(ทิวาเล่าเรื่อง) ราวครึ่งชั่วโมงต่อมา รถแท็กซี่ก็ขับมาถึงหน้าคอนโดมิเนียมหรูก่อนจะเลี้ยวเข้าไปจอดใต้อาคาร ข้าวปั้นไม่ได้ลงมารับพวกผม หากแต่เป็นไอ้โฮมที่เย็นนี้สีหน้ามันดูรื่นเริงมากจนน่าหมั่นไส้ “นี่มึงซัดเหล้ากันไปแล้วหรือวะ ทำไมดูครึ้มอกครึ้มใจจังไอ้คุณ มิ่งหล้า!” ผมแดกดัน อาการโฮมเหมือนคนกำลังตกอยู่ในห้วงความรัก มันใส่เสื้อยืดตัวบางๆ เป็นลายกระต่ายน้อยสีขาวตัวอ้วน มองแล้วขัดตากับร่างกายกำยำและกล้ามแขนล่ำบึกของมัน ปกติผมกับโฮมซี้กันพอสมควร แต่วันนี้ มันดูผิดฟอร์มไม่ใช่เพราะอารมณ์ที่แจ่มใสหรอกแต่เป็นเพราะดวงตาพราวระยับและการผิวปากฮัมเพลงนั่นแหละ จนผมกับบุญเพิ่มหันมามองหน้ากัน โฮมต้องมีลับลมคมในบางอย่างที่พวกผมไม่รู้แน่นอน “เฮ้ยๆ เปล่า เพิ่งทำกับแกล้มเสร็จๆ ปะๆ กูเปรี้ยวปากนานแล้ว” โฮมตอบ ผมหันไปเห็นผ้าผันแผลที่มือข้างหนึ่งของมันจึงเอ่ยถาม “มึงไม่ไปประชุมเชียร์ แต่เสือกหนีไปต่อย