โจรภูเขาออกอาละวาด

2018 คำ
จิตใจของฉินฝานหรูเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเขาได้รับข่าวการแหกคุกของพวกโจรภูเขา จากหลิวเจิ้ง ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเขาไม่อยู่โจรพวกนั้นถึงได้กล้ากระทำเรื่องอุกอาดเช่นนั้น และหากว่าเขายังไม่กลับไปในทันทีสถานการณ์อาจจะยิ่งแย่ไปมากกว่านี้ เพราะแม้จะปราบโจรไปได้มากแล้ว แต่สถานการณ์ก็ยังคงควบคุมไม่ได้ ความกล้าของโจรเหมือนจะเพิ่มขึ้นในวันที่แผ่นดินจินหลิงขาดเขา และความพยายามก่อนหน้านี้ของเขาที่ตั้งใจจะปราบโจรให้หมดจากแผ่นดินจินหลิงก็จะเปล่าประโยชน์ ฉินฝานหรูรู้ว่าเขาต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด จึงได้คิดที่จะเอาข้ออ้างนี้มาเพื่อขอตัวกลับไปที่จินหลิง โดยไม่ต้องรอองค์หญิงจากแคว้นพันธมิตรที่จะมาแต่งงานกับเขามาถึงก่อน ตามที่ฮ่องเต้ได้สั่งเอาไว้โดยใช้ข่าวการหลบหนีของโจรเป็นข้ออ้าง คิดได้อย่างนั้นอ๋องฝานหรูก็เข้าไปขอพบฮ่องเต้ด้วยความเร่งรีบ “ฝ่าบาท สถานการณ์ในจินหลิงเริ่มเลวร้าย โจรภูเขาที่ถูกคุมขังไว้แหกคุกหนีออกไปได้ หม่อมฉันจำเป็นต้องกลับไปควบคุมสถานการณ์ทันทีเพื่อฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยและรับรองความปลอดภัยให้แก่ประชาชนจินหลิง” ฮ่องเต้เมื่อได้ฟังดังนั้นก็เข้าใจถึงความรุนแรงของสถานการณ์ เขาพยักหน้ารับ และเข้าใจถึงความจำเป็นเรื่องที่ฉินฝานหรูกล่าวมา “ไปเถอะ ฉินฝานหรูข้าเข้าใจ ที่จินหลิงพวกโจรร้ายกาจนัก ข้าจึงได้ตัดสินใจยกให้เจ้าดูแลที่นั่น” เขาพูด น้ำเสียงของเขาเจือด้วยความกังวล "ส่วนเรื่องแต่งงาน รอให้ขบวนเสด็จเดินทางมาถึงต้าเฉิงข้าจะให้ฮองเฮาช่วยเจรจากับทางนั้นให้ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเราค่อยคิดกันอีกทีว่าจะจัดงานแต่งที่เมืองหลวง หรือจะไปจัดที่จินหลิงเสียทีเดียว เพราะถึงอย่างไรองค์หญิงก็ต้องไปอยู่ดูแลเจ้าที่นั่น" ฉินฝานหรูพยักหน้ารับ เขาไม่ได้สนใจเรื่องแต่งงานตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เมื่อได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้แล้ว ฉินฝานหรูก็ไม่เสียเวลาในการเตรียมการ เขารวบรวมทหารผู้ภักดีกลุ่มเล็ก ๆ และออกเดินทางกลับไปที่จินหลิง จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความวิตกกังวล เขารู้ว่าความสำเร็จของภารกิจนี้มีความสำคัญ ไม่เพียงแค่ส่งผลต่อชื่อเสียงของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความมั่นคงของเมืองจินหลิงที่เขาได้ปกครองด้วย ขณะที่เขาเดินทางกลับไปยังจินหลิง ฉินฝานหรูได้ไตร่ตรองถึงความบ้าบิ่นที่เพิ่มขึ้นของพวกโจรภูเขา ทำไมพวกมันถึงได้กล้าบุกเข้ามาถึงในเขตเมือง ทั้งยังมีความสามารถในการหลบเลี่ยงการจับกุมของทหารได้ เพราะไม่เพียงแค่ทหารของจินหลิง แต่ยังมีทหารจากกองทัพหลวงเข้าไปเสริมการคุ้มกันอีกตั้งมากมาย หรือจะเป็นเพราะว่าเขาแบ่งกำลังทหารออกไปอยู่ในป่ามากเกินไป ระหว่างการเดินทางฉินฝานหรูคิดอะไรมากมายไปหมด นอกจากเรื่องโจรแหกคุกแล้ว เขายังต้องคิดว่าจะพูดกับซินฟางว่าอย่างไร เรื่องที่เขากำลังจะต้องแต่งงานกับสตรีอื่น ที่หมู่บ้านโจรกำลังวุ่นวาย เพราะพวกพ้องที่ถูกช่วยออกมาได้บาดเจ็บอย่างหนักทุกราย ชาวบ้านบางคนที่ลูกหลานและคนในครอบครัวของตัวเองไม่ได้กลับมาด้วย พยายามเรียกร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งทั้งหมดต้องถูกรับผิดชอบโดยฉูเทียนจิงในฐานะของหัวหน้ากองโจรคนใหม่ “ลูกชายของข้าต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่แห่งหนใดก็ไม่รู้ อย่างน้อยพวกเจ้าก็น่าจะเอาศพของเขากลับมาให้ข้าได้ทำพิธีบ้าง” หญิงมีอายุผู้หนึ่งร้องไห้โวยวายอยู่ที่ลานรวมพล ฉูเทียนจิงเรียกทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ เพราะเขาจะออกปล้นตามแผนของอี้เหม่ยหลิง “ท่านอาจู้จิ่ง อาเจียวลูกชายท่านสละชีวิตเพื่อพวกพ้อง ข้าไม่เห็นศพของเขาในคุกเมื่อคืนนี้ คิดว่าคงจะตายไปเสียตั้งแต่ช่องแคบเขตชายแดน วันที่ท่านลุงเวยชิงกับลูกอีกสองคนรอดชีวิตกลับมาแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวพลางเหน็บแนมอดีตหัวหน้ากองโจร อี้เวยชิงได้แต่ก้มหน้าเขาไม่กล้าสบตากับใครทั้งนั้น เพราะรู้สึกผิดที่พาพวกพ้องไปบาดเจ็บล้มตาย “เอาเถอะ นั่นมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ข้าในฐานะของหัวหน้ากองโจรคนใหม่ ต้องการอาสาสมัครที่จะออกไปปล้นในวันพรุ่งนี้ ข้าจะไม่บังคับใครไป หากใครต้องการจะไปปล้นกับข้าก็จงก้าวออกมา และหวังว่าผลงานการบุกเข้าไปชิงตัวพวกพ้องออกมาจากคุกหลวง จะช่วยสร้างความมั่นใจกับพวกเจ้าทุกคน ว่าข้าจะสามารถเป็นผู้นำทัพคนใหม่ที่เชื่อมั่นได้ เพราะเมื่อคืนนี้ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ ล้มตาย หรือถูกจับแม้แต่ผู้เดียว” ผลงานของครอบครัวอี้ถูกขโมยไปต่อหน้าต่อตา แผนการชิงตัวพวกพ้องออกมาจากคุกเป็นของอี้เหม่ยหลิงแท้ๆ นางทั้งวางแผนและสอดแนมทำแผนที่เพียงลำพัง อีกทั้งการนำทัพก็ดูจะเป็นผลงานของอี้เวยชิงเสียมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้นอี้เวยชิงก็ไม่คิดจะพูดอะไร อย่างน้อยเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จครั้งนี้ และเขาก็ไม่ได้คิดอยากได้หน้าอยู่แล้ว ก็เพียงแค่อยากจะช่วยพวกพ้องออกมาเพื่อไถ่ความผิดที่ทำให้พวกเขาถูกจับไปทรมานเท่านั้นเอง “ข้าไม่ไปหรอกนะท่านพ่อ” อี้มู่จ้าวเอ่ยขึ้น ในตอนนี้ร่างกายของเขากลับมาดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงกับจะออกไปสู้รบกับใครได้ “เจ้ายังเดินไม่คล่องเลย อย่างไรพ่อก็ไม่ยอมให้เจ้าไปอยู่แล้ว” คนเป็นพ่อกระซิบตอบ “ไม่ใช่เพราะร่างกายของข้าหรอกที่ทำให้ข้าไม่อยากไป แต่เพราะความโอหังของหัวหน้ากองโจรคนใหม่ต่างหาก ข้าก็อยากจะรู้นักถ้าไม่มีแผนของหลิงเอ๋อร์มันจะมีผลงานมาอวดอ้างเช่นนี้หรือไม่” “อามู่...” พูดจบชายหนุ่มก็เดินหนีออกไปจากลานรวมพลทันที ทิ้งให้อี้เวยชิงยืนอยู่เพียงลำพังท่ามกลางผู้คนที่กำลังโต้เถียงกันว่าใครจะไปร่วมปล้นบ้าง ท่ามกลางผืนป่าที่กว้างใหญ่ มีถนนเส้นหนึ่งตัดผ่านช่องแคบของภูเขาสูงสองลูกที่ตั้งขนานกัน ในช่วงเวลาพลบค่ำมีขบวนเกวียนบรรทุกสินค้าจากต่างแดนที่เดินทางเร่ขายสินค้ามาเรื่อยๆ เกวียนเล่มหนึ่งในขบวนบรรทุกสมบัติไว้มากมาย ล้อของมันส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเพราะน้ำหนักของสินค้าที่บรรทุกอยู่บนเกวียน อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ผ้าไหม และสินค้าแปลกใหม่ ดึงดูดความสนใจของพวกโจรที่ซุ่มอยู่บนภูเขาจนพวกมันแทบจะอดใจไม่ได้ เมื่อเกวียนเคลื่อนเข้ามาใกล้ พวกกลุ่มโจรภูเขาก็เตรียมความพร้อมที่จะบุกปล้นขบวนเกวียนสินค้า เสียงฝีเท้าของพวกเขาเงียบกริบท่ามกลางเสียงของธรรมชาติที่ล้อมรอบพวกเขา การปล้นครั้งนี้เต็มไปด้วยความหวัง เพราะนานมากแล้วที่กลุ่มโจรภูเขาไม่ได้ออกปล้นเลย เพราะต้องซ่อนตัวจากกองกำลังทหารที่กระจายอยู่ทั่วป่า แต่เหมือนว่าการออกปล้นครั้งนี้มีโอกาสสำเร็จค่อนข้างสูง เพราะพวกโจรรู้ว่ามีทหารคุ้มกันขบวนกี่คน และซ่อนตัวอยู่ในส่วนใดของขบวนบ้าง และยังรู้เส้นทางหลบเลี่ยงกองกำลังที่กระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ในป่าอีกด้วย หัวหน้ากองโจรคนใหม่แทบไม่ต้องทำอะไร เขามอบหมายหน้าที่ต่างๆ ให้สมาชิกแต่ละคนตามความสามารถของพวกเขา กลุ่มหนึ่งกระจายกำลังอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อรอโจมตีระยะไกลจากพื้นที่ใกล้เคียง อีกกลุ่มถูกวางตำแหน่งให้เตรียมเส้นทางหลบหนีและคอเฝ้าระวังไม่ให้ถูกตลบหลังได้เหมือนกับคราวก่อน และอีกกลุ่มรอตีระยะประชิด จัดการกับทหารที่แฝงตัวมาในขบวนแล้วปล้นเอาของมีค่าออกไปโดยเร็วที่สุด “ข้าหวังเหลือเกินว่าแผนนี้จะช่วยกอบกู้ความหวังของพวกเราให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่เสียขวัญกันจนไม่เป็นอันทำอะไร จากการปล้นในครั้งที่แล้ว” ฉูเทียนจิงพูดขึ้น สายตาของเขาจ้องมองไปที่เกวียนซึ่งในแผนเขียนกำกับเอาไว้ว่ามีกองกำลังทหารซ่อนอยู่ “ข้าเชื่อมั่นในแผนการของหลิงเอ๋อร์ นางทำให้พวกเราช่วยพวกพ้องสำเร็จมาแล้วหนหนึ่ง” อี้เวยชิงที่นั่งอยู่ใกล้กันพูดขึ้น ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าเพียงเหลือบมองคนพูดเล็กน้อย ความจริงที่เขาไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไหร่นัก ก็คือความสำเร็จที่เราภูมิใจนักหนา มันควรเป็นผลงานของอี้เหม่ยหลิง ฉูเทียนจิงรอจนได้จังหวะที่เหมาะสมที่สุด ก่อนที่เขาจะยิงธนูไฟขึ้นฟ้า เพื่อส่งสัญญาณบอกกับทุกคนให้ดำเนินการตามแผนที่คุยกันไว้ เมื่อได้สัญญาณ พลธนูก็รัวยิงไปยังจุดสำคัญอย่างบ้าคลั่ง ส่วนกลุ่มโจมตีระยะประชิดก็กระโจนเข้าโจมตีอย่างรวดเร็ว พวกเขาล้อมรอบเกวียนตามจุดที่สำคัญได้จึงทำให้การเข้ายึดเกวียนง่ายขึ้นกว่าครั้งก่อนมาก การเคลื่อนไหวของพวกทหารพร่ามัวจากยาพิษที่พวกโจรภูเขาสาดใส่หน้าของเขา มือของพวกโจรขยับกวัดแกว่งดาบอย่างแม่นยำ ฟาดฟันลงจุดสำคัญอย่างเชี่ยวชาญ พวกเขาเป็นเหมือนเครื่องจักรที่ทาน้ำมันอย่างดี ทำงานอย่างไร้ที่ติและยึดขบวนเกวียนได้สำเร็จในเวลาเพียงไม่นาน “พวกพ่อค้าที่ไม่อยากตาย จงทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งไปให้เร็วที่สุด” ฉูเทียนจิงร้องบอก เขาไม่ได้อยากฆ่าแกงผู้คนสักเท่าไร โดยเฉพาะพวกที่ไม่มีทางสู้อย่างพวกพ่อค้า พวกโจรภูเขาย้ายสินค้าที่ปล้นมาจากขบวนเกวียนต่างแดน ไปตามช่องทางที่อี้เหม่ยหลิงวาดให้ในแผนที่อย่างเงียบ ๆ และรวดเร็วหีบใส่ข้าวของถูกทิ้งไว้ว่างเปล่าบนเกวียน ผลัดเปลี่ยนเป็นหีบไม้ที่เตรียมมาเอง ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า ขนย้ายได้สะดวกกว่า น้ำหนักของสมบัติที่ยึดมาได้มันเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมีราคา อัญมณีระยิบระยับ ผ้าไหมพลิ้วไหวราวกับน้ำ และสิ่งประดิษฐ์อันวิจิตรบรรจงกระซิบเรื่องราวแห่งตำนานโบราณ เมื่อภารกิจของพวกเขาสำเร็จ พวกหัวขโมยก็สลายตัวกลับเข้าไปในเงามืด หายเข้าไปในผืนป่า หัวใจของพวกเขาเต้นแรงด้วยความเบิกบาน ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นในความสามารถอันกล้าหาญของ ฉูเทียนจิงได้รับคำชมเชยอย่างคลับคลั่ง โดยไม่มีใครรู้เลยว่าแท้จริงแล้วความสำเร็จนี้มาจากอี้เหม่ยหลิง ที่สละตัวเองเข้าไปเสี่ยงอยู่ในเมืองจินหลิงเพียงลำพัง ทั้งแผนการในการปล้น การวางกำลัง และแผนที่หลบหนีล้วนเป็นของอี้เหม่ยหลิงทั้งสิ้น ฉูเทียนจิงมีหน้าที่เพียงสั่งการเท่านั้น โดยอาศัยคำแนะนำของอี้เวยชิงอีกด้วยซ้ำไป สมบัติที่ถูกขโมยถูกซ่อนไว้อย่างปลอดภัย พวกเขารู้ว่าจะต้องประสบความสำเร็จในการปล้นอีกครั้งอย่างแน่นอน และการปล้นครั้งนี้ก็ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส หรือล้มตายเลยแม้แต่คนเดียว ของที่ปล้นมาได้ก็มากพอจะทำให้หมู่บ้านโจรอยู่กันได้อีกสักระยะ หากทหารของจินหลิงเข้มงวดมากขึ้นจนทำให้พวกเขาออกไปปล้นไม่ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม