น้ำไม่ไหล กูขออาบน้ำห้องมึงได้ไหม” มันขอผมง่ายๆ ตามเดิมเปี๊ยบและทำราวกับเมื่อครู่ไม่มีเรื่องหมาง ใจกัน “ตัวโตอย่างมึงกระโดดลงสระบัวหน้า ม.ดีกว่าไหม อาบน้ำห้องกูเปลืองน้ำเปล่าๆ” ผมยั่วโมโหกลับ ทิวาหัวเราะเสียงห้าวใหญ่แล้วกระซิบว่า “มึงไม่อยากถูหลังให้กูเหรอวะ...ขอนะ อาบน้ำด้วยกันสักวัน แล้วค่อยออกไปหาอะไรอร่อยๆ กิน” ได้ยินคำพูดนั้น อาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงของผมก็ทุเลาลง แต่ผมยังทำวางมาดเข้มๆ เอาไว้ เรื่องอะไรจะปล่อยให้ทิวาได้ใจ “มึงพูดแบบนี้ แสดงว่าจะขอกูเดตเพื่อไถ่โทษใช่ไหม” ผมถามและพยายามกลั้นยิ้มเอาไว้สุดฤทธิ์ คนตัวโตส่ายหน้าน้อยๆ และตอบอย่างยียวน “มึงหวังสูงเกินไปไอ้ขุน คนอย่างกูเคยไม่ง้อใครก่อน โดยเฉพาะเพื่อนผู้ชายแรดๆ อย่างมึง!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม