นันท์นลินก้าวเท้าออกจากกองเสื้อผ้าอย่างช้าๆ เธอไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไป ตอนนี้หัวสมองหนักอึ้งคิดอะไรไม่ออก คลื่นแห่งความต้องการความวาบหวามแล่นพล่านไปทั่วกายจนเธอนึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ มือบางสั่นระริกค่อยๆ ยกขึ้นแตะแผ่วเบาตรงอกกว้างบึกบึนมีไรขนอ่อนๆ เต็มไปทั่วไล่ลงมาจนถึงขอบกางเกง เธอเลียริมฝีปากที่แห้งเผือดจ้องมองหน้าอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสวยงาม มือบางนุ่มเนียนค่อยๆ เลื่อนจากหน้าอกข้างขวาไปที่หน้าอกข้างซ้าย เธอรับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวเร็วตึกตักที่ปะทะกับมือเธอ ราวกับมือบางมีชีวิตชีวารู้หน้าที่ของตนเอง มันค่อยๆ เลื่อนต่อไปเรื่อยๆ จนถึงหน้าท้องแบนราบแล้วหยุดนิ่งอยู่ที่ขอบกางเกง
กัปตันบารอนแทบคลั่งตอนที่มือนุ่มเนียนลูบไล้เบาบางสะแปะสะปาไร้เดียงสาบนตัวเขา เลือดในกายทุกหยดวิ่งมารวมกันอยู่ที่ใจกลางแก่นกายที่กำลังเต้นตุ๊บๆ ด้วยความต้องการ ริมฝีปากอวบอิ่มแดงระเรื่อที่เผยอขึ้นน้อยๆ อย่างไม่รู้ตัว ลิ้นสีชมพูที่ตวัดมาไล้ริมฝีปากที่แห้งผากของเจ้าของทำให้ความต้องการของเขาสิ้นสุดลง
มือหนาอบอุ่นกระชากร่างบางเปล่าเปลือยงดงามยิ่งกว่าประติมากรรมชิ้นเอกเข้ามาแนบชิดกาย ปากร้อนผ่าวกดจูบดุเดือดเร่าร้อนดูดดื่มที่เรียวปากอวบอิ่มสีหวาน
“พระเจ้า!...เธอมันคลีโอพัตรากลับชาติมาเกิดชัดๆ”
บารอนคำรามชิดกับเรียวปากอวบอิ่ม มือหนาสอดเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มสลวยนวดคลึงหนักเบาก่อนจะตรึงให้ศีรษะกลมทุยเงยหน้าขึ้นรับจุมพิตของเขาให้ถนัดถนี่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างโดยฉุดให้ร่างบางระหงล้มลงมาทาบทับตัวเขาไว้จากนั้นก็พลิกกลับให้ร่างบางอยู่ด้านล่างกายเขา ริมฝีปากร้อนผ่าวยังแนบชิดกดจูบดูดดื่มไม่ยอมผละออกแม้แต่วินาทีเดียว
นันท์นลินสั่นสะท้านทั่วกายไม่เข้าใจว่าทำไมร่างกายของเธอถึงได้ตื่นเต้นกระตือรือร้นตอบสนองจุมพิตเร่าร้อนที่กัปตันดี ทีสต์หยิบยื่นให้ มือบางที่ตั้งใจจะผลักร่างสูงแข็งแกร่งกลับยกขึ้นไปลูบไล้ทั่วแผ่นหลังกว้าง ริมฝีปากอวบอิ่มจูบตอบไม่ประสีประสาตามแรงดึงดูดเชิญชวนของอีกฝ่าย เธอกำลังพ่ายแพ้ต่อแรงเสน่หาเร่าร้อน
แผดเผาที่กัปตันดี ทีสต์ มอบให้ เธอต้องหยุดเขาก่อนที่เธอจะพ่ายแพ้ต่อความปรารถนาที่กำลังแล่นพล่านอยู่ทั่วกาย เธออาจแสดงออกด้วยท่าทางก๋ากั่นราวกับหญิงสาวที่กร้านโลก แต่ภายในลึกๆ เธอกำลังหวาดหวั่น กลัวไฟร้อนที่กำลังลามเลียทั่วกาย
“คุณดี ทีสต์ เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนค่ะ”
หญิงสาวละล่ำละลักพยายามเบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากร้อนรุ่มที่กำลังกดจุมพิตเร่าร้อนจนทำให้สมองเธอมึนงงสับสนคิดอะไรไม่ออก
บารอนเหลือบสายตามองหญิงสาวครู่หนึ่ง เขาเห็นความสับสน หวาดหวั่นไม่แน่ใจในดวงตาคู่สวยที่กำลังมองมาอย่างหวาดกลัว เขารู้ว่านันท์นลินยังไม่พร้อมกับสิ่งที่เขากำลังจะหยิบยื่นให้ แต่ให้ตายเถอะ!...ตอนนี้ไฟรักร้อนรุ่มที่ครอบงำร่างกายเขาอยู่แทบทำให้เขาทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“ได้โปรด!...คุณดี ทีสต์ หยุดก่อน”
“ทำไม หรือว่าเธอจะเปลี่ยนใจ”
บารอนเอ่ยถามเสียงแหบพร่าชิดกับริมฝีปากนุ่ม มือหนาอุ่นจนร้อนยังลูบไล้อยู่แถวๆ ปทุมคู่งามอวบอิ่มน่าหลงใหลชวนให้สัมผัส
“ไม่...คือ...นลิน...ขอเวลาก่อนได้มั้ยคะ”
หญิงสาวเอ่ยร้องขอเสียงตะกุกตะกัก พยายามยกมือปิดบังปทุมคู่งามจากนัยน์ตาสีทองที่จ้องมองจนทำให้เธอร้อนผ่าวไปทั้งตัว
บารอนหัวเราะเยาะหยันในลำคอ “เพิ่งเคยเห็นคุณตัว...ที่ขอถ่วงเวลาคนซื้อ”
นันท์นลินกัดริมฝีปากแน่นกับน้ำคำถากถางที่เปล่งออกมาให้เจ็บปวดกายทุกคราวไป เธอเบือนหน้าหนีนัยน์ตาสีทองที่กำลังจ้องมองมาก่อนจะเอ่ยร้องขอแผ่วเบา
“นลิน...ขอเวลาแค่วันนี้เท่านั้น หลังจากนั้นนลินจะทำตามที่คุณต้องการทุกอย่าง”
บารอนจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มที่เจ้าตัวชอบกัดเม้มขบแน่นทุกครั้งที่ต้องการข่มโทสะความหวาดหวั่น เธอไม่รู้หรือไงว่าการกระทำแบบนี้ทำให้ริมฝีปากหอมกรุ่นบอบช้ำได้ง่าย เขาทรุดตัวซบหน้านิ่งระหว่างปทุมอวบอิ่มคู่งาม กัดฟันกรอดๆ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับความต้องการ พยายามบังคับข่มร่างกายตัวเองให้สงบนิ่งจากนั้นก็พลิกตัวออกจากเรือนร่างหอมกรุ่มที่กอดทาบทับอยู่
“วันนี้วันเดียวเท่านั้นนลิน วันนี้วันเดียว...หลังจากนั้นเธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับฉันอีก”
กัปตันบารอนก้าวลงจากเตียงหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่ตกอยู่แทบเท้าให้หญิงสาวอีกครั้ง จากนั้นก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้มาสวมใส่อย่างกระแทกกระทั้น เขาหันไปมองหญิงสาวที่นั่งหน้าตื่น กัดเม้มเรียวปากอิ่มเอิบสีหวานเข้าหากันแน่นจนเขานึกขัดใจ นัยน์ตาสีทองละจากสิ่งสวยงามตรงหน้าที่เร้าอารมณ์ดิบเขาที่สุดก่อนจะสาวเท้ายาวๆ กระชากประตูเคบินให้เปิดออกกว้างแล้วกระแทกปิดจนบานประตูแทบหลุดออกมาได้
“บัดซบ!”
กัปตันบารอนยืนนิ่งอยู่หน้าห้องเคบินพร้อมกับสบถเสียงดัง ใบหน้าคมสีแทนถมึงทึงนัยน์ตาสีทองลุกโชนเป็นไฟ ความโกรธอัดแน่นทั่วอกขณะที่สาวเท้ายาวๆ ไปบนบันไดแคบ ให้ตายเถอะ!...เขาไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนเหมือนกับต้องการนันท์นลิน...หญิงสาวที่ไร้ประสบการณ์เรื่องเพลงรัก เขาไม่เคยจดจำผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ ไม่มีใครทำให้เขาจดจำได้เท่ากับนันท์นลิน
ทุกคราที่หลับตาเขาเห็นแต่แววตากลมโตที่ตื่นตระหนกในขณะเดียวกันก็กระตือรอร้นที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เขาเชิญชวนชักนำ น้ำเสียงไพเราะดุจดังระฆังแก้วที่เล็ดลอดเสียงครางออกมาเบาๆ ทำให้เลือดในกายเขาแล่นพล่านร่ำๆ อยากให้เธอปลดปล่อยออกมาเต็มเสียงไม่ต้องกักเก็บไว้ เรือนร่างที่งดงามยิ่งกว่าภาพวาดนุ่มเนียนมือยิ่งกว่าผ้าไหมชั้นดี กลิ่นหอมละมุนละไมติดตราตรึงใจทำให้เขาลืมเธอไม่ลงจริงๆ
นันท์นลินสะดุ้งเฮือกตอนที่ประตูเคบินถูกกระแทกปิดพร้อมกับเสียงสบถดังของกัปตันบารอน เธอรีบหยิบเสื้อเชิ้ตสีฟ้ามาสวมอย่างรวดเร็ว เสื้อตัวนี้ดีกว่าชุดนอนที่เธอสวมติดกายมาอย่างน้อยแขนที่ยาวเฟื้อยจนต้องพับเข้าหากันหลายทบก็ยังให้ความอบอุ่นเธอได้ดีกว่าชุดนอนบางใส เสื้อเชิ้ตสีฟ้าที่มีกลิ่มหอมสะอาดของบุรุษเพศทำให้ร่างกายเธอสั่นสะท้านไหวสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่สูดกลิ่นอาฟเตอร์เชพอ่อนๆ ที่ยังติดแนบแน่นอยู่กับตัวเสื้อ หญิงสาวเอนตัวลงนอนบนเตียงหนานุ่มอย่างอ่อนล้า น้ำตาอุ่นรื้นขอบตาเมื่อนึกถึงชะตากรรมของตนเอง เธอกดหน้าลงกับหมอนใบใหญ่สูดสะอื้นจนตัวสั่นโยน แรงกดดันจากรอบกายที่เผชิญมาตั้งแต่หัวค่ำกอปรกับความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าทำให้เธอหลับไปพร้อมกับน้ำตานองใบหน้า
ลุกซ์ ต้นหนเรือแอบอมยิ้มเมื่อเห็นกัปตันบารอนเดินเข้ามาในห้องบังคับเรือด้วยใบหน้าถมึงทึง นัยน์ตาแดงก่ำลุกโชนด้วยไฟปรารถนาที่เจ้าตัวปิดไว้ไม่มิด เขาเชื่อว่าคนที่ทำให้กัปตันบารอนเดือดพล่านราวกับเสือดำคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากหญิงสาวแสนสวยที่อยู่ในห้องเคบิน
“ขอเหล้าแก้วหนึ่ง”
กัปตันบารอนสั่งลูกเรือเสียงห้วน เมื่อมาร์คยื่นสก๊อตวิสกี้ให้ครึ่งแก้วเขาก็สาดเข้าลำคออย่างรวดเดียวราวกับว่าต้องการให้ความร้อนผ่าวของเหล้าช่วยดับความร้อนรุ่มอันเกิดจากไฟรักที่กำลังแล่นพล่านอยู่ทั่วกาย