“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า!!”
“อย่า...ขยับ” สีหน้าของนายทหารหนุ่มนิ่งงัน เขากะพริบตาถี่และหายใจแรงจนพอหวาเริ่มสังเกต เขายังกอดเธอเอาไว้แน่น แต่เหมือนเรี่ยวแรงจะเริ่มผ่อนลงทั้งที่มือยังรั้งรัดเอาไว้
“นี่...เกิดอะไรขึ้น!!”
สุริเยนทร์ทรุดฮวบลงจนหญิงสาวต้องประคองเอาไว้ เมื่อไม่มีร่างใหญ่บดบังวิสัยทัศน์ เธอจึงเห็นงูตัวใหญ่ที่เลื้อยหนีเข้าพงหญ้าอยู่ไวๆ และได้รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง
เขาถูกงูกัดและเป็นงูที่มีพิษอันตรายมากเสียด้วย
“....” ชายหนุ่มหายใจแรง สีหน้าซีดลงถนัดตา เขาเหลือบมองบาดแผลที่แขนซึ่งเริ่มมีเลือดซึมติดแขนเสื้อ พอวารีบพยุงให้เขานั่งพิงต้นไม้ใกล้ๆ แล้วแกะแขนเสื้อลายพรางสำรวจอาการบาดเจ็บ
“ไหวไหม...” เธอถาม ซึ่งเขาก็พยักหน้า หญิงสาว บีบตรงปากบาดแผลให้เลือดไหลออกมามากที่สุด แล้วดึงมีดพกออกจากฝักตรงสะเอวของเขาแล้วตัดแขนเสื้อจนขาด จากนั้นตัดอีกตามความยาวเพื่อใช้มัดเหนือรอยกัดเพื่อไม่ให้พิษดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
“เราต้องออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ไม่งั้นคุณไม่รอดแน่” สีหน้าและแววตาของเธอไม่มีแววตื่นตระหนกแม้แต่น้อย จัดการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยความคล่องแคล่วแต่เบามือ จากนั้นรีบสอดมือพยุงเขาจากด้านหลังให้ลุกขึ้น สุริเยนทร์ทำตามแต่โดยดี เพราะตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่เขาพึ่งพาได้
“คุณชื่ออะไร...” หญิงสาวเริ่มพูดดีด้วย อย่างน้อยๆ เขาก็ช่วยเธอเอาไว้ หากชายหนุ่มในชุดทหารพรานคนนี้ไม่เข้าไปขวาง คนที่ถูกงูกัดก็คงเป็นเธอ และมันคงเลวร้ายเสียยิ่งกว่า เพราะตำแหน่งมือของเขาที่ถูกกัดอยู่ตรงด้านหลังของเธอ หมายความว่าหากไม่มีมือขวางอยู่ งูก็จะกัดเธอตรงแผ่นหลัง ซึ่งควบคุมการกระจายของพิษได้ยากกว่า พิษก็กระจายเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ง่ายกว่าอีกด้วย
“สุ...สุริเยนทร์” น้ำเสียงของเขากระท่อนกระแท่น แต่ขาก็ยังเดินได้เร็ว มือข้างหนึ่งกำประคองมือข้างที่บาดเจ็บไม่ให้สะเทือนมากนักขณะเคลื่อนไหว
“ฉันชื่อพอวา...ฉันเป็นหมอ” น้ำเสียงของเธอปนหอบ ประคองร่างใหญ่ทุลักทุเลออกจากป่าจนมาถึงทางเดิน เธอก็พาเขาไปนั่งบนโขดหินข้างลำธารที่ลงอาบเมื่อครู่
“คุณต้องรอฉันอยู่ที่นี่ ฉันไม่มีเซรุ่มติดตัว ถ้าเดินมากพิษจะแพร่กระจายเร็วขึ้น ฉันจะรีบไปเอาเซรุ่มแล้วให้คนมาช่วยพาเข้าหมู่บ้าน” พอวากล่าวรวบรัด คลายผ้าตรงแขนเหนือบาดแผลชั่วครู่แล้วรีบมัดไว้ดังเดิม สายตาของเธอจับจ้องอยู่กับสีหน้าของเขาตลอดเวลา
“แผลไม่ลึกเพราะแขนเสื้อคุณหนา ไม่ต้องตกใจคุณจะไม่เป็นไร...” เธอพยายามปลอบ ชายหนุ่มก็พยักหน้า สภาพร่างกายที่แข็งแรง บวกกับทักษะในการใช้ชีวิตในป่าทำให้พอวาเชื่อมั่นว่านายทหารหนุ่มผู้นี้รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรเพื่อให้พิษแพร่กระจายเข้าสู่ร่างกายน้อยที่สุดในระหว่างที่รอเธอกลับมา
พอวาคว้ากระเป๋าปฐมพยาบาลแล้ววิ่งไปตามทางที่ทอดยาวเข้าสู่หมู่บ้านที่เธอพักอยู่โดยไม่เหลียวหลังกลับมามองให้เสียเวลา สุริเยนทร์ก็นั่งจับแขนข้างที่บาดเจ็บเอนพิงหินก้อนใหญ่ด้านหลังแล้วหลับตาลง พร้อมถอนหายใจยาว ผ่อนคลาย...