“เสี่ยวเทียนเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง กลัวหรือไม่?” พอหมิงชูก้าวเข้ามาในครัวได้ ฉีเยว่ก็ถลาเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงทันที นางลูบหัวลูบไหล่ของเด็กชายอย่างปลอบประโลม ราวกับกลัวว่าเด็กน้อยจะเสียขวัญกับเหตุรุนแรงเบื้องนอก “ท่านน้าฉี ข้าไม่เป็นไรขอรับ” เด็กน้อยยิ้มหวานให้แม่ครัวร่างป้อมที่เข้ามาปลอบขวัญ นางผู้นี้เป็นเพื่อนของมารดา ดังนั้นหมิงชูจึงสนิทสนมกับนางมาก “เช่นนั้นก็ดีแล้ว วันนี้เจ้าก็อยู่ช่วยงานในครัวไปก็แล้วกัน ข้างนอกมันอันตราย” พ่อบ้านลู่ที่กำลังดื่มสุราย้อมใจกล่าว สีหน้าของชายชราช่างน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง หมิงชูอยากช่วยเหลือชายชราแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ลูกค้าที่ตีกันในคราวนี้ดูจะมีฝีมือไม่น้อยเพราะขนาดบ่าวคุ้มภัยที่จ้างไว้ก็ยังไม่กล้าสอดมือ เช่นนี้แล้วเด็กอย่างเขาจะทำอันใดได้ เสียง “โครม” ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ผนังด้านที่ติดกับห้องอาหารถึงกับสั่นสะเทือน เด็กน้อยพลัน