บทที่ 3 ตอนที่ 1

1297 คำ
“เป็นไงบ้างครับผู้กอง!?” ทันทีที่เห็นร่างของหัวหน้าหน่วยก้าวผ่านเต็นท์หลังใหญ่ ซึ่งถูกใช้เป็นห้องประชุมและฐานบัญชาการ เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาก็รีบลุกขึ้นเพื่อทำความเคารพ และหนึ่งในนั้นก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย “ก็แค่ผู้หญิงคนเดียว พวกนายคิดหรือว่าจะคณามือฉัน?” น้ำเสียงแสนโอ้อวดตัวดังผ่านปากของ ‘ผู้กอง’ ให้ได้ยิน “ผู้หญิงเหรอครับ?” ดูเหมือนคำบอกเล่านั้นจะเรียกความประหลาดใจจากเหล่าลูกน้องของเขาได้ไม่น้อย ผู้บังคับบัญชาพยักหน้าเบาๆ ก่อนโยนร่างที่พาดอยู่บนบ่าลงบนพื้น ไม่ยี่หระ “โอ๊ย!” เหยื่อสาวร้องโอดครวญ เพราะก้นกระแทกพื้นและเธอกลิ้งไปตามแรงเหวี่ยง “มันคิดยังไงส่งผู้หญิงมาคนเดียว?” นั่นก็เป็นคำถามที่คนเป็นผู้กองอย่างจะรู้ แต่จะรู้ได้... ก็คงต้องเค้นเอาจากปากเชลยสาวเสียล่ะมั้ง “ก็ลองถามดูสิ” ไม่พูดเปล่า หัวหน้าหน่วยเจ้าของรูปร่างกำยำสูงใหญ่ ทรุดกายลงนั่งข้างร่างอันสั่นเทาของเฉลยสาว ก่อนจะดึงผ้าที่คลุมศีรษะของอีกฝ่ายออก “คุณ/นาย!!” ทันทีที่ผู้กองหนุ่มและเชลยสาวได้สบตากัน และมีโอกาสได้สำรวจเครื่องหน้าของกันอย่างเต็มตา สองเสียงก็ประสานกันพร้อมเพรียง ดวงตาหวาดระแวงของเธอจ้องเขานิ่งอึ้ง เช่นเดียวกับที่เขาก็มองเธอเขม็ง แต่ฝ่ายสาวเจ้าจะชิงเป็นลมไปก่อนด้วยความเหนื่อยอ่อน กดดัน และหวาดกลัวที่เพิ่งเผชิญมา “เฮ้ย” สุริเยนทร์อุทานสั้นๆ ก่อนรีบใช้อ้อมแขนรับปวกเปียกนั้นไว้ทัน เขาอุ้มคนหมดสติพาลุกยืน “นั่นผู้กองจะทำอะไรครับ? จะพาคนร้ายไปไหน?” ลูกน้องคนหนึ่งร้องถามด้วยความไม่เข้าใจพฤติกรรมของผู้บังคับบัญชา “เธอไม่ใช่คนร้าย เดี๋ยวฉันจะมาอธิบายให้ฟังทีหลัง” เขาบอก แล้วพาตัวหญิงสาวเดินออกไปด้วยความเร่งรีบ ชายหนุ่มก้าวเดินอย่างมั่นคงพาร่างเล็กๆ ในอ้อมแขนตรงไปยังเต็นท์หลังใหญ่ ซึ่งเขาใช้ต่างห้องนอนในยามที่ต้องออกมาปฏิบัติภารกิจ สองมือผ่อนร่างสิ้นสมประดีของอีกฝ่ายลงบนเตียงนอนแคบแข็งของตนเองด้วยความทะนุถนอม ทอดสายตามองใบหน้าที่บังเกิดรอยช้ำจากศอกของเขาด้วยความรู้สึกผิด “ผมขอโทษ ไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นคุณ” ปลายนิ้วกร้านจากการจับอาวุธยกขึ้นเกลี่ยเส้นผมประปรกหน้าผากของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ก่อนจะนึกได้ว่าเขาควรทำการปฐมพยาบาลเธอเสียก่อน ร่างสูงกลับมาพร้อมกับกระเป๋ายา กะละมังใส่น้ำ และผ้าขนหนูนุ่มสะอาด ตัวเธอเปื้อนฝุ่นไปหมดจากการต่อสู้ ดังนั้น... เขาควรดูแลเธอจนกว่าจะฟื้นได้สติ แล้วค่อยถามไถ่ความเป็นมา ว่าเหตุใด หญิงสาวจึงมาปรากฏตัวอยู่ในบริเวณฐานลับของเขายามค่ำคืนเช่นนี้ มันค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว แน่ล่ะ...เขามักพบเธอในที่อันตรายเสมอ แม่สาวประหลาด ชายหนุ่มเริ่มจากเช็ดใบหน้าที่มีรอยช้ำและเปื้อนฝุ่นนั่นก่อนเป็นอันดับแรกแล้วกัน แล้วค่อยเช็ดในร่มผ้าเป็นอันดับถัดไป ร่างเล็กจึงเริ่มขยับ “อือ...” ความเย็นที่ป่ายปัดไปตามใบหน้า ทำให้คนที่เป็นลมค่อยๆ ฟื้นคืนสติ สายตาที่ยังไม่คุ้นชินกับแสงภายในเต็นท์หลังใหญ่มองเพียงใบหน้าของคนที่เธอคิดว่าเป็นโจรอย่างเลือนราง หญิงสาวผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตื่นตระหนก เพราะความคิดสุดท้ายก่อนหมดสติคือการที่เธอโดนคนร้ายจับตัวมายังฝังแน่นในจิตสำนึก “คุณ! ใจเย็น ๆ ไม่ต้องตกใจ คุณปลอดภัย” มือใหญ่ยื่นไปกดไหล่เล็กๆ ของเธอเอาไว้ เพื่อเรียกสติ เมื่อเห็นว่าคุณหมอสาวเตรียมจะลุกหนี “คุณ... สุริเยนทร์?” คุณหมอสาวเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจนัก พยายามมองเขาจนแน่ใจ แต่ก็ยังทำหน้างงๆ เหมือนกำลังรวบรวมสติ เพื่อลำดับเหตุการณ์ “ใช่...ผมสุริเยนทร์เอง หรือคุณจะเรียกผมว่า ‘เสือ’ ก็ได้” สีหน้าและแววตาที่ยังคงหลงเหลือความตื่นตระหนกอยู่ ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจผ่อนคลายบรรยากาศด้วยมุกด้าน ๆ ที่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะขำหรือไม่ “ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับคุณพอวา ถึงชื่อผมจะน่ากลัว แต่ตัวก็ผมน่ารักนะ” พอวาทำสีหน้าประหลาดใส่คนที่ส่งยิ้มทะเล้นมาให้ พยายามมองหา ‘ความน่ารัก’ ที่อีกฝ่ายอ้างถึง แต่ดูเหมือนจะยากเหลือเกิน “โอ๊ย!” ความจุกเสียดที่หน้าท้องยังคงอยู่ และมันเริ่มจะกำเริบจนเธอต้องงอตัวกุมท้องเอาไว้เพื่อหวังจะบรรเทาความเจ็บปวด “คุณโอเครึเปล่า?” ร่างสูงของสุริเยนทร์ขยับเข้าประชิดคนที่นั่งตัวงออยู่บนเตียง “โอเคบ้าอะไร! ลองให้ฉันตีเข่าใส่ท้องคุณดูบ้างไหมล่ะ!?” พอวาถามกลับอย่างฉุนเฉียว แม้จะยังเจ็บ แต่ก็โล่งใจพอที่จะตอบโต้เขา “มา... นอนลงก่อน เดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้” ผู้กองหนุ่มเสนอตัวอย่างสำนึกผิด พยายามประคองคนเจ็บให้กลับไปนอนบนเตียง แต่คุณหมอคนสวยกลับขืนตัวเอาไว้อย่างไม่ยอมง่าย ๆ “ไม่ต้อง!” พอวาสะบัดตัวหนีจากอุ้งมือใหญ่ แต่กลับต้องมีอันต้องร้องเสียงหลงและยกมือกุมข้อมืออีกข้างเอาไว้ “โอ๊ย!” “ผมว่าข้อมือคุณคงบาดเจ็บด้วยนะ” เสียงนุ่มสรุปขึ้น คงเป็นตอนที่ประฝีมือกัน “นอนลงแล้วให้ผมช่วยเช็ดตัวแล้วก็ทายาให้ดีกว่า” “ฉันทำเองได้ ฉันเป็นหมอนะ อย่าลืม!” “ไม่ลืมครับ ไม่ลืมหรอกว่าคุณเป็นหมอสาวแสนสวยและเซ็กซี่แค่ไหน แต่ตอนนี้คุณบาดเจ็บอยู่ เพราะงั้นผมเลยอาสาจะช่วยพยาบาลไง” สุริเยนทร์พยายามตะล่อม เพราะอยากลวนลาม เอ๊ย! อยากทำดีชดเชยความผิดที่ทำร้ายเธอแทบแย่แล้ว “ที่ฉันเจ็บเนี่ยเพราะใครกันล่ะ!?” พอวามองค้อนคนที่สวมบทบาทนักบุญ แต่ความจริงแล้วเขาเป็นคนบาปที่หื่นกามมากที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมาเลย “ผมถึงอยากไถ่โทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ถ้ารู้ว่าเป็นคุณ ผมไม่มีวันทำแบบนั้นแน่ๆ” สุริเยนทร์ตอบพร้อมกับดวงตาใสซื่อราวกับลูกแมวน้อย สีหน้าแฝงเร้นฉายแววสำนึกผิดไม่ปิดบัง คุณหมอสาวถอนหายใจ ดูท่าทีแล้วเขาคงจะตื๊อไม่เลิกเป็นแน่ ถ้าเกิดเธอยังคิดจะขัดขืนไปเรื่อย คืนนี้ทั้งคืนคงเถียงกันไม่จบไม่สิ้น ไหนๆ เขาก็อยากทำดีลบล้างความผิดที่กระทำต่อเธอ เธอก็จะให้เขาได้สมใจเพื่อเป็นการตัดรำคาญ คงดีกว่า...อีกทั้งเธอทั้งบาดเจ็บและเหนื่อย คงช่วยเหลือตัวเองได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่นัก ใบหน้าสวยหวานที่มีร่องรอยบอบช้ำพยักหน้าเบา ๆ เป็นการอนุญาต สุริเยนทร์ยิ้มกว้างจนตาหยี รีบกุลีกุจอมาใกล้จนคนเจ็บชักจะรู้สึกว่าเขาดูจะดีใจจนออกนอกหน้า มือที่เคยจับแต่อาวุธของเขา บัดนี้ต้องผ้าชุบน้ำซับไปตามใบหน้าและลำคอของเธออย่างอ่อนโยน พยายามเบามือเป็นที่สุดเพราะกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายเจ็บกว่าที่เป็นอยู่ ชายหนุ่มค่อยๆ ยกท่อนแขนของเธอขึ้นมาเช็ดทีละข้าง ขณะที่พอวานั่งนิ่ง มองการกระทำอันแสนอบอุ่นและทะนุถนอมนั้นอย่างเพลิดเพลิน ไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยจริงๆ ว่าคนตัวโตดูดุกร้าวจะอ่อนโยนเป็นกับเขาเป็นด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม