ทำไมสวรรค์ไม่เข้าข้างเธอ

933 คำ
ทำไมสวรรค์ไม่เข้าข้างเธอ ทำไมถึงได้ใจร้ายกับเธอทุกเรื่องแบบนี้ ศรีญามองคนที่นั่งตรงข้ามกับตนเองบนโต๊ะรับประทานอาหารของบ้านในเย็นนี้แล้วก็อยากจะขอตัวลุกออกจากโต๊ะรับประทานอาหาร แต่ทำแบบนั้นจะเป็นการเสียมารยาทจึงได้แต่นั่งฝืนยิ้มก้มหน้าก้มตาทานมื้อเย็นวันนี้ให้ผ่านไป “ฝีมือหนูน้องยังดีเหมือนเดิม รู้ไหมป้ากินน้ำพริกลงเรือที่ไหนก็ไม่อร่อยสู้ฝีมือหนูน้อง” เพรีเอ่ยชมแม่ครัวของวันนี้ “คุณป้าชมหนูเกินไปแล้วค่ะ” เธอเอ่ยตอบเขินๆ “ที่ไหนกันลูก รู้ไหมป้าเพรีของหนูน่ะบ่นคิดถึงแต่ฝีมือน้ำพริกลงเรือของหนูทุกวันเลย เด็กที่บ้านทำก็ไม่ถูกปาก” เมธีเอ่ย ก็อย่างที่ภรรยาพูดนั่นแหละ ฝีมือตำของใครก็ไม่สู้ฝีมือของศรีญา “ก็ไม่ได้ต่างจากที่บ้านทำสักเท่าไหร่นี่ครับ” พุฒิเมธเอ่ยแทรกขึ้นและนั่นทำให้คนที่ก้มหน้ายิ้มเงยหน้าขึ้นมองคนพูดและจังหวะนั้นเองดวงตากลมโตสดใสสบประสานกับดวงตาสีสนิมเข้มของอีกฝ่าย ก่อนจะรีบก้มหลบสายตา “ลิ้นของลูกไปกินที่ไหนก็รสชาติเหมือนกันหมดนั่นแหละ” เพรีเอ่ยกับลูกชายตัวเองแล้วหันมาพูดกับศรีญา “อย่าไปใส่ใจคำพูดของพี่พุฒเขาเลยลูก ทานข้าวกันเถอะ เมนูแต่ละเมนูน่าทานทั้งนั้น น้ำพริกว่าอร่อยแล้ว ผัดเต้าหู้ทรงเครื่องนี้ยิ่งอร่อย หนูน้องของป้านี่เก่งจริงๆ ถึงว่าคุณศาสตรากับคุณบัวทิพย์ถึงให้ดูแลร้านอาหาร เก่งแบบนี่นี้เอง” “คุณป้าชมน้องเกินไปแล้วค่ะ จริงๆ แล้ว ร้านนี้พี่...” ศรีญายังพูดไม่ทันจบ ศาสตราก็รีบพูดแทรกขึ้นเมื่อลูกสาวจะพูดถึงลูกไม่รักดีอย่างศิตาพร “กินข้าวกันเถอะ แต่ละเมนูเป็นเมนูเด็ดของที่ร้านทั้งนั้น” “นั่นสิคะ ทานกันเถอะค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นชืดเสียก่อน” บัวทิพย์เห็นด้วยกับสามี เพราะถ้าพูดถึงศิตาพรบรรยากาศบนโต๊ะอาหารคงเปลี่ยนเป็นสนามรบทางอารมณ์แน่นอน ศรีญาก้มหน้าทานข้าวเงียบๆ ไม่พูดไม่จาแม้จะรับรู้ได้ถึงสายตาอำมหิตของใครบางคนที่จ้องมองตนมาเป็นระยะก็ตาม ทานของหวานอิ่ม เธอก็เอ่ยขอตัวไปช่วยทุกคนในครัว แต่พอเดินพ้นออกมาจากห้องรับประทานอาหาร เธอก็ถูกใครบางคนที่ไม่รู้ว่าตามตนเองมาตั้งแต่ตอนไหนเดินมาฉุดข้อมือเล็กดึงรั้งไว้ ว้าย! “ทำเป็นตกใจผัวตัวเองไปได้” ศรีญาร้องตกใจเมื่อถูกฉุดกระชากดึงจากด้านหลัง แต่คำพูดที่ตอบสวนกลับมาทำให้เธอต้องรีบดิ้นสะบัดมือจากอุ้งมือหนาทันที “ปล่อยน้องนะคะพี่พุฒ” เธอบอกคนตัวโตเมื่อไม่อาจดิ้นสะบัดข้อมือหลุดจากอุ้งมือหนาสากกร้านของจอมร้ายกาจ “ทำไมพี่ต้องปล่อยเธอน้อง อ้อ...คิดว่าจะหลบพี่ไปได้นานแค่ไหนกันน้อง อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าเธอตั้งใจหลบหน้าพี่ หรือลืมไปแล้วว่าพี่เป็น ‘ผัว’ ของเธอน้อง” ไม่เพียงแต่ไม่ปล่อย แต่กลับฉุดกระชากดึงร่างน้อยเข้ามากอดแน่น “ปล่อยน้องนะพี่พุฒเดี๋ยวคนอื่นมาเห็น มันไม่เหมาะสมนะคะ” เธอยังคงพยายามจะดิ้นให้หลุดจากวงแขนแข็งแรง “อะไรที่บอกไม่เหมาะสมน้อง อะไรที่ไม่เหมาะสม อย่าลืมสิว่าร่างกายของเธอเป็นของพี่แล้ว หรือต้องให้พี่ตอก ‘ย้ำ’ ฮึ” เขาโน้มก้มหน้าลงมาเอ่ยข้างแก้มนวลเนียนพร้อมกับหลับตาสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ของศรีญาที่ติดตรึงในความรู้สึกของตนเอง แล้วภาพในค่ำคืนเดือนมืดก็ย้อนกลับเข้ามาในหัว มือสากกร้านอีกข้างก็ลูบไล้เอวเล็กคอดผ่านเนื้อผ้าที่แนบเนื้อของเจ้าของที่สวมใส่ “ยะ...อย่านะพี่พุฒ เดี๋ยวมีคนมาเห็น” เธอบอกห้ามเขาพร้อมกับใช้มือจับมือใหญ่ที่ลูบไล้เอวเล็กคอดของตนเอง อีกมือดันหน้าอกแกร่งของคนตัวไว้ไม่ให้หน้าอกของพุฒิเมธบดเบียดกับหน้าอกตน “ถ้ากลัวคนมาเห็นก็ไปบนห้องสิว่าไหม ไปรำลึกความหลังของเราหน่อยเป็นไงน้อง ตั้งแต่วันนั้นจนตอนนี้เธอก็เอาแต่หลบหน้าพี่ โทรหา ส่งไลน์หาก็เงียบไม่ตอบกลับ คิดเหรอว่าตัวเองจะหนีพี่พ้น บอกแล้วไงความผิดของพี่สาวเธอที่ทำไว้กับพี่ เธอต้องรับผิดชอบจนกว่าพี่จะ ‘พอใจ’ ไปกันเถอะ กินอิ่มแล้วไปย่อยอาหารกันเถอะ” แล้วไม่รอช้าพุฒิเมธก็อุ้มร่างน้อยในวงแขนขึ้นแนบอก ไม่สนใจว่าเจ้าหล่อนจะดิ้นขัดขืนต่อต้านไม่สมยอม “ร้องสิ ร้องให้คนมาดูเราสองคนอุ้มฟัดกันสิน้อง” ก่อนจะพาเดินไปทางบันไดขึ้นชั้นสอง เขาก็ก้มหน้าลงเอ่ยข่มขู่จนเธอต้องเม้มปากแน่น ตอนนี้ศรีญาได้แต่มองไปรอบๆ ด้วยกลัวว่าจะมีคนผ่านมาเจอ โชคดีไม่มีใครผ่านมา ทุกคนยุ่งในครัว ส่วนในห้องรับประทานอาหารก็มีเสียงหัวเราะดังลอยออกมาให้ได้ยิน ตอนนี้ทุกคนคงลืมเธอและพุฒิเมธไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม