หนีตาย
“ฮ่าๆ ให้ตายเถอะ ชายผู้ทรงอิทธิพลเจ้าของคิงส์ ออยล์ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาตัวรอดจนมาสุดหน้าผา” เสียงเยาะเย้ยเหี้ยมเกรียม นั้นดังออกมาจากปากของชายผู้เป็นเพื่อนนักธุรกิจ ที่อยากจะกุมอำนาจเอาไว้ในมือของตัวเองเพียงคนเดียว เขาถือปืนข้างที่ถนัดและเล็งไปที่เจสัน คิงส์ ชายหนุ่มที่มองเพื่อนด้วยแววตาแค้นจัด คิดว่าคงไม่รอดแน่ ก่อนจะเหลือบไปมองเบื้องหน้าของน้ำตก ไม่รู้ว่าน้ำลึกหรือมีโขดหินเบื้องล่างหรือไม่
“คิดเหรอว่าการตายของฉัน จะทำให้แกรอดไปจนขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานแทนฉันได้เหรอเควิน” เจสันถามกลับเสียงเข้ม ไม่เกรงกลัวหากแต่สมเพชเพื่อนมากกว่า
“มันจะไปยากอะไร กะอีแค่ทำให้แกหายสาบสูญ หึๆ ที่นี่เมืองไทยนะ อีกอย่างแกถืออำนาจเหนือคนอื่นมานานเกินไปแล้วเจสัน”
“หึ ถืออำนาจอย่างนั้นเหรอ ฉันเป็นเจ้าของบริษัท และแกแค่อยากได้อำนาจที่คลอบคลุมทั่วทั้งทวีป จริงไหมเพื่อน” เจสันบอกอย่างรู้ทัน
“ใช่ ฉลาดแล้วนี่”
“แค่ฉันหายตัวไป บอร์ดี้การ์ดทั้งหมดของฉันจะตามหาฉัน และออกตามล่าแกเควิน”
“เอาไว้ให้ฉันฆ่าแกเสียก่อน แล้วฉันจะไปจัดกับไอ้พวกนั้น” พูดจบเควินก็เหนี่ยวไกปืน ขณะที่เจสันเริ่มถอยหลังช้าๆ แต่ก็นึกหวาดเสียวเพราะเขายืนอยู่ท่ามกลางสายน้ำเชี่ยว ด้านหลังเป็นผาและแอ่งน้ำ ตกลงไปไม่รู้จะไปโผล่เกยตื้นที่ไหน หากเลือกที่จะยืนอยู่ตรงนี้ ชีวิตคงจบสิ้นกัน แต่หากเลือกกระโดดลงไปมันก็พอมีทางรอด เจสันคิด ถ้าหากพระเจ้าเข้าข้างเขา ก็คงจะทำให้มีชีวิตรอดกลับมาทวงแค้นหรือทวงความยุติธรรมได้
“แกจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่แกต้องการ เควิน” เจสันกล่าวอย่างเคียดแค้นพลางกัดฟันแน่น
“ฉันจะได้ก็ต่อเมื่อแกตาย เจสัน ไปลงนรกได้แล้ว” สิ้นคำเควินก็ลั่นไกปืน ซึ่งส่วนปลายมีกระบอกเก็บเสียงเป็นอย่างดี จังหวะที่เควินลั่นไกนั้นเจสันก็ทิ้งตัวลงหน้าผาพอดิบพอดีและคิดว่าน่าจะยิงโดน
ฝึด! ฝึด! เสียงปืนเก็บเสียงดังออกมาพอให้ได้ยินเล็กน้อย พร้อมกับร่างของ เจสันลอยคว้างกลางอากาศอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะพุ่งลงไปในน้ำ
ตูม! เสียงร่างสูงใหญ่จมหายลงไปอย่างแรงพร้อมกับสายน้ำกระเพื่อมไหว เควินยืนมองผลงานของตัวเองและยิ้มแสยะสะใจ และยืนดูอยู่นานเพื่อให้แน่ใจ ว่าร่างของเจสันไม่ลอยขึ้นมาแน่แล้ว
“ลาก่อนเจสัน” เควินเอ่ยเสียงเหี้ยม จากนั้นจึงหันหลังกลับเพื่อไปจัดการกับลูกน้องของเจสันต่อ
j
ณ ริมลำธาร ปลายสายของน้ำตกขนาดใหญ่ แตกสายออกมาเป็นลำธารสายเล็ก ไหลผ่านหมู่บ้านและไร่องุ่นที่มีเจ้าของ เพียงพอสำหรับทำการเกษตรเป็นอย่างดี ที่สำคัญสามารถลงไปอาบเล่นได้ เมื่อเสร็จสิ้นการทำงานของคนงานในไร่แล้ว แต่น้อยคนนักที่จะมาอยู่ตรงบริเวณนี้ เพราะเป็นเขตสงวนเฉพาะเจ้าของที่เท่านั้น วันนี้ก็เช่นกัน
เกือบห้าโมงเย็น เมื่อเจ้าของไร่องุ่นเหน็ดเหนื่อยตรากตรำจากการงาน ก็ไม่ลืมที่จะเดินมาชื่นชมธรรมชาติตรงบริเวณนี้ พลางสูดเอากลิ่นธรรมชาติเอาไว้จนเต็มปอด
“อื้อ! ชื่นใจ ได้เห็นดอกไม้สวย ๆ น้ำใสๆ ก็หายเหนื่อย” น้ำเสียงหวาน เบา คล้ายกับเสียงแมว เอ่ยขึ้นอย่างมีความสุข พลางทอดมองออกมาเบื้องหน้าเพื่อสัมผัสธรรมชาติซึ่งเธอเป็นเจ้าของ ลำธารนี้ไม่กว้างนักสามารถว่ายข้ามได้
แสงฉาย เจ้าของร่างสูงเพรียวหุ่นดีแต่แข็งแรง บิดซ้ายบิดขวาเพื่อไล่ตัวขี้เกียจแต่พลันสายตาคู่งาม ดันไปเจอกับเข้ากับร่างของชายนิรนามนอนคว่ำหน้าเกยตลิ่ง ท่อนล่างแช่อยู่ในน้ำ เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้วก็พาลให้เธอตกใจ ศพใครกัน! เธอคิดด้วยความหวาดกลัว พลางเดินเข้าไปใกล้ อะไรบางอย่างทำให้คิดว่าเขายังไม่ตาย จึงกล้าเดินเข้าไปดูให้ชัดว่าเป็นใคร คนกันเองหรือเปล่าพร้อมกับใช้แรงทั้งหมดพลิกตัวชายหนุ่มให้นอนหงายขึ้น แต่สิ่งที่เธอเห็นก็คือ
“ฝรั่ง! นักท่องเที่ยวตกหน้าผาลงมาเหรอ” แสงฉายเอ่ยด้วยความตกใจ พร้อมกับรวบรวมความกล้า เอื้อมมือไปอังตรงบริเวณรูจมูกเพื่อดูว่ายังมีลมหายใจอยู่หรือไม่
“หายใจอยู่นี่น่า!” แสงฉายใจชื้นขึ้นมาทันที ทว่าแม้จะยังไม่ตายแต่ลมหายใจแผ่วเบาเหลือเกิน ถ้าหากช่วยชีวิตช้าเกินไปมีหวังได้ตายเป็นผีเฝ้าไร่เธอแน่
ด้วยความที่อยากจะช่วยให้รอดชีวิต แสงฉายจึงรีบวิ่งไปตามผู้ช่วยคนสนิท พร้อมกับเรียกผู้ชายมาอีกสักสามถึงสี่คน เพื่อจะได้มาหามฝรั่งร่างใหญ่ และแน่นอนทุกคนตกใจแต่ยังไม่อยากถาม ต้องทำเรื่องสำคัญก่อนนั่นคือช่วยกันหามฝรั่งคนนี้กลับไปที่บ้านของแสงฉายเสียก่อนอย่างทุลักทุเล เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นฝรั่งก็ตัวหนักและตัวโตจนแทบหามกันไม่ไหว แต่ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย โดยให้คนงานถอดเสื้อผ้าเปียกๆ ออกมาให้ หมด และใส่แต่เพียงผ้าเช็ดตัวเอาไว้ ก่อนจะพาไปที่ห้องนอนของเธอ โดยลืมไปเสียสนิทว่าเขาคือผู้ชายคนหนึ่งเช่นกัน
“พาไปส่งโรงพยาบาลดีไหมครับนายหญิง” วสินลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามขึ้น ด้วยความเป็นห่วง เพราะเกรงว่าจะอาการหนักและอาจปฐมพยาบาลไม่ไหว
“คิดว่าเขาคงตกหน้าผาลงมาเท่านั้น คงไม่เป็นอะไรมาก แสงว่าเรียกหมอมาดีกว่า ถ้าหากเป็นหนักหรือไม่หาย ไม่ฟื้น ก็ค่อยพาส่งโรงพยาบาล” เธอบอกน้ำเสียงเครียด
“ได้ครับ งั้นผมจะให้คนไปตามหมอประจำของนายมาเดี๋ยวนี้” วสินบอกอีกครั้ง
“เร็วหน่อยก็ดีนะคะ”
“ครับ” วสินรับคำ จากนั้นเขาและลูกน้องทุกคน รีบออกไปตามหมอทันที
ตอนนี้เองที่แสงฉายได้นั่งพิจารณาใบหน้าของชายหนุ่ม ซึ่งบัดนี้นอนอยู่บนที่นอนสีขาวสะอาดตาของเธอซึ่งวางเอาไว้ติดพื้น ไม่ได้มีเตียงแต่อย่างใด
“ใส่สูทมา ไม่น่าจะมาเล่นน้ำหรอกมั้ง แล้วไม่ได้พลัดตกลงมาแน่” แสงฉายสันนิษฐานเพราะก่อนหน้านี้ชายหนุ่มใส่สูทเต็มยศอยู่เลย คิดว่าหากเป็นนักท่องเที่ยวก็คงไม่ใช่ อีกอย่างเธอสำรวจตามใบหน้ามีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด แม้กระทั่งเนื้อตัว คล้ายกับอุบัติเหตุหรือคนถูกซ้อม สรุปแล้วเขาเป็นใครกันแน่ คนดีหรือไม่ดีนะ
“เหมือนคุณถูกซ้อมมา หวังว่าฉันคงไม่ได้ช่วยคนร้ายหรอกนะ” เธอพูดด้วยความหวาดหวั่น แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ดึงดูดสายตามากกว่าบาดแผลคือ ใบหน้าอันหล่อเหลา มีเคราเล็กน้อย ผมสีบลอนเข้ม ผิวพรรณขาวออกไปทางชมพู จมูกโด่งสวยริมฝีปากรูปกระจับ เธอพิจารณาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนก็พลันให้เคลิ้มเสียอย่างนั้น
“ถึงหน้าตาจะมีแต่รอยฟกช้ำ แต่มันกลบความหล่อของคุณเอาไว้ไม่ได้เลยนะเนี่ย” แสงฉายเผลอชมด้วยความลืมตัว แต่นั่นก็เพราะว่าเขาหล่อจริงๆ ใบหน้าของเขาดึงดูดให้พูดอย่างนี้ เธอคิดพลางเอื้อมมือไปสัมผัสที่มือของชายหนุ่มเบาๆ
“ขอโทษนะคะคุณ ผิวผู้ดี้ผู้ดี เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันเนี่ย ไม่น่าจะใช่นักท่องเที่ยวทั่วไปมั้งคะ” เธอพูดกับร่างที่หมดสติลอยๆ อีกทั้งนึกสงสัยว่าเขามาทำอะไรกันที่น้ำตก แต่เธอต้องเก็บความสงสัยเอาไว้จนกว่าเขาคนนี้จะฟื้นจากสลบเสียก่อน