เรื่องที่ 32 เข้าใจในรัก

4349 คำ
จิตราแม่มายวัยสามสิบห้าปี เธอเป็นม่ายสาวพราวเสน่ห์ที่ ไม่สนใจว่าใครจะมองว่าเธอเป็นอย่างไร หลังจากสามีคนที่สามเสียชีวิตเหมือนสองคนแรก เธอก็ยังไม่หยุดที่จะเริ่มชีวิตคู่กับว่าที่สามีคนที่สี่ เธอกำลังคบหาดูใจอยู่กับ ‘เทวา’ นักธุรกิจหนุ่มพ่อม่ายวัยห้าสิบปีที่อยู่บ้านติดกัน และเขาก็มีลูกติดมาหนึ่งคนอายุ ยี่สิบต้นๆ ที่เพิ่งจะเรียนจบและทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งลูกสาวของเขานี่เองที่เป็นปัญหากับจิตรา ในตอนนี้แม่ม่ายสาวกำลังขย่มโยกอยู่บนตัวของคนรัก ด้วยประสบการณ์ที่โชกโชนและเร่าร้อนของทั้งคู่ทำให้บทรักครั้งนี้เต็มไปด้วยความสุขสมเกินที่จะบรรยาย เทวาจับสะโพกของเธอส่งแรงให้จิตราขย่มลงมาสะโพกของเขาแล้วร้องครางในลำคอเสียงกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน “อื้อ ฉันมีความสุขจังเลยค่ะ” “ผมก็มีความสุขครับ อื้ม กระแทกลงมาได้แรงที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้เลยนะครับ” เขาบอกเสียงพร่าต่ำ แล้วสูดปากด้วยความเสียวซ่าน พอใจกับลีลาบดร่อนของเธอเป็นอย่างมากและไม่อยากให้ช่วงเวลาสุขสมนี้ต้องจบลงง่ายๆ เขามองหญิงสาวมาตลอดตั้งแต่ที่ย้ายบ้านมาอยู่ข้างกัน แต่ติดที่ว่าเธอมีสามีแล้วเขาจึงไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธอ แต่หลังจากที่สามีของเธอเสียไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว เขาก็ใช้จังหวะที่เธอกำลังอยู่ในความโศกเศร้าและเปล่าเปลี่ยวใจเข้ามาในชีวิตเธอ พอคุยกันถูกใจทั้งสองคนก็เริ่มคบหากัน แต่กว่าที่จิตราจะยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเขาก็เกลี้ยกล่อมอยู่นานพอสมควร “ไม่ไหวแล้ว อื้อ” จิตราครางลั่นก่อนที่จะตัวอ่อนลงไปในตอนนั้น เทวาจึงเป็นฝ่ายขึ้นมาคุมเกม ให้เธอนอนคว่ำหน้าในท่าคุกเข่าแล้วประกบจากด้านหลัง จับสะโพกเธอเอาไว้ขยับสะโพกดันแท่งลำเข้าไปแล้วซอยถี่รัวจนเกิดเสียงดังตับๆ ของเนื้อที่กระทบกัน หญิงสาวร้องครางทุบหมอนด้วยความสุขสม มีความสุขกับลีลารักของพ่อม่ายหนุ่มที่เขาเองก็เก็บเก็บกดมานาน หลังจากนั้นไม่นานเทวาก็ถึงเส้นชัยไปแล้วนอนหอบอยู่ข้างคนรัก จูบที่หน้าผากเธอก่อนที่จะเริ่มพูดธุระของตนออกมา “ที่บอกว่าจะพาจิตไปเที่ยวทะเลสัปดาห์นี้ผมไปไม่ได้แล้วนะ ลูกสาวผมไม่ให้ไป คุณเข้าใจผมนะ” “จิตเข้าใจคุณดีค่ะ แต่จิตไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวของคุณต้องกีดกันจิตขนาดนี้ ให้จิตลองคุยกับเธอดูไหมคะ บางทีเธออาจจะกลัวว่าจิตจะเข้ามาหลอกคุณ ให้จิตลองคุยเปิดใจกับเธอดูสักครั้งเถอะค่ะ” “ไม่ได้หรอกจิตผมเอ่ยชื่อคุณลูกสาวผมก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้ว” เขาบอกเธอเสียงเครียด จริงๆ เทวามั่นใจว่าจิตราไม่ได้เข้ามาหลอกตน เธอแต่งงานมาสามครั้งและได้รับมรดกจากสามีทั้งสามคน ถึงแต่ละคนไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่รวมกันก็ทำให้เธอสามารถอยู่ได้สบายๆ ไปได้อีกหลายปีหากไม่ฟุ่มเฟือย แต่จิตราเป็นคนขยัน แม้งานเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์ของเธอต้องแต่งตัวโป๊เพื่อยั่วยวน แต่ความจริงแล้วเธอเป็นคนที่เข้มแข็งมากและไม่ได้ยอมหลับนอนกับใครง่ายๆ เลยสักนิด เพราะกว่าเขาจะได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอยังใช้เวลาดูใจกันกว่าสองเดือน “เป็นแบบนี้เมื่อไหร่เราจะได้อยู่ด้วยกันสักทีล่ะคะ” “ผมก็หาโอกาสแวะมาหาคุณบ่อยๆ อยู่นี่ไง” “แต่จิตอยากอยู่กับคุณ อยากแต่งงานสร้างครอบครัวนี่คะ ไม่ได้อยากจะเทียวไปเทียวมาเหมือนวัยรุ่นคบกันแบบนี้ อายุก็เริ่มมากขึ้นแล้วนะคะ จิตอยากมีครอบครัวที่มั่นคง” จิตราบอกเขา เธอไม่เชื่อเรื่องดวงกินผัวที่คนว่าให้เธอ หรือแม้กระทั่งบอกว่าเธอวางแผนฆ่าสามีเพื่อเอาสมบัติเธอก็ไม่สนใจ ชีวิตของเธอเจอเรื่องเลวร้ายมามากพอแล้ว คำนินทาและคำดูถูกพวกนั้นเธอไม่ได้นำมันมาใส่ใจ “เอาน่ารอผมอีกนิดนะคนดี ผมสัญญาว่าจากคุยกับลูกให้รู้เรื่อง” “วันเสาร์นี้ยังไงจิตก็ต้องได้ไปทะเลกับคุณนะคะ ไม่อย่างนั้นจิตไม่ยอมจริงๆ ด้วย” เธอบอกเขาเพื่อกระตุ้นให้เขากล้าพอที่จะพูดคุยตรงๆ กับหนูนา “เห็นใจผมหน่อยเถอะ คนนั้นก็ลูก คนนี้ก็เมีย ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว” จิตราได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมามองหน้าที่สลดลงไปของคนรักแล้วพยักหน้าเบาๆ เธอเข้าใจเขา แต่เขาก็ต้องเข้าใจเธอเหมือนกัน “ก็ได้ค่ะ จิตจะให้คุณพูดกับลูกสาวคุณเอง แต่จิตมีกำหนดเวลานะคะ ถ้าภายในเดือนนี้คุณยังคุยกับลูกสาวไม่ได้ เราก็คงไปต่อกันไม่ได้เหมือนกัน จิตเองต้องการชีวิตที่มั่นคง ไม่ได้อยากนอนกับใครไปทั่วโดยไม่มีจุดหมาย ถึงจิตจะเป็นแม่ม่าย แต่จิตก็มีศักดิ์ศรีของจิต” หญิงสาวบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด เทวาได้แต่ถอดหายใจอย่างเป็นกังวล ********************** เทวากลับบ้านมานั่งรอให้หนูนากลับมาถึง พอหญิงสาวเห็นหน้าบิดาก็จะเดินหนีขึ้นห้องไป “อยู่คุยกับพ่อก่อนสิ” เทวาเรียกลูกสาวเอาไว้ “ถ้าพ่อจะคุยเรื่องผู้หญิงคนนั้นหนูนาไม่คุยนะคะ” “หนูนาฟังพ่อก่อนสิ พ่อก็แก่ปูนนี้แล้วทำไมหนูไม่ปล่อยให้พ่อมีความสุขบ้างล่ะลูก” “ถ้าพ่อมีความสุขกับคนอื่นที่ไม่ใช่ ผู้หญิงกินผัวคนนั้นหนูนาสนับสนุนนะคะ” “แต่ว่าพ่อรักกันกับจิตราเขา จะให้พ่อคบคนอื่นได้ยังไงล่ะลูก” “พ่อก็รู้ว่าหญิงคนนี้เป็นยังไง เต้นยั่วขายของไลฟ์สดแบบนั้นน่าเกลียด ไหนจะผัวที่พึ่งตายไปแค่ไม่กี่เดือนก็มาคบกับพ่อแล้ว พ่อเองก็เคยสนิทกับน้าเทียนผัวเก่าของเธอ พ่อเอาผู้หญิงคนนั้นลงได้ยังไง” หนูนาบอกบิดาของตนอย่างหัวเสีย “หนูนาหวังดีนะคะไม่อยากให้พ่อกลายเป็นอดีตสามีคนที่สี่ของเธอ ใครๆ ก็รู้ว่าเธอเป็นแม่ม่ายผัวตาย ไหนจะข่าวลือเรื่องวางยาฆ่าผัวเอาสมบัติอีก” “เรื่องความตายใครจะสามารถไปกำหนดแต่ล่ะลูก หนูนาเองก็ต้องแยกแยะให้ออกด้วย” “เขาให้พ่อมาพูดกับหนูเหรอคะ” “ใช่ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วพ่อไม่จำเป็นต้องปรึกษาลูกด้วยซ้ำเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพ่อ แต่เพราะพ่ออยากให้ลูกมีส่วนร่วมกับความสุขของพ่อในครั้งนี้ด้วย พ่ออยากให้ลูกยอมรับเธอ” “พ่อจะมาถามหนูนาทำไมคะ ในเมื่อหนูนาบอกว่าไม่ชอบผู้หญิงคนนี้แต่พ่อก็ยังยืนยันจะคบเธอต่อ” หญิงสาวถามเสียงห้วนด้วยความไม่พอใจ “พ่อพูดดีๆ แล้วนะ ถ้าขืนหนูยังทำตัวแบบนี้ต่อไปพ่อก็คงไม่มีอะไรจะพูดกับหนูแล้ว” “พ่อเลือกผู้หญิงคนนั้นเหรอคะ” “ใช่ พ่อเลือกจิตและวันเสาร์นี้พ่อก็จะไปทะเลกับจิตด้วย” “งั้นก็เชิญเลยค่ะ อยากคบหากันก็เชิญเลย ไม่ต้องมาถามความเห็นของหนูนาอีก” หญิงสาวบอกเสียงแข็งแล้วเดินขึ้นห้องไปด้วยความไม่พอใจและรู้สึกน้อยใจที่บิดาไม่เข้าใจถึงความเป็นห่วงใยที่ตนมีให้ เทวาเอามือกุมศีรษะด้วยความกังวลใจ เอนตัวพิงลงที่โซฟาด้วยความลำบากใจ คนหนึ่งก็ลูก คนหนึ่งก็แฟน เอาใจลูกจิตราก็น้อยใจ เอาใจจิตราลูกสาวก็โกรธ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งกลุ้ม ********************** ในคืนวันศุกร์ที่หนูนารู้ว่าบิดาจะต้องเตรียมตัวเดินทาง พอเลิกงานแล้วเธอก็ไปต่อที่ร้านเหล้ากับเพื่อนวางแผนที่จะไม่กลับบ้านเพื่อให้บิดาเป็นห่วงและเปลี่ยนใจไม่ไปกับจิตรา และแผนของเธอก็สำเร็จ เพราะในตอนนี้เทวาเดินวนไปมารอบบ้าน พยายามโทรหาลูกสาวเท่าไรก็ไม่สามารถติดต่อได้ เขาตัดสินใจเดินไปหาจิตราที่อยู่บ้านข้างๆ เพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ “ผมติดต่อหนูนาไม่ได้เลยจิตทำยังไงดีล่ะ” “จิตพูดตรงๆ นะคะเธอไม่ได้เป็นอะไรหรอก เธอก็แค่เรียกร้องความสนใจจากคุณเพราะรู้ว่าเราจะต้องเดินทางในวันพรุ่งนี้เช้า” จิตราพูดอย่างหงุดหงิด “แต่ถ้าหนูนาเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ผมต้องรู้สึกผิดแน่ที่ทิ้งเธอไว้คนเดียวที่นี่” “ตกลงคุณจะเอายังไงคะ จะไม่ไปแล้วใช่ไหม” จิตรากอดอกถามคนรักที่เพิ่งคบหากันได้ไม่กี่เดือนด้วยท่าทีที่ไม่พอใจ “ผมขอโทษนะจิต แต่ว่าผมรักลูกสาวของผมมากเหมือนกัน ผมทิ้งลูกไม่ได้” “ถ้าอย่างนั้นจิตว่าเราเลิกกันดีกว่าไหมคะ ขืนคบกันไปก็รังแต่จะมีปัญหาเปล่าๆ” “ไม่นะจิตผมไม่ยอมเลิกกับคุณนะ ผมขอแค่ครั้งสุดท้ายจริงๆ” เขาบอกเธอด้วยท่าทางที่ร้อนใจ จิตรามองหน้าเขาเธอรู้สึกดีที่เขามีความเป็นพ่อและไม่ทอดทิ้งลูก แต่ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกแย่ที่เขากำลังผิดคำพูดกับเธอ แต่เมื่อทบทวนดูแล้วสิ่งที่เขาทำมันก็ถูกต้องเธอจึงยอมอ่อนลง “ก็ได้ค่ะ จิตจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนเรื่องเที่ยวก็เอาไว้วันหน้าเถอะค่ะ” เมื่อหญิงสาวบอกอย่างนั้นเทวารู้สึกดีใจมากที่คนรักเข้าใจเขา เขาเดินเข้าไปสวมกอดเธอแล้วหอมที่แก้มทั้งสองข้าง “ขอบคุณมากนะจิต ผมสัญญาว่าผมจะทำให้เราได้อยู่ด้วยกันอย่างแน่นอน” เขาให้คำสัญญากับเธอแล้วยิ้มให้เธอ สบตาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ ******* เทวารอจนกระทั่งเช้าหนูนาจึงกลับมาที่บ้าน “ไปไหนมาพ่อเป็นห่วงแทบแย่” “ก็ไปกินเหล้าแล้วก็นอนที่บ้านเพื่อนมา แล้วนี่พ่อยังไม่ออกเดินทางอีกเหรอคะไหนบอกว่าจะออกตั้งแต่เช้าไง” เธอถามประชดบิดา “จะไปได้ยังไงล่ะก็แกไม่กลับบ้านทั้งคืนพ่อเป็นห่วงมากเลยรู้หรือเปล่า” “ไม่ต้องมาเป็นห่วงหนูนาหรอกค่ะ หนูนาโตแล้ว” หญิงสาวบอกแล้วเดินขึ้นห้องไป สักพักเธอก็ลงมาพร้อมกับเสื้อผ้าที่จะออกไปทำงาน “จะไปก็ไปสิคะ เดินทางตอนนี้ยังทันอยู่ไม่ใช่เหรอ” เธอพูดประชดบิดาเสียงเรียบ “พ่อไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเพราะมัวแต่เป็นห่วงแก จะเอาแรงที่ไหนไปขับรถล่ะ” เทวาพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห จริงอย่างที่จิตราบอก ลูกสาวของเขาแค่กำลังเรียกร้องความสนใจและกำลังหาเรื่องขัดขวางไม่ให้เขาเดินทางไปกับจิตราเท่านั้น หลังจากที่หนูนาออกไปทำงานแล้วเทวาก็ไปหาจิตราที่บ้านเพื่อขอโทษเธออีกครั้ง จิตราทำใจอยู่แล้วว่าวันนี้เธอจะไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เทวาจึงขอเข้าไปนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านกับเธอเพื่อใช้เวลาอยู่ด้วยกันในวันลาพักร้อนของเขา “ดีเหมือนกันนะ จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะๆ ถ้าอย่างนั้นเราก็สั่งอาหารทะเลมากินกันที่บ้านก็แล้วกัน” เขาบอกเธอแล้วกอดเธอเอาไว้ที่โซฟา “คุณจะไม่ได้นอนมาทั้งคืน ขึ้นไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ตื่นขึ้นมาแล้วค่อยหาอะไรกินกัน” เธอบอกเขาอย่างเอาใจ อย่างน้อยการที่เขาเลือกเป็นพ่อที่ดี นั่นหมายถึงว่าเขาเป็นคนรักครอบครัว และเธอเลือกคนไม่ผิดแล้ว ********************** หนูนาได้ยินเสียงกดกริ่งที่หน้าประตู เธอหงุดหงิดเพราะว่าตอนนี้เทวาอยู่ที่บ้านของจิตรา จึงเดินออกไปดูข้างนอกว่ามีใครมาที่บ้าน แล้วเจอกับหนุ่มหล่อที่แต่งตัวสุภาพและดูดีเข้าทำให้ต้องรีบเปลี่ยนสีหน้า “มาหาใครคะ” เธอถามเขาแล้วอดแก้มแดงด้วยความเขินอายไม่ได้ “เอ่อ ใช่บ้านของพี่จิตหรือเปล่าครับ” เขาถามเสียงหนุ่มแล้วยิ้มหล่อกระชากใจ “บ้านน้าจิตอยู่หลังถัดไปค่ะ” เธอบอกเขาเสียงนุ่ม “อ้าว เบสมาถึงแล้วเหรอ เข้ามาบ้านพี่ก่อนสิ” จิตราร้องข้ามรั้วมาด้วยความดีใจ “ขอโทษด้วยนะครับ” เขาหันไปบอกหนูนาแล้วส่งยิ้มมีเสน่ห์ให้เธอ จนหญิงสาวละสายตาไม่ได้ “หนูนา มาทานข้าวที่บ้านนี้ก่อนสิลูก วันนี้น้าจิตเขาทำอาหารเองเลยนะ” เทวาบอกลูกสาว หนูนากำลังจะปฏิเสธ แต่ในตอนนั้นชายหนุ่มที่ชื่อเบสที่กำลังเดินเข้าไปในบ้านของจิตราก็หันมาหาเธอ “อ้าว คนกันเองหรอกเหรอครับ งั้นมาทานข้าวด้วยกันสิครับ” เสียงนุ่มๆ ของเบสที่ชักชวนเธอไปที่บ้านของจิตราทำให้หญิงสาวปฏิเสธไม่ออก “มาทานด้วยกันสิหนูนา” จิตราชวนเธออีกคนทำให้หญิงสาวลังเลเป็นอย่างมาก เบสทำหน้าตาเหมือนกำลังรอคำตอบเธออยู่ รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดี และท่าทางที่ดูอบอุ่นและขี้เล่นนั้นทำให้หญิงสาวตอบตกลงแทบจะทันที หนูนาตามเข้ามาที่บ้านของจิตรา แล้วนั่งลงเก้าอี้ว่างที่อยู่ข้างๆ เบส “เบส นี่พี่เทวานะแฟนพี่เอง ส่วนนี่หนูนาลูกสาวของเขา” จิตราแนะนำสองพ่อลูกให้กับเขาได้รู้จัก “ดีจังเลยนะครับบ้านอยู่ใกล้กันแบบนี้ ไปมาหาสู่กันได้สะดวก” ชายหนุ่มบอกเสียงนุ่ม ทำให้หนูนายิ้มแห้งๆ ไม่ได้บอกว่าเธอคือหนึ่งในลูกที่กีดกันความสุขของพ่อ “งั้นทานข้าวกันก่อนนะเบส เดี๋ยวเรื่องงานเราค่อยว่ากัน” “ครับพี่จิต” เขารับปากแล้วหันไปมองหนูนาอยู่บ่อยครั้ง ทำให้จิตรากับเทวามองหน้ากัน เหมือนชะตาเข้าข้างพวกเขามากที่ส่งเบสมาที่นี่ในวันนี้ หลังจากทานอาหารเสร็จ เทวาเข้าไปช่วยจิตราล้างจานในครัวแล้วปรึกษากันถึงเรื่องนี้ “ดูเหมือนเบสจะชอบหนูนานะคะ” “หนูนาเองก็เหมือนจะชอบเบสด้วย” ทั้งสองพูดในสิ่งที่ตนเองสังเกตเห็น แล้วยิ้มให้แก่กัน “ที่หนูนาขัดขวางเราอาจเป็นเพราะว่าเธอยังไม่เข้าใจความรัก จิตว่าถ้าเราให้เบสกับหนูหนาลองคุยกันจะดีไหม” “จิตก็คิดอย่างนั้นค่ะ ไม่แน่ว่าถ้าหนูนามีแฟนอาจจะเลิกกีดกันเราสองคนก็ได้” เธอบอกเขาด้วยความคิดที่ตรงกัน ********************** หนูนากับเทวานั่งที่โต๊ะอาหารมองจิตราและเบสคุยงานกันอยู่ที่โซฟาด้วยความตั้งใจ สายตาของหนูนานั้นมองแต่ที่เบสในขณะที่เขาก็หันมายิ้มให้เธอเป็นระยะ เทวาเห็นอย่างนั้นก็ชวนลูกสาวพูดถึงเรื่องของจิตรา “รู้ไหมว่าพอไม่ได้ไปทะเล น้าจิตเขาก็ไม่ได้ว่าจะอยู่ว่างๆ นะ เขานัดคนมาคุยงานทั้งๆ ที่วันนี้เขาควรจะได้พักผ่อนอยู่ที่ทะเลกับพ่อ จิตเป็นคนที่ขยันมากนะหนูนา ที่เธอต้องแต่งตัวนุ่งน้อยห่มน้อยไลฟ์สดขายของนั้นก็เป็นเพียงแค่การเรียกลูกค้าก็เท่านั้น เปิดใจให้เธอบ้างเถอะลูก” “เรื่องงานของเธอหนูจะไม่ยุ่งก็ได้ค่ะ แต่ว่าเรื่องดวงกินผัวหนูเป็นห่วงพ่อจริงๆ นะคะ” “มันก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นจริงพ่อก็ยอม เพราะพ่อโสดมานานแล้ว อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์กับคนอื่นเขาสักที พ่อบอกตรงๆ นะว่าพ่อเหงา” เทวาพูดเสียงเบาแล้วหันไปมองคนรักพูดคุยเรื่องงาน ท่าทีที่จริงจังและตั้งใจของเธอมันทำให้เขารู้สึกประทับใจในความขยันและตั้งใจ หนูนาไม่ได้ตอบอะไรบิดา เธอรู้ว่าที่ผ่านมาที่เขาไม่มีใครหลังจากที่แม่ทิ้งเธอกับเขาไป ก็เพราะว่าเขาห่วงเธอว่าจะถูกแม่เลี้ยงรังแก แต่ตอนนี้เธอโตแล้ว หากเขาจะมีใครก็ไม่ได้ห่วงอย่างแต่ก่อน ในตอนนั้นเวทีคุยกับจิตราเสร็จทั้งคู่ก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะกับทั้งคู่ด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าคุยงานเสร็จอย่างราบรื่น “คุณหนูนาไม่อยากลองขายสินค้าออนไลน์บ้างเหรอครับ ทุกวันนี้ธุรกิจออนไลน์กำลังมาแรงนะครับ” เบสชวนเธอคุยแล้วยิ้มให้อย่างอบอุ่น “หนูนาชอบทำงานประจำมากกว่าค่ะ” เธอบอกเขาแล้วอมยิ้มด้วยความเขินอาย จิตราจึงมองหน้ากับเทวาขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคู่พูดคุยกันตามลำพัง ทำให้ทั้งสองคนนั้นรู้แล้วว่าผู้ใหญ่มองออก และเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อกันอย่างเปิดเผย ********************** เบสพาหนูนามาที่บ้านของตนเพื่อแนะนำตัวกับที่บ้านหลังจากคบหากันได้กว่าสองสัปดาห์แล้ว ก่อนที่จะพาเธอไปชมบริษัทเล็กๆ ของเขาที่ทำสินค้าขายในช่องทางออนไลน์ แล้วพาเธอไปที่คอนโดส่วนตัว “ที่ผมพาหนูนาไปแนะนำตัวกับที่บ้านและที่บริษัทก็เพราะอยากให้รู้ว่าผมจริงใจกับหนูนานะ” เขาบอกเธอ “แล้วที่พามาคอนโดล่ะคะ” เธอถามแล้วยิ้มเขิน “ก็พามาเพื่อแสดงให้รู้ว่าผมรักหนูนาแค่ไหน” “ค่ะ” เธอยิ้ม รู้ความหมายนั้นและเต็มใจเพราะตอนนี้ทั้งคู่ก็เป็นผู้ใหญ่ มีหน้าที่การงาน เรื่องแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งเอียงอายให้ต้องเสียเวลาอีกแล้ว “วันนี้ผมบอกว่ารักหนูนาหรือยังครับ” เขาบอกเธอเสียงนุ่มแล้วขยับมายืนต่อหน้า หนูนาแทบจะละลายไปกับคำพูดและสายตาของเขา เธอรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาโน้มตัวลงมาจูบบดริมฝีปากเธออยู่ จึงคล้องคอรับจูบจากเขาด้วยความเต็มใจ เบสบดจูบอย่างนุ่มนวลแล้วแทรกลิ้นเข้าไปตวัดชิมความหวานในโพรงปาก ในขณะที่มือก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกแล้วดันตัวเธอไปที่เตียง ชายหนุ่มใช้ลิ้นหยอกล้อกับปลายลิ้นนุ่มชื้นของเธอ จนหญิงสาวครางออกมาเสียงเบาแล้วจิกแผ่นหลังของเขาเอาไว้ด้วยความสยิว เมื่อเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของเขาและเธอถูกถอดออกไปชายหนุ่มก็เลื่อนตัวลงไปพรมจูบที่หน้าท้องของเธอ ลากปลายลิ้นลงไปที่โหนกเนินนั้น แล้วใช้นิ้วแหวกกลีบงามออกเพื่อสำรวจด้านใน แล้วก้มลงไปตวัดเลียที่เม็ดกระสัน ดูดดุนมันจนหนูนาต้องจิกผ้าปูที่นอนด้วยความเสียวซ่าน นึกไม่ออกว่าถ้าถูกกระทำจะเสียวมากกว่านี้สักแค่ไหน เบสยันตัวลุกขึ้นคุกเข่าต่อหน้าเธอ แล้วจับแท่งลำนั้นถูไถไปกับร่องสวาท สบตาเธออย่างรักใคร่ก่อนที่จะกดแท่งลำเข้าไปจนสุด มองดูสีหน้าสุขสมของเธอด้วยความเสน่หา โยกสะโพกเข้าไปช้าๆ ยิ้มอย่างพอใจที่ได้เป็นคนแรกของเธอ “อ๊ะ...คุณเบส” ชายหนุ่มเพิ่มความเร็วของสะโพกซอยแท่งลำเข้าไปถี่ๆ จนเธอร้องครางออกมาเสียงหลง แล้วแอ่นสะโพกรับแท่งลำอย่างเต็มใจ แท่งลำนั้นซอยเข้าไปในตัวของเธออย่างต่อเนื่องไม่หยุด มันทำให้หนูนาถึงเส้นชัยไปอย่างง่ายดายในครั้งแรก ความเสียวซ่านปนสุขมันทำให้หญิงสาวติดใจเป็นอย่างมาก เขาเองก็ใกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว จึงจับเธอให้อยู่ในท่าคลานคุกเข่ายื่นสะโพกออกมาที่ขอบเตียง เบสลงไปยืนข้างเตียงสอดใส่เข้าไปจากด้านหลัง ซอยเข้าไปถี่ยิบก่อนจะชักแท่งลำออกมาแล้วปลดปล่อยใส่แผ่นหลังของเธอพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ “ผมมีความสุขที่สุดเลย ขอบใจนะหนูนาที่มั่นใจในตัวผม” เขาพูดด้วยเสียงหายใจหอบเหนื่อย นอนกอดเธอเอาไว้ “หนูนารักคุณเบสนะคะ” “เราไปคุยกับพ่อคุณนะ ถ้าพ่อไม่ยอมผมจะให้พี่จิตช่วยพูด” เขาพูดแล้วหอมแก้มเธออย่างรักใคร่ หนูนานิ่งคิด พอมีความรักเธอก็กลัวว่าจะถูกบิดาขัดขวางเหมือนอย่างที่เธอทำกับเขา ตอนนี้เธอเข้าใจความรู้สึกของบิดาแล้วว่าเขารู้สึกอย่างไร และเธอเองก็ได้ตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อความรักของตัวเอง ********************** หนูนานัดให้เทวาพาจิตมาเจอกันที่บ้านแล้วเธอก็พาเบสมาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการในฐานะแฟน “นี่ไปแอบคุยกันตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย” เทวาแกล้งทำเป็นถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว “พ่อค่ะ อย่าแซวหนูนาสิคะ” เธอบอกอย่างเอียงอาย “ผมเริ่มคุยกับน้องตั้งแต่วันที่เจอกันครั้งแรกเลยครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ได้มาขออนุญาตตรงๆ ตั้งแต่แรก” “เอาเถอะ เข้าตามตรอกออกตามประตูแบบนี้พ่อก็ดีใจแล้ว” เทวาบอกแล้วยิ้มให้กับทั้งคู่ “เบสเป็นคนดีค่ะ จิตรารับรองว่าเบสเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ มีการงานที่มั่นคงและก้าวหน้า อีกทั้งโสดสนิทไม่มีพันธะ คุณวางใจได้ค่ะ” จิตราพูดสนับสนุนเบสให้หนูนา ทำให้เธอรู้สึกผิดที่เคยขัดขวางความรักของทั้งคู่ “พ่อคะ น้าจิตค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เธอเรียกจิตราด้วยสรรพนามที่สุภาพและให้ความเคารพ ทำให้ทั้งคู่ยิ้มมองกันด้วยความดีใจ ตอนนี้หนูนาเข้าใจแล้วว่าบิดาก็อยากอยู่ใกล้กับคนรักเหมือนที่ตนก็อยากอยู่ใกล้คนรักเหมือนกัน “รักลูกสาวพ่อมากๆ นะเบส หนูนายังเด็กอยู่และไม่เคยมีความรัก ถ้าผิดนิดเบาหน่อยก็ค่อยๆ คุยกันนะ” เทวาพูดเป็นทำนองว่าตนเองไม่ได้ขัดขวางความรักของทั้งคู่ “ขอบคุณมากเลยนะครับ..คุณพ่อ” เบสพูดแล้วยิ้มเขินให้กับคนรัก “เอาล่ะ เราเดินออกไปคุยกันส่วนตัวดีหน่อยไหมว่าที่ลูกเขย” เทวาชวนเบสออกไปเดินคุยด้านนอก เพื่อให้หนูนากับจิตราพูดคุยกัน หลังจากที่หนุ่มๆ เดินออกไปแล้ว หนูนาก็ยกมือไหว้จิตราเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ผ่านมา “น้าจิตคะ หนูนาขอโทษนะคะที่เคย..เอ่อ ขัดขวางน้าจิตกับพ่อ” เธอบอกอีกฝ่ายเสียงเบา “ไม่เป็นไรน้าไม่ถือ ขอบใจนะที่ยอมใจอ่อนให้น้ากับพ่อรักกัน น้าดีใจนะที่ในที่สุดหนูนาก็ยอมรับเรา” จิตราบอกแล้วยิ้มให้ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขและยินดี “หนูนายอมรับนะคะว่าเคยอคติกับน้าจิต แต่ตอนนี้หนูนาเข้าใจแล้ว ขอต้อนรับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานะคะ” หญิงสาวบอกเสียงนุ่มอย่างจริงใจ จิตรายิ้มด้วยความดีใจน้ำตาของหญิงม่ายคลอเบ้าด้วยความตื้นตัน เมื่อสองหนุ่มกลับเข้ามาเห็นสองสาวคุยกันอยู่อย่างถูกคอก็เข้าไปนั่งข้างๆ คู่ของตนแล้วหันหน้ายิ้มให้แก่กันที่ความรักของพวกเขานั้นราบรื่นดีไม่มีอุปสรรคใดๆ อีกแล้ว ********************** เทวาเดินจูงมือจิตราอยู่ที่ริมชายหาด ในตอนนี้ทั้งคู่กำลังพูดคุยและหัวเราะกันอย่างมีความสุข “จิต กลับไปนี่เราจดทะเบียนสมรสกันนะ” เขาพูดกับเธอราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา จิตราเองก็เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเธออีกต่อไปแล้วเช่นกัน จึงไม่ได้น้อยใจเลยที่เขาขอแต่งงานทื่อๆ แบบนี้ “จิตอยากให้มีงานหรือเปล่า” เขาถามเธอเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร “ไม่ดีกว่าค่ะ เราแค่จดทะเบียนแล้วคุณย้ายไปอยู่ที่บ้านกับจิต ส่วนบ้านคุณก็ยกให้หนูนาอยู่แบบส่วนตัว หากเบสเขาอยากมาหาหนูนาคุณจะได้ไม่ไปเป็นกว้างขวางคอลูก” จิตราพูดแล้วหัวเราะออกมา “มีแฟนแล้วก็เลิกหวงพ่อ” เทวาพูดแล้วส่ายหน้าเบาๆ “ก็ดีแล้วไงคะ เราจะได้ลงเอยกันเสียที” จิตราหยุดเดินแล้วหันมาสบตากับเขาด้วยความรัก “ขอบคุณนะคะที่รักแม่ม่ายอย่างจิต” “ผมก็ขอบคุณที่รักพ่อม่ายลูกติดแก่ๆ อย่างผม” เขาบอกแล้วดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้ไม่สนใจคนที่มองมาด้วยความอิจฉา ทั้งคู่เดินจูงมือกันเตะคลื่นไปเรื่อยๆ ใบหน้ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมา หลังจากนี้ไปความรักของทั้งคู่ก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นกังวลแล้ว ---จบ---
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม