พุฒิเมธเดินขึ้นบันไดด้วยก้าวที่มั่นคง พอเดินพ้นบันไดมาก็เดินตรงไปยังหน้าห้องนอนของคนตัวเล็กที่ตนฉุดอุ้มอยู่ในวงแขนโดยไม่ต้องถามทางให้วุ่นวาย แม้จะเคยมาครั้งเดียวในคืนนั้น มาแบบโจรเถื่อน แต่เขาก็รู้ดีว่าห้องของเธออยู่โซนส่วนไหนของบ้านหลังนี้
“เปิดประตูสิ” เขาสั่งคนตัวเล็กในวงแขนให้ผลักเปิดประตูห้อง
“ไม่นะพี่พุฒ”
“เปิดประตู!” พุฒิเมธสั่งอีกครั้งและดังกว่าเดิมและนั่นทำให้ศรีญาสะดุ้งตกใจกลัวน้ำเสียงห้วนแข็งของคนตัวโตและยอมเปิดผลักประตูตามคำสั่งทันที
“พี่พุฒจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ น้องไม่ยอม”
“ยอมไม่ยอมเดี๋ยวก็รู้ แต่ที่รู้คือครั้งที่แล้วเธอก็บอกไม่ยอมพี่เหมือนกันนี่น้อง แต่พอพี่เข้าไปในตัวของเธอ เธอก็ร้องดิ้นสั่นครางเสียวตอบสนองนี่ ถ้าจำไม่ได้เดี๋ยวจะทำให้จำได้เอง” เขาเดินผ่านประตูห้องนอนเข้ามาพร้อมกับใช้เท้าใหญ่ถีบผลักปิดประตูพร้อมใช้แขนตัวเองดันกดล็อกประตูห้องจากด้านในแล้วพาเดินตรงไปยังเตียงนอนขนาดห้าฟุต พอมาถึงเตียงก็โยนคนตัวเล็กลงไปบนเตียง
ตุ้บ!
เมื่อถูกโยนลงเตียงนอนนุ่ม ศรีญาก็รีบลุกขึ้นลงจากเตียง แต่ยังไม่ทันได้ลงจากเตียงก็ถูกจับข้อเท้าดึงรั้งไว้พร้อมกับร่างใหญ่ของบุรุษเคลื่อนตัวมาคร่อมทับกักไว้บนเตียงนอน
“อย่าทำเป็นเหมือนไม่เคยมาก่อนจะดีกว่าน้อง ครั้งที่แล้วเราก็มีความสุขกันบนเตียงนี่ไม่ใช่เหรอ และชุดเครื่องนอนก็ยังเป็นชุดเดิม พี่ว่ามารำลึกความหลังกันดีกว่า เกือบเดือนแล้วใช่ไหมที่เราไม่ได้มี ‘เซ็กซ์’ กัน”
น้ำเสียงทุ้มพร่าเป่ารดใบหน้าสวยหวานของสาวใต้ร่าง ตอนนี้พุฒิเมธรู้ถึงความต้องการของตัวเองดี ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดความปรารถนาร้อนแรงกับเจ้าหล่อนใต้ร่างได้มากมายถึงเพียงนี้ จากครั้งที่แล้วที่ได้ฝากประทับราคีไว้กับร่างน้อย เขาก็เฝ้าหวนคิดถึงวันคืนที่จะได้กลับมาแนบชิดกับศรีญาอยู่ทุกคืนวัน และตอนนี้ก็เป็นโอกาส มีหรือจะปล่อยให้หลุดมือไปอย่างง่ายดาย เขาไม่สนใจด้วยว่าข้างล่างของบ้านจะมีพ่อกับแม่ของหญิงสาวและของตนอยู่
“พี่พุฒบ้าไปแล้ว”
“นั่นสิ ฉันบ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน และคนที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้ก็คือนาง พี่สาวของเธอไงน้อง และฉันบอกแล้วไงว่าเธอต้องรับผิดชอบที่ช่วยพี่สาวเธอกับผู้ชายหนีฉันไป มันก็ถูกต้องแล้วนี่ที่เธอต้องรองรับความต้องการของฉันแบบนี้ เธอต้องรับผิดชอบ”
คำว่า ‘รับผิดชอบ’ อีกแล้วที่เขาพูดใส่หน้าของเธอ ทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ผิดอะไร แต่ทำไมต้องเป็นเธอกันที่ต้องมารับผิดชอบเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น จริงอยู่ที่เป็นคนช่วยพี่สาวในการหนีครั้งนี้ แต่แล้วทำไมพุฒิเมธถึงยัดเยียดความผิดทุกอย่างให้เธอรับผิดชอบ
“น้องผิดที่ช่วยพี่นางหนีงานแต่งงาน แต่ก็แค่ข้อหาเดียวเท่านั้น แล้วทำไมพี่พุฒถึงต้องข่มเหงรังแกน้องแบบนี้ด้วย ทำไมพี่พุฒถึงทำให้ร่างกายของน้องเปื้อนราคี”
“แล้วยังไง ยุคสมัยนี้ใครเขาแคร์เขาสนสาวพรหมจรรย์กันล่ะ เนี่ยมันยุคไหนแล้ว มันก็แค่พรหมจรรย์ สมัยนี้ผู้หญิงที่ไหนเขาเก็บพรหมจรรย์ไว้ตอนแต่งงานกัน ไม่มี! อะ...อื้อ” จบคำพูดของเขาปากหนาก็ทาบทับปิดปากน้อยของคนใต้ร่างที่กำลังจะตอบกลับคำพูดของตนเอง เรียวลิ้นอุ่นร้อนซอกซอนเข้าไปในโพรงปากแสนหวาน มือหนาลูบไล้ไปตามเรือนร่างเปราะบางของสาวเจ้าเล้าโลมสวาท
เธอไม่อาจปฏิเสธผลักไสเรียวลิ้นและสัมผัสวาบหวามของคนเหนือร่างได้ เพียงแค่ปากหนาบดจูบเรียวลิ้นสากอุ่นร้อนดุนดันฟัดคลึงกับเรียวลิ้นน้อยของเธอ ร่างกายก็ร้อนซาบซ่านอ่อนระทวย และก็ใช่ เขาไม่ได้บังคับข่มเหง แต่เป็นเธอเองที่สมยอมอ่อนคล้อยไปตามความปรารถนาของบุรุษเหนือร่าง
อยากจะเกลียด อยากจะผลักไสสัมผัสนี้ แต่หัวใจดวงน้อยกลับบอกอีกเสียง เธอเฝ้าฝันที่จะได้เป็นของพุฒิเมธมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก แต่เมื่อรู้ว่าเขาคือคู่หมั้นคู่หมายของพี่สาวของตนเองก็ได้แต่หักห้ามความรู้สึกของตนเอง ได้แต่แอบมองคนเหนือร่างห่างๆ แต่ตอนนี้เธอกลับได้แนบชิดอิงอยู่ใต้ร่างของเขา
“อะ...อื้อ” เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกจากริมฝีปากของทั้งสอง มุมปากหนาของพุฒิเมธยักยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้รับการตอบสนองไร้เดียงสาของศรีญาที่ตอบสนองกลับ มือหนาจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนใต้ร่างเพื่อจะได้สัมผัสกายสาวนุ่มนิ่มของหล่อน
“อื้อ...อ่า” ปากหนายังคงบดจูบตักตวงความหวานของปากอวบอิ่มไม่ยอมผละห่าง มือหนาสากกร้านลูบไล้สัมผัสร่างกายสาวเปลือยเปล่าใต้ร่างที่ตนเพิ่งปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออก ส่วนศรีญาตอนนี้สมองของเธอว่างเปล่าเลื่อนลอยและไม่รู้ตัวว่าตนเองถูกปลดเปลื้องผ้าจนเหลือแต่กายเปลือยล่อนจ้อน
“ทะ...ทำไมถึงทำแบบนี้กับน้องคะ” แม้สมองจะว่างเปล่า แต่พอปากเป็นอิสระก็เอ่ยถามคนเหนือร่างทันที
“มันคือสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบ อะ...อื้อ” แล้วปากหนาก็ก้มลงปิดกลืนเสียงหอบครางหายใจและคำพูดที่สาวเจ้าจะตอบกลับตนเอง ตอนนี้พุฒิเมธร้อนรุ่มไปทั้งตัว และยิ่งไปกว่านั้นเขาอยากจะแหวกว่ายกระแทกเด้งเร่าหนักหน่วงบดคลึงสวาทในความคับแน่นที่แสนหฤหรรษ์ของศรีญาเต็มที
“อื้อ...อ่า” ปากหนาเคลื่อนผละจากปากอวบอิ่มแสนหวานมาไซ้ซอกคอระหงเคลื่อนไล้มายังเนินอกอวบอูมดูดคลึงขบเม้มเนินอกขาวนวลเนียนของเจ้าหล่อนพร้อมกับสองมือสากกร้านกอบกุมสองเต้าบีบนวดคลึงจังหวะหนักหน่วง
“พะ...พอได้แล้วพี่พุฒ เดี๋ยวผู้ใหญ่...อะ...อุ๊ย! พี่พุฒฟังน้องก่อนได้ไหมคะ” มือน้อยพยายามปัดป้องหน้าอกของตนเอง แต่มือหนาของพุฒิเมธก็ไม่ปรานีเธอเลยสักนิด ยิ่งเธอห้ามเขาก็ยิ่งเพิ่มแรงเคล้นคลึงหนักหน่วง
“อือ...ตอนนี้พ่อกับแม่ของพี่และพ่อกับแม่ของน้องไม่สนใจเราหรอก พวกท่านคงคุยกันถึงเรื่องวันวานกัน กว่าจะคิดถึงเราสองคน พี่กับน้องก็เสร็จกันพอดี” เขาพูดความจริง เวลาพ่อกับแม่ของเขาและพ่อกับแม่ของศรีญาเจอกันเมื่อไหร่จะพูดคุยกันลืมเวลาทุกที และครั้งนี้เขาคิดว่าก็ไม่ต่างจากทุกครั้ง
พุฒิเมธจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกโยนทิ้งตามชุดของสาวเจ้าไปกองอยู่กับพื้นข้างเตียงแล้วแนบชิดบดเบียดกายเปลือยเปล่าแข็งแรงอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของตนเองไปเสียดสีกับร่างน้อยนุ่มนิ่มขาวนวลเนียน ปากหนาอุ่นร้อนจูบเนินอกอวบขาวอวบอูมอีกครั้งแล้วเคลื่อนไล้สันจมูกโด่งของตนเองผ่านร่องอกอวบอูมมายังหน้าท้องแบนราบพร้อมมือสากกร้านลูบไล้คลึงเคล้นสองเต้าไม่ห่าง
“อื้อ...พะ...พี่พุฒ น้องร้อน...” ความร้อนซ่านแล่นไปทั่วเรือนร่างเปลือย ทั้งทรมานและเสียวซ่านจนสั่นสะท้านไปทั่วร่างกายเปลือยเปล่า ความปั่นป่วนของร่างกายและเหงื่อที่ผุดซึมขึ้นตามตัวจนเปียกชื้นในตอนนี้เกิดจากแรงเล้าโลมของคนตัวโต
“พี่รู้ว่าน้องร้อน และพี่ก็ร้อนไม่ต่างจากเธอน้อง อืม...”
เขาขบเม้มหน้าท้องแบนราบจนเกิดรอยเสน่หา ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าไล้เลื้อยต่ำไปยังเนินสวาทโหนกนูนของศรีญา เอวเล็กคอดของสาวเจ้าแอ่นเด้งเร่ายกขึ้นตอบสนองแม้จะเป็นการตอบสนองตามสัญชาตญาณของมนุษย์ แต่มันก็ทำให้เขาพึงพอใจกับการตอบสนองของเจ้าหล่อนมาก
“ตอนนี้น้องฉ่ำและพร้อมให้กระแทกแล้วรู้ตัวไหม อื้ม...”
เขาพึมพำกับความสาวอวบฉ่ำของศรีญาที่อาบล้นออกมาจากดอกไม้อวบอูมที่กลีบกุหลาบปิดแนบกันสนิท เรียวลิ้นสากอุ่นร้อนตวัดออกมาลากไล้เลียกลืนกินความหวานของน้ำเกสร เอวเล็กคอดแอ่นเด้งเร่าสั่นสะท้านตอบสนองยามเขาแตะปลายลิ้นลากถูผ่านกลีบดอกไม้งามฉ่ำแฉะมายังเม็ดเกสรกลางดอก
“อือ...พี่พุฒหยุดทรมานน้องสักทีได้โปรด...อื้อ...”
“พี่ก็รู้สึกไม่ต่างจากเธอน้อง อ่า...”
ความหวานของศรีญาทำให้เขาต้องก้มลงดูดกลืนกินมันอีกครั้ง ก่อนจะผละเคลื่อนตัวมาคร่อมทับ ตอนนี้เหงื่อไคลอาบชื้นท่วมตัวของเขาไม่ต่างจากร่างน้อยใต้ร่าง สองมือดุนดันเรียวขาเล็กแยกกว้างเปิดทางให้ตนเองได้บดเบียดกระแทกกายเนื้อแข็งร้อนตนเองเข้าไปในความคับแน่นที่เคยได้ซอกซอนไปครั้งก่อน
“อะ...อื้อ” ร่างน้อยสะดุ้งโอบกอดคนตัวโตเมื่อความใหญ่โตกรีดกรายลึกเข้ามาในร่าง ทั้งจุกทั้งแน่นและอึดอัดภายในร่างตนเอง เอวเล็กคอดบิดส่ายถอยหนี แต่เอวหนาขยับเคลื่อนตัวพร้อมกอดรัดร่างน้อยเธอขึ้นหาแน่นขึ้นกว่าเดิม
“อ่า...แน่นดีเหลือเกิน อื้ม...” ความคับแน่นของศรีญาตอดรัดคลึงตัวตนของเขาที่แทรกกลางร่างกายฉ่ำแฉะของหญิงสาวหนักหน่วงเหมือนครั้งแรกที่ได้สอดประสาน ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งสองหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันลึกซึ้งยากจะแยกจากกันได้
“ได้โปรด...พี่พุฒช่วยน้องด้วยค่ะ น้องร้อน อื้อ...” เธอร้องขอความช่วยเหลือจากจอมวายร้ายเหนือร่างแม้จะอยากกัดปากตัวเองให้เจ็บ แต่ตอนนี้มีแค่พุฒิเมธคนเดียวที่ช่วยให้ตนหลุดพ้นจากความร้อนรุ่มทรมานครั้งนี้ได้
หึหึ
พุฒิเมธไม่ตอบ แต่เขากอดกระชับร่างน้อยแน่นขึ้นจนแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกันพร้อมเอวหนาบดคลึงโยกเร่ากระแทกจังหวะหนักหน่วงสลับกับช้าเพื่อนำพาตัวเองและสาวเจ้าให้พบความสุขและหลุดพ้นจากความทรมานในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่หล่อนทรมาน ตัวของเขาเองก็ทรมาน เป็นอีกครั้งที่พุฒิเมธหลงลืมสิ่งสำคัญไป เขาลืม ‘ป้องกัน’ เหมือนครั้งที่แล้ว จนตอนนี้เขาก็ยังลืมว่าครั้งก่อนตัวเองไม่ได้ ‘ป้องกัน’ กับสาวในอ้อมกอด