ตอนที่ 15

1802 คำ
ศศิมากับดาริกา มัวยุ่งๆ เรื่องงาน รวมถึงเรื่องที่รีสอร์ท ทำให้ไม่ได้ติดต่อกับพิมพ์พลอยเป็นแรมเดือน ฝ่ายนั้นก็คงวุ่นวายเรื่องงานจะได้เห็นข่าวคราวเพื่อนบ้าง ก็จากหน้าหนังสือพิมพ์ หรือข่าวทางทีวี ดาริกายังไม่ได้เกริ่นคุยเรื่องของพระพายกับพิมพ์พลอย แต่ในเมื่อเงียบๆ กันทั้งสองคน น่าจะถือเป็นเรื่องดี เพราะศศิมาเองก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรเกี่ยวกับพระพายเลย “มีข่าวไต้ฝุ่น ในทีวีด้วยค่ะ” ดาริกาบอกกับศศิมา “ข่าวอะไรล่ะ” “เรื่องหนุ่มๆ กับเรื่องแต่งงาน” ดาริกายิ้มจางๆ เมื่อบอกกับศศิมา “นักข่าวเขาไม่เบื่อกันบ้างหรือไงนะ ไม่เห็นถามเรื่องโรงแรมที่สร้างใหม่เลย มีแต่ข่าวเรื่องผู้ชาย เรื่องความสวยความงาม เรื่องกระเป๋าแบรนด์เนม” “ทำพูดดี เมื่อก่อนก็แบบนี้ไม่ใช่หรือคะ” “ใช่ค่ะ ถึงได้มาอยู่ที่นี่ไง พี่ยังโชคดีที่พ่อกับแม่เข้าใจ และให้อิสระ” “ท่านน่ารักมากค่ะ เป็นโชคดีของดาวด้วย เลยได้มีพี่ศศิอยู่ใกล้ๆ” “คิดถึงไต้ฝุ่นกับไอ้พลอยเหมือนกันนะ เวลาทะเลาะกันได้ยินก็สนุกดี ไม่รู้เป็นอย่างไรกันบ้าง” ศศิมายิ้ม เมื่อนึกถึงสองสาวเวลา ปะทะคารมกัน “เดี๋ยวดาวโทรฯ ไปหาไอ้พลอยดีกว่า ไม่ได้คุยกันมาเดือนหนึ่งได้แล้วมั้งคะ คุยครั้งสุดท้ายก็ที่ไปทานข้าวนั่นล่ะ” ดาริกายิ้ม หยิบโทรศัพท์มาโทรฯ หาเพื่อนรัก ซึ่งรับสายในทันที “เฮ้ คิดถึงจะแย่ล่ะ” พิมพ์พลอยทักทายขึ้นก่อน “หวานไปนะ แก” ดาริกายิ้มๆ “สวัสดี ไอ้พลอย สบายดีไหม” ศศิมาพูดทักทายพิมพ์พลอย “สบายดีค่ะ ว่าจะไปหาอยู่พอดีเลย” พิมพ์พลอยยิ้ม “ที่รีสอร์ท หรือ” “ค่ะ ทำงานทั้งเดือน ไม่ได้พักเลยค่ะ พี่ศศิ เลยขอหยุดยาวๆ หนึ่งสัปดาห์ ว่าจะไปเป็นก้างขวางคอพี่ศศิกับไอ้ดาวสักอาทิตย์ หนึ่ง สะดวกไหมคะ” พิมพ์พลอยถาม “ได้สิ คนเดียว หรือแฟนมาด้วย” “คนเดียวค่ะ รออีพี่โจ คงได้เที่ยวหรอกนะ รายนั้น งานรัดตัวจนจะปล่อยให้แต่งกับงานอยู่แล้วล่ะคะ พลอยบอกพี่โจแล้วค่ะ พี่โจยังบ่นเสียดายเลย อยากไปนั่งจิบไวน์กับพี่ศศิจะแย่ล่ะ รายนั้น” พิมพ์พลอยพูดยิ้มๆ “ก็ให้ตามมาสักวันสองวันก็ได้นี่ ยินดีต้อนรับจ้ะ” “ดีจัง ไม่ได้เมากับแกมานาน เมากันหน่อยไหมล่ะ รอบนี้” ดาริกายิ้มเมื่อเห็นสายตาดุๆ ของศศิมา “เออดีเหมือนกันนะ นานแล้วจริงๆ ว่าแต่พี่ศศิจะด่าฉันปะวะ พากันเมาเนี่ย” พิมพ์พลอยหัวเราะคิกคัก “ใช่เรื่องไหมเนี่ย เมาตื่นเช้ามาก็ปวดหัว ดื่มได้ แต่อย่าถึงกับเมาเลยดีกว่าไหม พี่เลี้ยงได้ทุกวันเลยนะไวน์น่ะ แต่แค่เบาๆ กันก็พอ” ศศิมาพูดกึ่งดุกึ่งปรามสองสาวที่หัวเราะออกมาเสียงลั่น “ไม่เคยเห็นไอ้ดาวเมาใช่ไหมคะ พี่ศศิ” พิมพ์พลอยถาม “ยัง” ศศิมาพูดเสียงเข้ม “โหน่าเสียดาย ไอ้ดาวน่ะ เวลาเมาน่ารักมาก ขี้อ้อนที่สุด กับพลอยน่ะ มันยังอ้อนจนพลอยแทบจะหลง พี่ศศิเอ๊ย ถ้าเป็นพี่นะ ไม่หลงพลอยให้เหยียบเลย” พิมพ์พลอยอมยิ้ม ไม่รู้สองสาวที่อยู่ปลายสายเป็นอย่างไรบ้าง “เหรอ อย่ามาหลอกล่อ ปกติอยู่ด้วยกันนี่ก็น่ารักมากอยู่แล้ว ดื่มได้ แต่ห้ามเมาหัวราน้ำ ไม่งั้นฉันเก็บค่าไวน์เธอหมดตัวแน่ แม่ พิธีกรและนักข่าวสาว” ศศิมาพูดปรามพิมพ์พลอยอย่างชัดเจน “อากาศดีๆ แบบนี้ ไปคนเดียว เห็นไอ้ดาวกับพี่ศศิหวานกัน ก็แย่สิ” “ก็หาคนมาด้วยสิ” ดาริกายิ้มๆ นึกถึงพระพายขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินเพื่อนรักพูด “พี่โจ ไม่ว่างนี่จ้ะ” “คนอื่นสิจ้ะ เผื่อว่าง” ดาริกาหัวเราะคิกคักที่ได้แกล้งเพื่อน “มีใครที่ไหนล่ะแก แค่นี้ก่อนนะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน” พิมพ์พลอยพูดตัดบท เพราะรู้ดีว่า คนที่ดาริกากำลังจะพูดถึงนั้นเป็นใคร ถ้าไม่ รีบตัดบทคงได้พูดถึงชัดเจนกว่านี้ ซึ่งพิมพ์พลอยไม่อยากจะนึกถึงนัก พระพายนั่งหน้าบูดบึ้ง มองผ่านโต๊ะของกุลธิดาที่ยังก้มหน้าก้มตาทำ งาน วิวด้านหลังโต๊ะทำงานของกุลธิดาเต็มไปด้วยต้นไม้สี เขียวชอุ่ม มองทีไรก็ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ทุกที กุลธิดาเงยหน้าขึ้นมาจากแฟ้มงาน อมยิ้มเมื่อเห็นพระพายนั่งหน้าบูด อดที่จะนึก สงสารไม่ได้คงจะเหนื่อยมากวันนี้ เพราะออกไปตากแดดตรวจงาน เมื่อช่วงสายๆ ซึ่งอากาศร้อนจัด หลายเดือนมานี้เจ้า นายของ กุลธิดาแทบจะไม่ได้มีวันหยุดพักผ่อนจริงๆ เลยก็ว่าได้ อีกอย่างก็คือภาระอันหนักอึ้ง เรื่องโรงแรมที่กำลังสร้าง และยังต้องควบคุมให้เสร็จทันตามกำหนด ถึงแม้ว่าจะเก่งกาจขนาดไหน อย่างไรก็ต้องมีเวลาเหนื่อยเวลาท้อกันบ้างคนนั่งหน้าบูดยังคงจ้องมองออกไปทางด้านนอกเหมือนเดิม “เหนื่อยก็กลับบ้านไปพักเถอะคะ หรือจะไปพักที่ห้องพักชั้นบนก็ได้” กุลธิดายิ้มๆ เมื่อเห็นคนหน้าบูดแสร้งทำท่าสลบหมอบลงไปกับโต๊ะทำงาน “อยากอยู่ที่เงียบๆ สักสองสามวัน โดยไม่มีเรื่องงานบ้างจังเลยค่ะ” “แว๊บ ไปสิคะ” กุลธิดาอมยิ้ม เมื่อเห็นแววตาสดใสของพระพาย “ได้หรือคะ พี่กุล” พระพายถาม และออกอาการดีใจ อันที่จริงพระพายจะไปไหนมาไหนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวกับกุลธิดา แต่เจ้าตัวมักจะบอกกับกุลธิดาอยู่เสมอว่า ถ้าตัวเธอเหลวไหลไม่ทำงาน ภาระก็คงจะต้องไปตกอยู่กับกุลธิดา แถมกุลธิดาอาจจะโดนมารดาของเธอเอ็ดตะโลเอาอีก เธอจึงเลือกที่จะอยู่ทำงานเสียมากกว่า เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย “คุณไต้ฝุ่น เป็นเจ้านายกุลนะคะ ถามแปลกๆ” กุลธิดาอมยิ้ม มองคนที่เดินเข้ามาสวมกอด “รักพี่กุลมากที่สุดในโลก รู้ใจไปเสียทุกเรื่อง อันที่จริงถ้าเกิดมาเป็นพี่น้องกันจริงๆ คงจะดีนะคะ แม่จะได้ไม่จ้องมาที่ฝุ่นคนเดียว คงไปจ้องที่พี่กุลคนขยันแทน” พระพายพูดยิ้มๆ “แบบนี้ดีแล้วค่ะ ได้ดูแลคุณไต้ฝุ่น กุลก็มีความสุขแล้ว คุณท่านเองก็กรุณากุลเหมือนลูกเหมือนหลาน บุญคุณที่มีท่วมท้นจนกุล ไม่รู้ว่า จะทดแทนท่านได้หมดไหมในชาตินี้” กุลธิดายิ้ม สิ่งที่เธอได้พูดออกมาเป็นคำพูดที่ออก มาจากใจจริงของเธอ “ถ้าเลือกได้นะ แม่คงเลือกพี่กุลมาเป็นลูกสาวแทนฝุ่นแล้วล่ะคะ” “คุณไต้ฝุ่นพูดอะไรก็ไม่รู้ ตกลงยังไงคะ อยากไปไหนที่จะช่วยให้หายหน้าบูดบึ้งได้บ้าง กุลอยากเห็นยิ้มสวยๆ อยากเห็นคุณ ไต้ฝุ่นร่าเริง ไปทะเลสักสองสามวันก็ได้นะคะ งานทางนี้กุลจัดการเอง รวมถึงเรื่องคุณท่านด้วยค่ะ” กุลธิดายิ้ม เมื่อเห็นดวงตาเป็นประกายวาววับ อาการหน้าบึ้งคลายลงไปบ้าง “เบื่อทะเล แดดแรง ร้อนมากด้วยค่ะ ช่วงนี้” พระพายบ่นพึมพำ “รีสอร์ทคุณศศิ คงไม่เบื่อ อย่างน้อยก็มีคุณพี่อันเป็นที่รักอยู่ด้วย แถมยังคุณดาวแฟนเธออีก น่าสนุกอยู่นะคะ” กุลธิดาพูดยิ้มๆ หากพระพายเลือกที่จะไปพักที่รีสอร์ทของศศิมาคงหายห่วง เพราะอย่างน้อยก็มีคนรู้จักอยู่ด้วยถึงสองคน “จริงด้วย ลืมพี่ศศิไปเลยค่ะ ที่นั่นต้นไม้เยอะ ไม่ร้อน อีกอย่างได้มีเพื่อนคุยด้วย รักพี่กุลที่สุด” พระพายโผเข้ากอดกุลธิดาอีกครั้ง คนถูกกอดอดที่จะขำไม่ได้ กับความน่ารักของพระพายที่ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยจะได้เห็นความน่ารักและร่าเริงบ่อยนัก “ถ้าอย่างนั้น ฝุ่นจะบอกแม่ว่า ฝุ่นพักที่โรงแรมก็แล้วกันนะคะ เผื่อมาถามกับพี่กุล จะได้ไม่ต้องโกหกท่านเนอะ” พระพายยิ้มให้ กุลธิดา “ค่ะ กลับมาเข้ามาหากุลก่อนนะคะ จะได้รายงานความคืบหน้าเรื่องงาน ค่อยกลับเข้าบ้าน เผื่อโดนซักฟอกเนอะ” กุลธิดายิ้มๆ เมื่อใช้คำลงท้ายแบบเดียวกับพระพายที่หัวเราะออกมาให้เห็นฟันขาวๆ เรียงสวย ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ใบหน้าดูสวยสดใสและงดงามมากขึ้น “ขอบคุณมากค่ะ ถ้าอย่างนั้น ฝุ่นไปเลยนะ จะได้ถึงโน่นไม่ดึก ถึงแล้วจะโทรฯ มารายงานตัวนะคะ รู้ว่ามีคนเป็นห่วงมากมายก่าย กองนะคะ คุณพี่ สาวคนสวย” พระพายยิ้ม รู้สึกสุขใจกับการได้ทำงานและเติบโตมากับกุลธิดาที่เข้าใจทุกเรื่องราวในชีวิตของเธอ “อย่าไปเรียกให้ใครได้ยินเชียวนะคะ เดี๋ยวใครจะว่ากุลเอา ไม่ดีหรอกค่ะ เป็นลูกจ้างคุณไต้ฝุ่นก็พอแล้วนะคะ” กุลธิดาเจียมเนื้อเจียมตัวมาแต่ไหน แต่ไร บิดากับมารดาถึงได้ดูแลอุ้มชูและเลี้ยงดูมาอย่างดี เหมือนเป็นดังญาติสนิท พระพายเองรู้สึกมาตลอดว่า กุลธิดาเป็นดั่งพี่สาวแท้ๆ ของเธอมาตั้งแต่เยาว์วัย “ไม่พูดก็ได้ แต่พี่กุลรับรู้ไว้ด้วยนะคะ ว่าฝุ่นรักและนับถือพี่กุลเหมือนพี่สาวแท้ๆ และจะดูแลพี่กุลให้ดีที่สุด” พระพายพูดอย่างนี้ อยู่บ่อยครั้งและทำเช่นนั้นเสมอมา รักและเคารพกุลธิดามาตลอด “ขอบคุณมากนะคะ พูดมาเป็นหมื่นครั้งแล้วนะ แบบนี้ จำได้แล้วค่ะ ไปเถอะ เตรียมตัวเดินทาง อ้อขับรถก็อย่าเร็วนักนะคะ พี่จะคำนวณเวลานะ ถ้าโทรฯ กลับมาเร็วมากแสดงว่า ขับรถเร็ว จะโทรฯ ไปฟ้องคุณท่านนะคะ” “ค่ะ สัญญาจะขับกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ พี่กุลก็อย่าอยู่ดึกนักนะคะ หรือนอนที่นี่ดีกว่า ไม่ต้องขับรถ” พระพายพยักพเยิด จ้อง มองคนที่กำลังทำท่าคิด และกำลังยิ้มให้เธออยู่ “ดีเหมือนกัน เผื่อมีอะไรระหว่างที่คุณไต้ฝุ่นไม่อยู่ เฝ้าถ้ำไว้ให้ก็ได้ค่ะ” เสียงหัวเราะของสองสาวดังขึ้นพร้อมๆ กัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม