วีรยากำลังเดินหาห้องเช่าด้วยความเหน็ดเหนื่อย ตลอดทั้งวันเธอเดินหาไปทั่วบริเวณนี้ก็ไม่มีห้องเช่าว่างเลย เธอหิ้วกระเป๋าเป้เดินทางใบใหญ่นั่งพักเหนื่อยที่ร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ แห่งหนึ่งแล้วสั่งอาหารมานั่งทานด้วยความกังวล
“แม่หนูจะไปไหนล่ะถึงได้หอบกระเป๋ามาแบบนี้” ป้าร้านขายอาหารตามสั่งถามเธอด้วยความสงสัย เมื่อมีผู้หญิงตัวคนเดียวถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินมานั่งทานอาหารในตอนหัวค่ำตอนที่ร้านกำลังจะปิดเช่นนี้
“ฉันตามหาห้องเช่าจ้ะป้า แต่เดินหาทั้งวันก็ไม่มีที่ห้องว่างเลย ป้าพอจะมีห้องเช่าแถวนี้แนะนำบ้างไหมจ๊ะ พอดีฉันได้งานอยู่ที่โรงงานเย็บผ้าตรงนั้นเลยอยากเช่าหออยู่ใกล้ๆ จะได้เดินไปทำงานได้”
“แถวนี้ไม่มีห้องเช่าว่างหรอก คนงานโรงงานนั้นก็มาเช่าหมดแล้วไหนจะโรงงานพลาสติกที่อยู่ข้างๆ นั่นอีก” เมื่อได้ยินอย่างนั้นวีรยาจึงทำหน้าผิดหวังเป็นอย่างมาก
“เอาอย่างนี้สิ ไปเช่าห้องที่บ้านป้าอยู่ไหม ป้ามีห้องว่างอยู่ห้องหนึ่งแต่ต้องใช้ห้องน้ำรวมนะ สะดวกหรือเปล่า”
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิบ้านป้าอยู่เลยซอยนั้น บ้านหลังสุดท้ายอยู่ตรงท้ายซอยพอดี” เจ้าของร้านพูดแล้วอมยิ้มให้กับเธอ
“แล้วป้าอยู่กับใครคะ” วีรยาถามเพื่อความปลอดภัย
“ป้าอยู่กับลูกชายแค่สองคน แต่ไม่ต้องห่วงนะลูกชายป้าเป็นคนดี เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงรับรองว่าต่างคนต่างอยู่ แบบนี้พอไหวไหม”
“ได้สิคะป้า แล้วป้าคิดค่าเช่ากับหนูยังไงคะ”
“ป้าคิดค่าเช่าสองพันก็พอ รวมค่าน้ำค่าไฟในนี้ บ้านป้ามีแต่ตู้เย็นกับพัดลมเท่านั้นแหละไม่ได้ติดแอร์อะไร เพิ่มพัดลมอีกตัวเดียวไม่นะกินไฟมากนัก พออยู่ได้ไหมล่ะ”
“อยู่ได้ค่ะ หนูอยู่ได้ค่ะ ขอบคุณป้ามากๆ นะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นค่อยๆ กินไปนะหนู เดี๋ยวป้าเก็บร้านแล้วเราเดินกลับไปพร้อมกัน ..เอ่อ ป้าชื่อนางนะ”
“ค่ะป้านาง”วีรยาดีใจมาก เธอทานข้าวตรงหน้าด้วยความหิวและยิ้มออกมาไม่หุบหลังจากที่ตนเองได้ที่พักเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ป้านางเก็บร้านเสร็จแล้ว หญิงสาวก็เดินตามหลังเธอไปจนกระทั่งถึงบ้านท้ายซอยดังกล่าวแล้วเข้าไปในบ้านด้วยกัน
“ห้องนอนชั้นสองด้านขวาคือห้องของลูกชายป้า หนูใช้ห้องนอนทางด้านซ้ายของบันไดนะ”
“ค่ะ แล้วลูกชายป้าอยู่หรือเปล่าคะหนูจะได้ทำความรู้จัก”
“รายนั้นเขาไม่ค่อยออกมาจากห้องหรอกช่างเขาเถอะ ทำงานอะไรก็ไม่รู้เอาแต่หมกตัวอยู่ข้างใน ถ้าไม่หิวข้าวก็คงไม่ออกมาให้เห็นหน้าหรอก” ป้าบ่นแล้วส่ายหัวอย่างเอือมระอา
“หนูขึ้นไปได้เลยนะวี ไปทำความสะอาดได้เลยไม้กวาดกับไม้ถูพื้นอยู่ตรงนี้ ขอโทษด้วยนะที่ป้าไม่ได้ช่วยทำ” ป้านางบอกแล้วชี้ไปที่อุปกรณ์ทำความสะอาด
“ไม่เป็นไรครับป้าเดี๋ยวหนูทำเองได้ แค่ป้ากรุณาให้หนูมาพักด้วยเท่านี้หนูก็รู้สึกดีใจแล้ว” เธอบอกด้วยรอยยิ้มแล้วจัดการนำกระเป๋าขึ้นไปไว้บนห้อง ก่อนจะกลับลงมาเอาไม้กวาดและไม้ถูพื้นขึ้นไปทำความสะอาด
วีรยาสังเกตแสงไฟที่ลอดใต้ประตูของห้องตรงข้าม แอบคิดว่าผู้ชายที่อยู่ในห้องนั้นเป็นคนยังไงกันแน่ ทำไมดูโลกส่วนตัวสูงขนาดนั้น
หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วเธอก็นำผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนที่ป้านางยกให้นำมาให้จัดที่นอนให้เรียบร้อยแล้วนั่งพักเหนื่อย
ห้องที่นี่ก็ดูไม่เลวเลยทีเดียวในราคาสองพันบาท ถือว่าคุ้มมากดีกว่าไปเช่าห้องเช่าห้องละสามพันจ่ายค่าน้ำค่าไฟต่างหาก
หลังจากนั้นไม่นานวีรยาก็นำเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำของตนถือไปที่ห้องน้ำเพื่อที่จะอาบน้ำยังห้องน้ำอยู่ที่ชั้นหนึ่ง เธอใช้ห้องน้ำต่อจากป้านางที่อาบน้ำเสร็จพอดี
เมื่ออาบน้ำทำความสะอาดร่างกายจนรู้สึกความสดชื่นแล้ว กลับออกมาก็จะเดินขึ้นบันไดไปพักผ่อน แต่ก็ได้ยินเสียงดังในครัวจึงเดินไปดูเข้าใจว่าเป็นป้านาง แต่กลับเจอเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง
“คุณเป็นใครมาอยู่ในบ้านผมได้ยังไง” เขาถามในขณะที่กำลังกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยอยู่
“ฉันมาเช่าห้องอยู่ตรงข้ามห้องของคุณค่ะ ป้านางพามา”
“แม่ไม่เห็นบอกผมเลยว่าจะมีคนมาเช่าบ้านอยู่ด้วย” เขาบ่นเล็กน้อยไม่เป็นพิธีนักขณะทานบะหมี่ไปด้วย
“ฉันชื่อวีนะ” เธอแนะนำตัวเพราะคิดว่าต้องอยู่ร่วมกันกับเขาไปอีกนาน
“ผมชื่อเนส” เขาแนะนำตัวเอง ไม่ได้หยิ่งแต่ก็ไม่ได้ดูกระตือรือร้นที่จะพูดคุยกับเธอเท่าไร
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันต้องขอตัวขึ้นห้องไปก่อนพรุ่งนี้ทำงานวันแรก”
“ทำงานที่ไหนเหรอ” เขาถามเหมือนว่าชวนคุย
“โรงงานเย็บผ้าแถวนี้ค่ะ”
“อืม ไปนอนเถอะยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” คราวนี้เขายิ้มให้ ก่อนจะยกถ้วยบะหมี่ขึ้นมาซดน้ำเสียงดังแล้วยิ้มให้เธออีกรอบ
วีรยาอมยิ้ม เขาช่างเป็นผู้ชายที่ดูมีสไตล์เป็นของตัวเองและมีเสน่ห์แบบธรรมชาติโดยที่เขาไม่รู้ตัว
“ฝันดีนะ” เขาพูดไล่หลังเธอ ทำให้หญิงสาวเขินเล็กน้อย
**********************
ในตอนเช้าวีรยาตื่นขึ้นมา เธอเตรียมตัวจะไปทำงานพบว่าป้านางกำลังเตรียมของที่จะออกไปเปิดร้านก็ทักทายเสนอความช่วยเหลือ
“ให้หนูช่วยไหมคะป้า”
“ไม่ต้องหรอกหนูวีรีบไปทำงานเถอะ ป้าขอโทษนะที่ไม่ได้ทำข้าวเช้าไว้ให้” ป้านางพูดอย่างเกรงใจทั้งๆ ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แท้ๆ จนเธออดยิ้มไม่ได้
“ไม่เป็นไรค่ะป้า แค่ป้าให้หนูมาเช่าห้องอยู่ด้วยหนูก็เกรงใจจะแย่แล้ว”
“แล้วเมื่อคืนนอนหลับสบายไหม ลูกชายป้าทำเสียงดังรบกวนหรือเปล่า”
“ไม่เลยค่ะเมื่อคืนหนูเจอเนสแล้วนะคะตอนอาบน้ำเสร็จเห็นเขาลงมาทานบะหมี่”
“หนูเจอเจ้าเนสเหรอ มันว่ายังไงบ้างล่ะคงบ่นว่าล่ะสิที่อยู่ๆ ก็พาคนมาเช่าอยู่ด้วยโดยไม่ได้บอกก่อน”
“ใช่ค่ะก็บ่นนิดหน่อยแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะก็ดูท่าทางเป็นมิตรดี”
“ดีแล้วล่ะรีบไปทำงานเถอะเดี๋ยวจะไปสาย” ป้านางบอกแล้วยิ้มให้ด้วยท่าทีที่อ่อนโยน
วีรยาเข้างานกะเจ็ดโมงเช้าเลิกสี่โมงเย็น จึงแวะทานอาหารที่ร้านของป้านางก่อนและอยากรอเก็บร้านช่วย
“ไม่ต้องอยู่ช่วย ป้าปิดร้านค่ำกลับบ้านไปก่อนเลย”
“แล้วจะฝากข้าวไปให้เนสหรือเปล่าคะ เมื่อคืนเขาก็ลงมาต้มบะหมี่กิน”
“ไม่ต้องหรอกรายนั้นเขาไม่ชอบกินอาหารฝีมือป้าหรอก ไม่บะหมี่ก็ไข่เจียวแค่หุงข้าวทิ้งเอาไว้เดี๋ยวเขาก็ลงมาจัดการเอง บางทีกินบางทีไม่กินเอาใจยากมากลูกชายคนนี้” ป้านางบ่นยิ้มๆ
“แล้วเนสเขาทำงานอะไรเหรอคะถึงอยู่แต่ในห้องทั้งวันทั้งคืนแบบนั้น” วีรยาถามด้วยความสงสัย
“งานอะไรไม่รู้เป็นภาษาอังกฤษป้าก็พูดไม่ถูก รู้แค่ว่ามันต้องใช้คอมทำและต้องใช้สมาธิอะไรของเขานั่นแหละ” หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วพยายามนึกชื่ออาชีพของลูกชายแต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
“ถ้าอย่างนั้นหนูกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกแล้วเดินกลับบ้านที่ห่างออกไปประมาณสองร้อยเมตร
เพื่อนบ้านในละแวกนั้นมองหญิงสาวด้วยสายตาที่ค่อนข้างประหลาดใจแล้วหันไปซุบซิบกัน วีรยามองดูก็พอรู้ว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องของคนอื่น
พอเห็นว่าเธอเดินเข้าไปที่บ้านหลังท้ายซอยพวกนั้นก็ยิ่งซุบซิบกันคงคิดว่าเธอเป็นแฟนของลูกชายเจ้าของบ้านแล้วมาอยู่ก่อนแต่งอะไรทำนองนั้นแต่วีรยาก็ไม่ได้สนใจ
เธอขึ้นห้องไปนอนอ่านหนังสือเล่น จริงๆ วันนี้เธอจะต้องทำโอทีตามคำชวนของเพื่อนเลยก็ได้ แต่ขอกลับมาก่อนเพื่อตั้งหลักและต้องบอกป้านางล่วงหน้าไม่อย่างนั้นเจ้าของบ้านวัยกลางคนอาจจะเป็นห่วงเอาได้
พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีเสื้อผ้าไม่กี่ชุดจึงรีบลงไปซักผ้า เสร็จแล้วก็อาบน้ำกลับเข้ามาพักผ่อนในห้องของตัวเอง
หญิงสาวเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ประมาณสามทุ่มที่ประตูห้องถูกเคาะ พอเธอเปิดออกไปก็พบว่าเป็นเนสยืนยิ้มอยู่หน้าห้องแล้วยื่นกระดาษที่จดเบอร์โทรให้
“นี่เบอร์โทรผมนะ” เขาบอกแล้วอมยิ้ม พิงขอบประตูด้วยท่าทางสบายๆ
“ให้ฉันทำไมคะ” วีรยาแกล้งถามไปอย่างนั้น เธอพอรู้ว่าที่เขาให้เบอร์ก็เพราะอยากได้เบอร์ของเธอกลับไป
“ผมอยากได้เบอร์คุณ” เขาบอกตรงๆ แล้วส่งยิ้มที่เสน่ห์ให้
เธอจึงกดเบอร์โทรเขาแล้วโทรออก โทรศัพท์ของเขาที่อยู่ในมือดังขึ้นนิดยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“จะว่าไปแล้วคุณทำงานอะไรเหรอคะ ทำไมอยู่บ้านตลอดเวลา”
“ผมเป็นโปรแกรมเมอร์ฟรีแลนซ์ สร้างเกมให้กับบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ แล้วก็เป็นจีเอ็มดูแลเกม”
“ดีจังเลยนะคะทำงานอยู่ที่บ้านของตัวเองก็มีรายได้แล้ว”
“คุณมีแฟนหรือยัง” เขาถามตรงๆ อย่างไม่อ้อมค้อม
