แสงฉาย เจ้าของไร่องุ่น ซันชายวัลเลย์ เขาใหญ่ ผลิตสินค้าแปรรูปจากองุ่นนานาชนิด รวมไปถึงไวน์ อีกทั้งมีร้านอาหารเปิดเอาไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาพักผ่อน หรือพักรถระหว่างเดินทาง มีรีสอร์ตเล็กๆ ให้ค้างคืนไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่เรื่องของงานไร่องุ่นนั้นก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่ใหญ่พอสมควร
ย้อนหลังกลับไปก่อนที่เธอจะเกิด มารดาเป็นคนดูแล่ไร่องุ่นแห่งนี้เป็นสาวสวยที่ฮอตสุดๆ ของที่นี่ ส่วนบิดาของเธอนั้นมีที่ดินอยู่ติดกันและทำฟาร์มโคนม ต่างคนต่างมีธุรกิจของตัวเอง แต่ฝ่ายมารดาถือว่ามีฐานะที่ร่ำรวยกว่า ทว่าท่านทั้งสองก็มาพบรักและแต่งงานกัน แผ่นดินทั้งสองจึงเป็นสินสมรส
เมื่อแสงฉายเกิดจึงกลายเป็นทายาทเพียงคนเดียวของที่นี่ จวบจนกระทั่งเธออายุได้ 11 ขวบ มารดาเสียชีวิตเพราะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเอง แสงฉายเสียใจ เสียหลัก เหลือเพียงพ่อที่ต้องทำหน้าที่ดูแลและบริหารงาน แต่เท่านั้นยังไม่พอ ไร่องุ่นแห่งนี้มารดาได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ ยกให้แสงฉายเป็นนายหญิงดูแลที่นี่แต่เพียงผู้เดียว
แต่ที่เจ็บปวดไปมากกว่านั้น คือมารดาของเธอเสียชีวิตไปเพียงปีเดียว บิดาก็มีภรรยาใหม่เป็นแม่ม่ายลูกติดถึงสองคน จากนั้นก็ขออนุญาตแสงฉายเพื่อแต่งงานแสงฉายเสียใจมาก ไม่อยากให้บิดาแต่งงานใหม่ เพราะทางฝั่งนั้นก็ไม่ได้ชอบเธอเลย ทว่าเธอได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้เพียงคนเดียว
กระทั่งแสงฉายเติบโตเรียนจบ บิดาก็มอบไร่องุ่นให้เธอมาดูแลตามคำสั่งในพินัยกรรมของมารดา โดยมีวสินและลูกน้องเก่าของมารดาคอยดูแล จนกระทั่งถึงตอนนี้ แต่นั่นล่ะการยกที่นี่ให้เธอ ทำให้ลูกติดของเมียใหม่พ่อไม่พอใจ เพราะอยากจะได้สมบัติในฐานะลูกเลี้ยงเช่นกัน และนั่นเป็นเหตุผลที่เธอปลีกตัวจากบิดา ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะครอบครัวใหม่ไม่ชอบเธอ ทั้งอิจฉา ริษยาที่เธอได้มากกว่า รวยกว่า พบหน้ากันทีไรก็กระแนะกระแหนน่าหมั่นไส้
แสงฉายจึงตัดสินใจไม่ไปคบค้าสมาคมกับบ้านนั้นเลยหากไม่จำเป็น และเลือกที่จะโทรศัพท์คุยกับบิดาเสียมากกว่า แม้จะอยู่ใกล้กันก็ตาม แต่ก็อีกนั่นแหละ เวลาที่ไร่นี้มีเรื่องอะไรจะน่าสนใจหรือไม่ก็ตาม เรื่องก็มักจะถึงหูบิดาและภรรยาคนนั้นเร็วยิ่งกว่านักข่าว ก็มีสายลับอยู่ในไร่ นี่แหละทำให้เธอนึกห่วงชายแปลกหน้าที่พักพิงอยู่บนบ้าน เพราะป่านนี้อาจจะมีขาวเล็ดลอดไปถึงหูท่านแล้วก็เป็นได้
j
แน่นอนว่า เป็นไปตามที่แสงฉายคาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิดพลาด ซันชายน์วัลเลย์ก็เกิดเสียงเซ็งแซ่จากปากของบรรดาคนในไร่เรียบร้อย เพราะมีบางคนแอบเห็นว่าวสินดูแลชายคนหนึ่งอยู่บนบ้าน ก่อนหน้านี้ก็มีหมอเข้ามาดูแล ทำให้คิดไปต่างๆ นาๆ ว่าเจ้าของไร่คนงามนั้น ได้พาผู้ชายมาอาศัยอยู่ด้วยในฐานะ “นาย” อีกคน เรื่องราวที่ไร้ซึ่งความจริงก็หลุดออกไปจากไร่ ดังไปถึงหูผู้เป็นบิดาและครอบครัวอย่างรวดเร็ว
แต่เรื่องจริงไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และถูกถ่ายทอดอีกแบบ นั่นคือการเป่าหู เพื่อให้พ่อเลี้ยงนั้นรู้สึกว่าการกระทำเช่นนี้มันผิด และข้ามหน้าข้ามตาท่านเพียงใด อีกทั้งทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงรวมไปถึงหน้าตาทางสังคม
“คุณหนูขา! คุณหนู!” เสียงของสาวใช้วัยกลางคน ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนตื่นเต้น ระคนเหนื่อยหอบ ขณะที่คนที่เธอเรียกนั้นนั่งเล่นอยู่บริเวณชานนอกบ้าน
“มีอะไร” คุณหนูคนงามนามเกศรินทร์ถามกลับอย่างห้วนๆ และแข็งกระด้าง
“เกิดเรื่องแล้วค่ะ” ผู้เป็นสาวใช้เดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับปรับสีหน้าให้เปลี่ยนไปอย่างเจ้าเล่ห์
“เรื่องอะไร พูดมาเสียทีสิ ลับลมคมในอยู่นั่น” คุณหนูคนงามบอกเสียงแจ๋นๆ ไม่ชอบใจนัก
“นายหญิงค่ะ ได้ยินชาวบ้านแถวนั้นลือว่า นายหญิงแสงฉายพาผู้ชายเข้าบ้าน ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้น่าจะเป็นผัวมั้งคะ” สาวใช้บอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ผู้ชายเหรอ แกเห็นหน้าไหมว่าหน้าตาเป็นอย่างไร”
“ไม่เห็นหรอกค่ะได้ยินมาอีกที พวกคนงานพากันพูด แววได้ยินก็เลยรีบมารายงานคุณหนูก่อนเผื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์”
“เป็นประโยชน์แน่ แล้วคนงานพวกนั้นว่าอย่างไรอีก” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน เหมือนกำลังจะเป็นต่อแน่ๆ บิดารู้เข้าคงไม่พอใจ
“บอกว่านายหญิงน่ะ พาผู้ชายคนนั้นขึ้นไปนอนบนห้องของตัวเองเลยนะคะ มีวสินคอยดูแลด้วย แถมยังบอกให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ สงสัยจะกลัวพ่อเลี้ยงรู้แน่ๆ เลยค่ะ”
“ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะฉันจะไปบอกคุณพ่อแน่ อยากรู้นักว่าถ้าคุณพ่อรู้เข้าว่าลูกสาวคนเก่ง ที่คุณพ่อภูมิใจนักหนาพาผู้ชายเข้าบ้านจะเป็นอย่างไร อยากเห็นหน้านัก”
“แล้วคุณหนูจะเอายังไงดีคะ”
“ฉันจะไปหาคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลย เพราะตอนนี้คุณพ่ออยู่ในห้องทำงาน”
ว่าแล้วเกศรินทร์ก็รีบแจ้นไปหาทันทีพร้อมกับคนใช้ที่แสนรู้นักหนา
เกศรินทร์เป็นลูกติดภรรยาใหม่ของบิดา เป็นบุตรสาวคนเล็กในบรรดาลูกสองคน แต่เป็นลูกเลี้ยงที่บิดารักเช่นกัน เพราะได้เลี้ยงดูตั้งแต่ห้าขวบ ฉะนั้น เกศรินทร์จึงรู้สึกว่ามีสิทธิ์ในทุกสิ่งบนที่ดินผืนนี้ อยากเอาชนะทุกอย่างทั้งที่ทำได้ยาก อีกทั้งอิจฉาริษยา ไม่ชอบหน้าพี่สาวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ทำอะไรก็แพ้ ฉะนั้นเธอต้องหาวิธีชนะในแบบของตัวเอง