"ฝนอายุครบ18หรือยัง"
ดวงตากลมโตสบสายตากับเขาที่กุมมือของเธอไว้ข้างหนึ่ง มือของเขาเย็นเฉียบ แต่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
"หนูครบ18ตั้งแต่วันที่พ่อขับรถชนคุณแล้วค่ะ"
"เธอเกิด1พฤษภาคมหรอ"
"ค่ะ"
ปลายฝนไม่ได้แปลกใจที่เขารู้ว่าเธอเกิดวันที่ 1 พฤษภาคม เพราะมันเป็นวันที่เขาประสบอุบัติเหตุกับพ่อของเธอ
พายุมองหน้าปลายฝนคล้ายกับเด็กที่ชอบของเล่นชิ้นใหม่มาก เธอมีวันเกิดตรงกับเขา 1 พฤษภาคม
"กลับไปเก็บของนะ เอาแค่ของที่ไม่อยากทิ้งมา เดี๋ยวพี่ซื้อให้ใหม่ทั้งหมดรวมของพ่อฝนด้วย"
พายุพาปลายฝนกลับมาเก็บของ ระหว่างที่เธอกำลังเก็บชุดนักเรียนใส่กระเป๋าผ้าใบเล็กอยู่นั้น ประกายดาวที่เพิ่งกลับเข้าบ้านมาก็หาเรื่องเธอทันที
"นี่แกจะไปไหน อย่าทิ้งพ่อของแกไว้เป็นภาระของแม่ฉันนะ"
ปลายฝนทำเป็นไม่สนใจ อีกไม่นานเธอก็จะหลุดพ้นจากสองแม่ลูกนี้แล้ว
"เหอะ จองหองไปเถอะมึง อีกไม่นานเสี่ยอ้วนเค้ามาเอามึงไปทำเมียแน่"
เธอรู้ว่าแม่ของเธอจะไม่มีเงินส่งดอกเบี้ยแน่ๆอย่างไรเสียปลายฝนก็ต้องไปเป็นของเสี่ยอ้วน เธอเบะปากให้ปลายฝนก่อนจะเดินกอดอกขึ้นห้องไป
ปลายฝนเก็บชุดนักเรียน 4-5 ชุดใส่กระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอไม่มีของมีค่าอะไรอีก มีเพียงรูปที่เคยใช้ตั้งหน้าโลงศพของแม่เท่านั้นที่เป็นสิ่งมีค่าสำหรับเธอ เธอเดินออกมาคุกเข่าลงข้างเตียงของคนเป็นพ่อ ก่อนจะจับมือของพ่อมากุมไว้
"พ่อคะ เราไปจากที่นี่กันนะคะ"
"ฝน..หนูหนีไปคนเดียวจะดีกว่ามั้ยลูก อย่าเอาพ่อ... ไปเป็นภาระ "
การพูดประโยคยาวๆทำให้พิชัยรู้สึกเหนื่อยหอบ ก่อนจะพยายามดันตัวลุกขึ้นนั่ง ปลายฝนจึงเข้ามาช่วยประคองไว้
"มีคนอุปการะฝน เขาจะดูแลพ่อด้วย พ่อเชื่อใจฝนนะคะ"
เธออยากให้พ่อเชื่อใจเธอ เหมือนที่เธอเชื่อใจพี่ชายของแพรวา แม้ว่าเธอกับพายุเพิ่งจะได้เจอกัน แต่เธอกับแพรวาก็รู้จักกันมาตั้งแต่เรียน ม.1 พวกเขามาจากครอบครัวที่ดี
เวลาเพียงแค่ 20 นาที คนของปู่สรรชัยก็มาถึงและเดินตามพายุเข้ามา พวกเขามาประคองพิชัยขึ้นรถตู้ ปลายฝนจึงหิ้วกระเป๋าผ้าของเธอกับพ่อเพียง 2 ใบ และกระเป๋าหนังสือตามพวกเขาออกมา
ประกายดาวนึกสงสัยจึงลงมาอีกรอบแล้วยืนกอดอกพิงประตูมองคนสามสี่คนที่กำลังช่วยกันเคลื่อนย้ายคนป่วยขึ้นรถ
"เดี๋ยวเขาเบื่อเขาก็เฉดหัวแกทิ้ง ที่นี้แกก็พาพ่อพิการของแกเร่ร่อนไปเถอะ"
ประกายดาวจำพายุได้ เมื่อวานเขาอยู่กับปลายฝน
ปลายฝนเมินคำพูดถากถางจากลูกพี่ลูกน้อง เธอไม่อยากต่อปากต่อคำกับคนที่เธอเกลียดเข้าไส้
"เธอไปกับพี่"
พายุคว้าข้อมือของปลายฝนไว้ ในตอนที่เธอกำลังจะขึ้นที่รถคันเดียวกับพ่อของเธอ
"แล้วพ่อหนูล่ะคะ"
"ก็ขับตามกันไปไง" ในเมื่ออย่างไรก็ไปที่เดียวกัน ทำไมถึงไม่ให้เธอนั่งกับพ่อของเธอกันนะ ได้แต่สงสัยแต่ก็ยอมเดินตามแรงจูงของเขาไป
ระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนออกจากซอยคับแคบ ต้นเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจไปอยู่กับพายุก็กำลังเดินสวนเข้ามา น้าวดียืนตะลึงมองรถคันหรูอย่างให้ความสนใจ เธอคงไม่รู้ว่าปลายฝนกับพิชัยกำลังหนีจากวงโคจรอันเลวร้ายของเธอ
'ลาก่อน สลัม' เธอคิดในใจ ตั้งแต่บ้านหลังใหญ่โตของพ่อกับแม่โดนยึดไป พวกเธอก็ต้องจำใจมาอยู่กันที่นี่เพราะค่าเช่าบ้านราคาถูก ก่อนที่แม่ของเธอจะตายชีวิตก็ค่อนข้างลำบากอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีแม่ที่คอยรับฟังความทุกข์ใจเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน พอแม่ตายทุกๆอย่างดันมาตกอยู่ที่เธอ เดือนกว่าๆที่แสนลำบาก พอกันที ในเมื่อเธอเลือกที่จะทำให้ชีวิตสบายขึ้นได้ทำไมเธอต้องทิ้งโอกาสนั้นไปล่ะ ศักดิ์ศรีไม่ช่วยให้เธอลำบากน้อยลงนี่ แม้ว่าเขาอาจจะเอ็นดูเธอไม่นาน แต่ก็ขอแค่สักช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ที่เธอจะกับพ่อไม่ต้องพบกับความลำบากขนาดนี้ต่อไป
"รถใครน่ะดาวเหมือนพึ่งออกจากบ้านเราไป ใช่มั้ย"
"ก็อีฝนน่ะ มันคงขายตัวให้คนรวย เขามารับมันกับพ่อมันไปแล้ว"
"ห๊าาา แล้วแกทำไมไม่ห้ามมันไว้ มันหนีไปแล้วแม่ก็ต้องหาเงินใช้หนี้เสี่ยอ้วนน่ะสิ ตายๆๆๆ เงินตั้งสองหมื่นกูจะไปหาจากไหนวะเนี่ย"
"อ้าว แม่ขายมันให้เสี่ยอ้วนแล้วหรอ ดาวไม่รู้นี่แม่ไม่บอกดาวก่อนอ่ะ"
"แม่ไม่นึกว่ามันจะหนีไปไง แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ กูเอ้ยยย"
วดีตกลงขายหลานสาวให้เสี่ยอ้วนในจำนวนเงินสองหมื่นบาท ตอนเย็นเธอกะว่าจะหลอกล่อให้ปลายฝนไปที่บ้านของเสี่ยอ้วนให้ได้ ถ้าขืนให้เสี่ยอ้วนมาทำมิดีมิร้ายปลายฝนที่บ้านเช่า มีหวังชาวบ้านได้ยินเสียงมันแหกปากต้องแห่มาช่วยมันแน่ๆ
พายุเลี้ยวรถเข้ามาในหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากโรงเรียนเธอพอสมควร ลักษณะบ้านแถวนี้เหมือนกันหมดทุกหลัง เพราะเป็นหมู่บ้านจัดสรรของปู่สรรชัยที่ยกให้เป็นของเขาเรียบร้อยแล้วนั่นเอง บ้านในหมู่บ้านนี้มีเจ้าของหมดแล้วทุกหลัง ยกเว้นสองหลังที่อยู่ติดกันนี้ ที่เขายังไม่ได้ขายมันให้กับใคร
ที่เขาเลือกให้ปลายฝนกับพ่อของเธอมาอยู่ที่นี่ เพราะมั่นใจว่าเรื่องของเขากับปลายฝนจะไม่ถูกแพร่งพราย บ้านแต่ละหลังค่อนข้างมีราคาที่สูง เพื่อนบ้านแต่ละคนจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงาน ทำธุรกิจ ไม่มีคนประเภทช่างนินทาเพราะวันๆว่างงาน
รถตู้ที่ขับตามกันมาเลี้ยวเข้าบ้านที่อยู่ติดกันข้างๆ ทำให้ปลายฝนเกิดคำถาม
"ทำไมพ่อหนูไปอยู่บ้านหลังนั้นคะ แล้วให้หนูอยู่บ้านหลังไหนคะ" พายุจับที่ไหล่ทั้งสองข้างของปลายฝนให้เธอมองหน้าเขา
"พ่อเธออยู่บ้านหลังนั้น จะมีพยาบาลดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และจะมีหมอมากายภาพให้ถึงที่นี่"
ปลายฝนได้ยินสิ่งที่คนตรงหน้าบอก เขาทำมากกว่าที่เธอคิดไว้เยอะเลย
"แล้วหนูล่ะคะ"
"พี่ให้คนดูแลพ่อเธอแล้ว เธอก็อยู่ดูแลพี่ที่บ้านหลังนี้ พี่ส่งเธอเรียน เธอก็เรียนแค่นั้น เข้าใจมั้ย"
ปลายฝนพยักหน้ากับเขาเป็นจังหวะเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นเพราะมีสายโทรเข้ามา
คาริสา
เขากดรับสายคนรักแล้วเดินออกห่างจากปลายฝน หญิงสาวจึงเดินออกทางหน้าบ้านเพื่อไปหาพ่อของเธอก่อน
"ครับ ริสา"
"วันนี้ยุไม่เห็นโทรหาริสาเลยค่ะ"
ปกติไม่ว่าเธอจะรับสายเขาหรีือไม่ เขาก็จะโทรหาเธอก่อนเสมอ
"วันนี้เรายุ่งนิดหน่อยน่ะ ริสาทานข้าวหรือยังครับ"
"กำลังทานค่ะ ริสาต้องวางสายแล้วค่ะยุ ช่างเรียกแต่งหน้าแล้ว รักยุนะคะ"
ไม่รอให้เขาตอบกลับ คาริสาก็ชิงวางสายไปเสียก่อน เขาเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงสแลคสีดำแล้วเดินไปตามปลายฝนที่อยู่บ้านอีกหลัง
"มานี่ก่อน ทางนี้เดี๋ยวเขาจัดการกันเอง"
พิชัยมองเห็นลูกสาวโดนชายหนุ่มจูงแขนเดินออกไปก็พอจะเข้าใจเรื่องราวดี นี่ไม่ใช่แค่การรับอุปการะแต่เป็นการแลกเปลี่ยน