วีรยาจึงพอดูออกอยู่ว่าลูกชายเจ้าของบ้านเช่านั้นกำลังจีบตัวเองอยู่ “ป้านางบอกว่าคุณชอบความเป็นส่วนตัวแล้วทำไมมาจีบฉันแบบนี้ล่ะคะ” เธอถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเช่นกัน
“ถึงผมจะชอบความเป็นส่วนตัว แต่ว่าผมจะชอบคุณด้วยไม่ได้เหรอ” เจอลูกจีบแบบนี้ วีรยาถึงกับไปไม่เป็น
มาอยู่ที่นี่แค่สองวันก็เจอลูกชายเจ้าของบ้านจีบแล้ว แต่เธอกลับไม่รู้สึกว่าถูกคุกคามหรืออึดอัดใจเลยแม้แต่นิด
“พรุ่งนี้ผมจะรอทานข้าวเย็นกับคุณนะ” เขาบอกด้วยใบหน้าที่อมยิ้มอยู่ตลอดเวลา
“พรุ่งนี้ฉันต้องทำโอที น่าจะเลิกดึก”
“หน้าปากซอยมันเปลี่ยว ถ้าอย่างนั้นผมไปรอรับคุณก็แล้วกัน” เขาเสนอตัว วีรยาจึงพยักหน้ารับเล็กน้อย
“ก็แล้วแต่นะถ้าว่างก็ไป ถ้าปลีกตัวไม่ได้ก็ไม่ต้องไปรับก็ได้นะ” เธออมยิ้มเขินที่ถูกจีบซึ่งๆ หน้าอย่างนั้น
“งั้นคืนนี้ฝันดีนะวี”
“อืม ฝันดีนะเนส” ทั้งสองคนบอกฝันดีแก่กัน ก่อนที่วีรยาจะปิดประตูแล้วยืนพิงประตูห้องเอาไว้ เธอยิ้มกว้างด้วยความเขินอายที่ถูกหนุ่มหล่อมีสไตล์อย่างเขาจีบตรงๆ
**********************
วีรยาคิดเรื่องของเนสที่กำลังจีบเธออยู่ด้วยความรู้สึกที่ยินดี มันเป็นความปลื้มใจและยินดีจนอธิบายความรู้สึกที่บอกไม่ถูก
เธอพลิกตัวนอนคิดจนกระทั่งเก็บเอาไปฝันถึงเขา ในความฝันนั้นเนสเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วโอบกอดเธอไว้ เสื้อผ้าของทั้งสองถูกถอดกองลงที่พื้นแล้วเขาก็จับไหล่เธอกดลงบนที่นอน
“วี คุณสวยถูกใจผมที่สุดเลย”
“ปากหวานจังเลยนะคะ” เธอพูดเสียงนุ่ม สบตากับเขาด้วยความปรารถนา ก่อนที่จะเขาจะโน้มตัวลงมาจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม
ปลายลิ้นของเขาสัมผัสทั่วในโพรงปาก ขนาดความฝันยังรู้สึกถึงความนุ่มละมุนและเสียวกระสันได้มากแบบนี้ เขาเคลื่อนสะโพกถูไถแท่งลำที่หน้าท้องของเธอขณะที่กำลังพรมจูบไปทั่วใบหน้าแล้วเลื่อนมาซุกไซ้ที่ซอกคอ
หญิงสาวรู้สึกสุขสมเป็นอย่างมาก แอ่นกายรับการปรนเปรอจากเขาแล้วครางออกมาเสียงหลงด้วยความสยิวซ่าน
“มันช่างเป็นความฝันที่มีความสุขเหลือเกิน” เธอครางออกมาเบาๆ แล้วแอ่นสะโพกเข้าหาเขาไม่หยุดเพื่อเรียกร้องให้เขากระทำสิ่งนั้น
ชายหนุ่มยกตัวขึ้นยิ้มให้เธอ จับขาของหญิงสาวกางออกกว้างก่อนที่จะนำแกนกายที่แข็งแกร่งของตนสอดใส่เข้าไป ทำให้หญิงสาวถึงกับครางลั่น
“ฉันไม่อยากตื่นเลย” หญิงสาวพูดเสียงเบา มองใบหน้าของเนสที่เต็มไปด้วยอารมณ์ กำลังเริ่มโยกสะโพกเข้ามาในตัวเธอ
“อืม เสียว” เธอครางบอกเขา
ในตอนนั้นเนสอมยิ้มมองใบหน้าของวีรยาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาแล้วกระแทกเข้าไปถี่รัว หญิงสาวร่างสั่นคลอนไปตามแรงกระแทกครางเสียงหลงอย่างถึงอารมณ์ที่โดนเขามอบความสุขสมนั้นให้อย่างต่อเนื่อง
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถึงจุดหมาย เนสจึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนท่าโดยจัดให้เธออยู่ในท่าคุกเข่าแล้วประกบสอดใส่จากด้านหลัง แกนกายของเขาดันเข้าไปจนสุด ปลายหัวหยักเกาะเกี่ยวกับจุดกระสันด้านในและด้านนอกในขณะที่เขาขยับเข้าออก สร้างความสุขให้กับเธอจนเกิดอารมณ์ร่วมขึ้นมาอีกครั้ง
“มีความสุขที่สุดเลยเนส”
“ผมก็มีความสุขที่สุด” เขาพูดอย่างนั้นแล้วโถมแรงกระแทกลงไปถี่ๆ จนในที่สุดเธอก็ปิ่มว่าจะถึงเส้นชัยอีกครั้ง
หญิงสาวร้องครางเรียกชื่อเขาเสียงดัง เกร็งสะโพกตอดรัดแล้วตัวอ่อนลงไปที่เตียงของตนเอง ในขณะที่เนสยังคงตอกอัดโถมแรงเข้าไปอย่างต่อเนื่อง
แล้วในที่สุดเขาก็ปลดเข้าไปในตัวเธอแล้วก้มลงจูบแผ่นหลังด้วยความหลงใหล
“เราน่าจะเจอกันให้เร็วกว่านี้” เขาพูดแล้วจับตัวเธอนอนหงายจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่มในความฝันอันแสนหวาน วีรยาแทบจะไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย
**********************
ในคืนที่วีรยาเลิกงานดึกเนสเดินไปรับเธอถึงที่หน้าถนนทำให้เธอถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจ ความฝันเมื่อคืนทำให้เธออดยิ้มเขินไม่ได้
“ฉันนึกว่าคุณจะไปรอรับฉันที่หน้าปากซอยเข้าบ้านเสียอีก ไม่รู้ว่าจะมารอที่นี่”
“ปากซอยเข้าบ้านแค่นั้นมันไม่อันตรายหรอก แต่ถนนเข้าซอยนี่สิมันเปลี่ยว ผมต้องออกมารับคุณ” เขาพูดแล้วยิ้มให้ด้วยความยินดี
“ฉันกินข้าวมาแล้วนะพอดีที่โรงงานเลี้ยงข้าวกล่องรอบดึก” เธอบอกเขาอย่างเป็นกังวลว่าเขาจะรอทานข้าวกับเธออย่างที่บอก
“ไม่เป็นไรผมก็ทานมาแล้ว” เขาพูดแล้วอมยิ้มขณะเดินไปด้วยกัน
ทั้งสองเดินมาจนถึงปากซอยที่จะเลี้ยวเข้าบ้าน เพื่อนบ้านมองดูตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอยแล้วเริ่มซุบซิบกันทำให้วีรยานั้นรู้สึกว่าซอยนี้ไม่น่าอยู่เอาเสียเลย
“ผมเจอประจำแหละแบบนี้” เขาพูดเสียงเบาให้ได้ยินกับเธอแค่สองคน วีรยาจึงหันไปยิ้มให้กับเขาแล้วรอฟังสิ่งที่เขาจะพูด
“ผมทำงานอยู่แต่ในห้องไม่ได้ออกไปไหนเขาก็บอกว่าผมเกาะแม่กินบ้างล่ะ เป็นลูกอกตัญญูบ้างล่ะ ขี้เกียจสันหลังยาวบ้างล่ะ แล้วอวดอ้างว่าลูกตัวเองดีเรียนจบสูงอย่างนั้นอย่างนี้” เนสพูดแล้วพยักพเยิดให้ดูที่บ้านหลังหนึ่ง
“ดูอย่างป้าบ้านนี้สิ ลูกจบโทตอนนี้ยังไม่ได้งานทำเลยเพราะคิดว่างานทั่วไปไม่เหมาะกับตัวเอง อยากทำงานตำแหน่งสูง ใครล่ะจะรับคนไม่มีประสบการณ์ ทุกคนก็ต้องเริ่มจากตำแหน่งล่างก่อนทั้งนั้น” เขาพูดแล้วหันไปมองบ้านอีกหลังที่อยู่ติดกันกับบ้านของเขา
“แล้วบ้านข้างๆ เนี่ย อวดว่าลูกได้รับราชการเงินเดือนสี่หมื่นห้าหมื่น แต่คุณรู้ไหมว่าเป็นข้าราชการมีสิทธิ์กู้นั่นกู้นี่ก็กู้ซะเต็มคราบ เงินเดือนออกถูกหักเงินกู้ไปเหลือใช้ไม่ถึงหมื่น ถ้าแม่ผมไปขิงเงินเดือนผมคืนนะพวกนี้จะหนาว” เนสพูดอย่างขำๆ ทำให้หญิงสาวพยักหน้าฟังเพลินไปด้วย ไม่เคยเจอผู้ชายที่พูดเก่งแบบนี้มาก่อน
พอกลับถึงบ้านทั้งสองคนก็แยกย้ายกันกลับเข้าห้องของตัวเอง
“ขอบใจนะที่เดินไปรับ”
“อืม วันไหนมีโอทีอีกก็บอกนะ งั้นผมขอตัวไปทำงานต่อก่อน ฝันดีนะวี” เขาบอกเธอเสียงเบา แล้วรอฟังเธอบอกฝันดีกลับ
“ฝันดีเช่นกัน” เธอบอกเขาเสียงหวาน นึกในใจว่าคืนนี้ขอฝันเรื่องเดิมอีกครั้งก็แล้วกัน
และคืนนี้ก็ไม่ทำให้เธอผิดหวัง วีรยาฝันถึงลูกชายเจ้าของบ้านเช่าอีกครั้ง
ครั้งนี้เนสนอนเปลือยอยู่ข้างเธอแล้วเรียกร้องให้เธอเป็นฝ่ายมอบความสุขให้แก่เขา
ในความฝันหญิงสาวอยู่ในร่างกายที่เปลือยเปล่าไม่มีเสื้อผ้าปิดบางเลยสักชิ้น เธอจับแท่งลำปลายหัวฉ่ำวาวนั้นขึ้นมาดูดเลียแล้วอมที่ปลายหัวหยักแล้วดูดมันเบาๆ ทำให้ชายหนุ่มข้างสูดปากด้วยความเสียวซ่าน
“คุณสุดยอดเหลือเกินวี คุณสุดยอดเหลือเกิน” เขาได้แต่พร่ำชมเธออยู่อย่างนั้นแล้วครางออกมาด้วยน้ำเสียงที่พอใจ
วีรยาผละออกจากแท่งหวานเย็นที่คับปากนั้นแล้วขึ้นมาขย่มโยกบนร่างกายของเขา นี่เป็นความฝันของเธอ เธออยากเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่างด้วยตนเอง
แล้วหญิงสาวก็เริ่มขย่มลงไปอย่างเต็มแรง ชายหนุ่มกุมหน้าอกของเธอที่กระเพื่อมเอาไว้แล้วขยำมันอย่างมันเขี้ยว ก่อนที่จะปล่อยให้มันกระเพื่อมอย่างเป็นอิสระแล้วใช้มือจับสะโพกเธอช่วยส่งแรงในการขย่มพร้อมๆ กับเด้งสะโพกสวนเข้าหาเธอไป
เสียงครางของทั้งคู่กระตุ้นอารมณ์ให้แกอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ในตอนนั้นเธอขย่มจนกระทั่งตัวเองถึงจุดหมายแล้วทิ้งตัวลงนอนข้างเขา
เนสไม่รอช้าขึ้นมาทาบทับบนตัวเธอแล้วจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่มในขณะที่ใช้เข่าแยกขาของเธอออกแล้วดันแกนกายเข้าไปอย่างเต็มรัก
สะโพกของเขาเคลื่อนไหวเข้าไปถี่รัวจนหญิงสาวครางลั่น
ความฝันในคืนนี้มีความสุขไม่ต่างจากคืนแรกมันทำให้เธอไม่อยากตื่น และแอบคิดในใจว่าทำไมตนเองถึงได้หลงใหลเขาจนเอาเก็บมาฝันว่าได้ลึกซึ้งกันถึงขนาดนี้
ไม่นานนักเนสก็ถึงจุดหมายแล้วปล่อยน้ำรักเข้าไปในตัวเธอ ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงข้างๆ แล้วกอดเธอเอาไว้
“ผมรักคุณนะวี ผมรักคุณที่สุดเลย อยู่บ้านหลังนี้ด้วยกันไปนานๆ นะอย่าไปไหน”
“ฉันสัญญาว่าจะอยู่ที่นี่กับคุณไปนานๆ เลย” วีรยาบอกแล้วกอดจูบชายในฝันของตนเองด้วยความหลงใหลเช่นกัน
**********************
วีรยาอยู่ที่นี่ครบสองสัปดาห์แล้ว เธอมีความสุขมากที่เธอกับเนสสนิทสนมกันในความเป็นจริง และแอบเขินทุกครั้งเวลาที่อยู่ด้วยกันกับเขา เพราะเธอเอาเขาไปฝันถึงเรื่องอย่างว่าแทบทุกคืน
วันนี้เป็นวันหยุดของเธอในรอบสองสัปดาห์หลังจากที่ทำงานหนักติดต่อกันมาหลายวัน วีรยาจึงตื่นเกือบเที่ยงพอลงมาอาบน้ำก็พบว่าป้านางหยุดอยู่บ้านเช่นกัน
“ป้าไม่ได้ขายของเหรอคะวันนี้” เธอทักทายด้วยน้ำเสียงที่สดใส
“ไม่หรอก วันนี้เจ้าเนสมันออกจากห้องได้ เห็นบอกว่าขายงานได้กำลังไปตลาดซื้อของกลับมาทำอาหารอยู่” ป้านางยิ้มด้วยท่าทีที่ดีใจ
“จะว่าไปแล้ว วีดูโทรมไปนะลูก ผอมซีดเชียวทำงานดึกล่ะสิช่วงนี้ อย่าหักโหมมากนะลูก เงินก็สำคัญ สุขภาพสำคัญกว่า”
“ค่ะป้า วันนี้ก็เลยตื่นสายหน่อย สงสัยร่างกายเพลียมาก” วีรยาบอกป้าเจ้าของบ้านเสียงอ่อน รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นห่วงใยจึงทักถามตามตรง
“ถ้าอย่างนั้นหนูขอไปซักเสื้อผ้าก่อนนะคะเสร็จแล้วจะมาเป็นลูกมือให้เนสในครัว”
“ขอบใจมากนะ” ป้านางบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแล้วก้มลงอ่านข่าวบันเทิงดาราในโทรศัพท์มือถือต่อ
เวลาผ่านไปพักใหญ่ขณะที่หญิงสาวตากผ้าอยู่ก็ได้ยินเสียงป้านางคุยกับใครสักคน และเสียงใช้ครกกับสากอยู่ในครัว เมื่อเธอตากผ้าเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปในครัว พอไปถึงก็เจอผู้ชายคนหนึ่งกำลังทำกับข้าวอยู่ เขายิ้มให้กับเธอตามมารยาทแล้วทักทายออกมา
“วีใช่ไหม เห็นแม่บอกว่าจะมาช่วยทำกับข้าวแต่ไม่มีอะไรให้ทำหรอกนะครับ พอดีผมซื้อสำเร็จมาจากตลาดแล้ว ตอนนี้แค่มาตำน้ำจิ้มเพิ่ม ยังไงก็รอทานด้วยกันนะครับ” ชายคนนั้นบอกด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ วีรยาจึงยิ้มให้เขาแล้วมองหน้าเขางงๆ
คิดว่าว่าเขาอาจจะเป็นเพื่อนของเนสที่มาร่วมฉลองด้วยในวันนี้ เมื่อคิดดังนั้นเธอจึงยกจานอาหารที่จัดแล้วออกมาวางที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน มองหาเนสแต่ก็ไม่เจอ
“เนสล่ะคะ”
“อ้าว ก็ตำน้ำจิ้มอยู่ในครัวไงไม่เห็นเหรอ” พอป้านางพูดอย่างนั้นฉันก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
สักพักผู้ชายคนที่ฉันเห็นในครัวก็เดินออกมาพร้อมกับถ้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เขาตำเองแล้วยิ้มให้กับฉัน
“ขอโทษด้วยที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยออกมาทักทาย พอดีว่าผมอยู่บ้านกินนอนไม่เป็นเวลาส่วนมากจะทำงานตอนกลางคืนมากกว่า” เขาบอกเสียงเรียบ แต่ดูเป็นมิตรขึ้นมาหน่อย
ฉันนั่งงงอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
“จริงสิเนส แล้วที่เนสจะบอกแม่เรื่องคนในซอยพูดกันมันคืออะไรเหรอ”
“อ๋อ คนในซอยเขาบอกว่าวีเดินกลับบ้านดึกๆ พูดคนเดียวทุกวันจนแกกลัว สงสัยแกจะไม่รู้จักสมอลล์ทอล์คมั้ง ใครจะเป็นบ้าพูดคนเดียว” เขาบอกมารดา
ตอนนี้ขนแขนวีรยาตั้งชัน หากฟังไม่ผิดผู้ชายคนนี้คืนเนส แล้วเนสคนก่อนหน้านี้ล่ะเขาเป็นใครกัน แล้วเพื่อนบ้านเห็นเธอเดินพูดคุยและหัวเราะอยู่คนเดียว ไหนจะเนสคนนั้นที่ออกมาเจอแค่ตอนกลางคืน รวมไปถึงความฝันที่สมจริงแบบนั้น
“อยู่ด้วยกันตลอดไปนะ” อยู่ๆ เสียงเยือกเย็นนั้นก็ดังขึ้นมาข้างหูของวีรยา
ในตอนนั้นหญิงสาวรู้สึกได้ว่ามือเท้าเย็นเฉียบขึ้นมาโดยฉับพลัน ขนหัวลุกซู่ตั้งแต่หนังหัวยาวไปถึงหลัง อยากขอตัวขึ้นห้องไปใจจะขาดแต่ไม่กล้าอยู่คนเดียวจึงต้องนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยความรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก
“ไม่ทานเหรอวี” ป้านางถามเสียงนุ่ม
“ไม่ค่อยหิวค่ะ” เธอตอบเสียงสั่นแล้วนั่งเงียบ ได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่าคืนนี้จะทำอย่างไรดี หากชายลึกลับคนนั้นมา
“วีมาแบ่งเช่าด้วย เนสคงไม่อึดอัดนะลูก” เธอหันไปถามลูกชาย
“ไม่ครับแม่ ดีเหมือนกันเวลาผมยุ่งกับงานแม่ก็จะได้มีเพื่อน” เนสบอกมารดาขณะที่ทานอาหารตรงหน้าไปด้วย
“บ้านหลังนี้ป้ากับเนสอยู่มานานรึยังคะ” หญิงสาวตัดสินใจถามออกไป
“เราซื้อบ้านหลังนี้ได้ในราคาถูก อยู่มาสี่ห้าปีแล้วจ้ะ” ป้านางบอกแล้วยิ้มกับความโชคดีของตัวเองที่ซื้อบ้านหลังนี้ได้ในราคาถูก นั่นยิ่งทำให้วีรยามั่นใจว่าบ้านหลังนี้มีประวัติ
“หนูๆ ผ้าปลิวมาที่บ้านป้า” ป้าข้างบ้านร้องขึ้นมา วีรยาจึงยิ้มให้สองแม่ลูกแล้วขอตัวเดินไปเก็บผ้าที่ตกอยู่ที่บ้านข้างๆ
“ย้ายมาเช่าอยู่ใหม่เหรอลูก” เธอถามด้วยความสงสัย
“ค่ะป้า ขอบคุณนะคะที่เก็บผ้าให้” วีรยาบอกด้วยความสุภาพ แล้วรับผ้าของตนมาถือไว้ในมือ
“มาอยู่ที่นี่ไม่กลัวเหรอ ผู้หญิงตัวคนเดียว ไม่กลัวเหรอลูก” ป้าถามอย่างสงสัย วีรยาทำหน้างงในสิ่งที่ป้าข้างบ้านบอก
“กลัวอะไรจ๊ะป้า ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว” หญิงสาวแกล้งทำเป็นถาม เพื่อกระตุ้นให้ป้าเล่าประวัติบ้านหลังนี้ให้ฟัง
“บ้านหลังนั้นร้างมาได้หลายปีแล้ว ตอนแรกลูกชายเจ้าของบ้านคนแรกอกหักจากแฟนเลยกินยาฆ่าตัวตาย เฮี้ยนมากเลยนะ พ่อแม่ก็อยู่ไม่ได้จนได้ขายในราคาถูก”
“มิน่าล่ะ ป้านางถึงซื้อได้ราคาถูก” เธอพูดแล้วขนลุกซู่ด้วยความกลัว เมื่อบ้านหลังนี้มีประวัติจริงๆ
“รู้จักป้านางด้วยเหรอ” ป้าข้างบ้านถามแล้วทำท่าขนลุก
“จ้ะ ป้านางพาหนูมาที่นี่ แบ่งห้องให้เช่าด้วย”
“นั่นไง ว่าแล้วเชียว ...กลางวันแสกๆ ก็ไม่เว้น” ป้าข้างบ้านพูดไปลูบแขนไป
“อะไรเหรอจ๊ะ”
“ป้านางมาซื้อบ้านหลังนี้ ลูกชายแกชอบเก็บตัวทำงานออนไลน์ในห้อง ไม่ลงมาหลายวันก็ไม่เอะใจ จนได้กลิ่นศพถึงรู้ว่าเนสทำงานหนักจนหัวใจวายตายคาห้องนอน จากนั้นป้านางแกก็ผูกคอตายตามลูกชายไป โอ๊ยพูดแล้วก็ขนลุก”
สิ้นเสียงเล่าของหญิงวัยกลางคน วีรยาค่อยๆ หันกลับไปมองที่บ้านเช่า ป้านาง เนสและผู้ชายคนนั้น ยืนเรียงกันมองมาที่เธอด้วยสีหน้าที่ดูไร้ความรู้สึก
“อยู่ด้วยกันที่นี่นะ อยู่ด้วยกันตลอดไป” ชายคนที่วีรยาเข้าใจว่าคือเนสพูดขึ้น สายตาของเขาแดงก่ำ เลือดทะลักออกมาจากปากและจมูก
ในขณะที่เนสค่อยๆ ตัวเขียวคล้ำ แล้วป้านางที่เปลี่ยนจากสภาพปกติเป็นยืนเอียงคอลิ้นจุกปากทำตาถลน
“กรี๊ด!!!!”
เสียงหวีดร้องด้วยความช็อกสุดขีดของหญิงสาวดังขึ้นก่อนที่จะล้มลงกับพื้น
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย คนเป็นลม” เจ้าของบ้านข้างๆ ร้องขึ้นมาเสียงดัง แล้วเรียกให้เพื่อนบ้านหลายคนมาช่วยนำตัววีรยาออกมาจากบ้านหลังนั้น
วีรยามองดูร่างตัวเอง ด้านข้างของเธอมีชายที่เธอฝันว่าได้หลับนอนกับเขายืนอยู่
“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปแล้วนะวี” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก
“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” วีรยาพูดเสียงเย็น มองร่างของตนถูกพาไปพัดวีที่นอกเขตรั้วบ้าน ก่อนที่จะหันหลังเดินตามเขาเข้าไปในบ้านเช่าหลังนั้น อยู่ที่นี่ด้วยกัน...ตามสัญญา
---จบ---